ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Copilot + PC ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite นั้นเปิดตัวมาสักพักแล้ว และตอนนี้ในต่างประเทศก็เริ่มวางจำหน่าย และมีบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อย หลายสื่อใช้ ASUS Vivobook S 15 ในการรีวิวซึ่งเห็นตรงกันว่าแบตเตอรี่อึดขึ้นมากใกล้เคียงกับ Macbook ของ Apple แล้ว แต่ในด้านประสิทธิภาพ แม้จะใช้งานกับโปรแกรมที่เป็น x86 ได้ดีกว่าที่คาด แต่ในด้านการเล่นเกมกลับยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยมีตัวอย่างบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ดังนี้
Windows Central บอกว่าในที่สุดก็มีคู่แข่งที่สูสีกับชิป Apple Silicon จากฝั่ง Windows เสียที ชิป Qualcomm Snapdragon X Elite ยกระดับแล็ปท็อปจากเดิมที่เป็นแค่ดีกลายเป็นยอดเยี่ยมประสิทธิภาพสูสีกับชิป M3
ฟีเจอร์ Copilot+ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนจากการประมวลผล AI บนเครื่องคือฟีเจอร์การสร้างภาพในแอป Photos ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการแสดงผลลัพธ์หลังจากใช้ Prompt ลงไป
ด้านการใช้โปรแกรมที่ไม่ใช่ ARM ทำงานได้ดีเกือบทั้งหมด ยกตัวอย่าง Adobe Premiere Pro สามารถตัดต่อวิดีโอความละเอียด 1080p 30fps ได้สบาย ๆ แต่ถ้าเป็นงานที่มีหลายเลเยอร์และเอฟเฟคหลายชั้น หรือวิดีโอ 4K 60fps จะเห็นอาการเฟรมร่วงระหว่างการดูตัวอย่างไทม์ไลน์ และการเรนเดอร์วิดีโอจะใช้เวลานานกว่าเครื่องที่ใช้ชิป Intel ตรงจุดนี้อาจต้องรอ Adobe ปล่อยโปรแกรมเวอร์ชัน Arm ออกมาก่อน
ด้านการเล่นเกม Windows Central พบว่าเกมส่วนใหญ่ใน Microsoft Store ไม่สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ ส่วนเกมบน Steam ทีมงานลองโหลด Halo Infinite และ Apex Legends แล้วพบว่าเครื่องแจ้งเตือนว่าไม่รองรับ ARM64 CPU เกมที่เล่นได้คือ GTA V ที่ความละเอียด 1080p 60-70fps ในระดับ Medium กับ High และ Marvel's Spider-Man Remastered เล่นได้ที่ 1080p 40fps ในระดับ Low กับ Medium แต่มีบั๊กในคัทซีน เช่น การเรนเดอร์ผมของตัวละคร
ภาพจาก Windows Central
ประสิทธิภาพของ Snapdragon X Elite ได้ผลลัพธ์ที่ดีในแง่ของการทำงานแบบมัลติคอร์ (Multicore) จากโปรแกรมทดสอบอย่าง Cinebench 2024 และ PCMark 10 แต่กลับมีประสิทธิภาพด้อยกว่าในส่วนอื่น ๆ เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารหัสวิดีโอ การแยกไฟล์ หรือการแปลงเอกสาร โดยโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Intel Core Ultra 7 155H มักจะมีประสิทธิภาพนำหน้าอยู่ 50% หรือมากกว่านั้น
แม้ว่าจะมาพร้อมกับแรม LPDDR5X-8448 แต่ก็ยังตามหลังโน๊ตบุ๊คของ Intel ในการทดสอบการคัดลอกและเขียนข้อมูลด้วยโปรแกรม AIDA64 แต่ชิปตัวนี้มีค่าความหน่วงแรมที่น่าประทับใจเพียง 8.1 นาโนวินาที ในขณะที่โน๊ตบุ๊คของ Intel อยู่ที่ 100 นาโนวินาทีขึ้นไป นอกจากนี้ยังเอาชนะโน๊ตบุ๊คของ Intel ในเรื่องประสิทธิภาพการอ่านแรม
ในแง่ประสิทธิภาพ ชิป Snapdragon X Elite ทำงานเร็วมาก ประสิทธิภาพกับโปรแกรม x86 ทำงานได้เทียบเท่ากับแล็ปท็อปส่วนใหญ่ในตลาด แต่ถ้าเป็นโปรแกรม Arm แท้ ๆ ประสิทธิภาพจะดีกว่ามาก ส่วนแบตเตอรี่ Dave2D พบว่าแบตอึดกว่า Macbook ด้วยซ้ำใช้งานข้ามคืนลดไป 2% แต่ถึงจะเป็นจุดเปลี่ยนของแล็ปท็อป Windows แต่เขาบอกว่า Microsoft จำเป็นต้องปรับแต่งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดีขึ้น
อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นยอดเยี่ยม ผู้รีวิวสามารถใช้งานได้มากกว่า 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ประสิทธิภาพนั้นดีมากสำหรับโปรแกรมเวอร์ชัน ARM เช่น Microsoft Edge, Google Chrome, Photoshop และ Da Vinci Resolve แต่ยังเอาใช้เล่นเกมไม่ดีเท่าไหร่ Matthew บอกว่าจะเสียประสิทธิภาพไปประมาณ 50% เปิด Diablo IV แล้วค้างรัว ๆ, Fortnite เกมก็ไม่โหลด, Overwatch 2 เล่นได้แค่ Windowed Mode แถมล็อคความละเอียดไว้ที่ 1200 x 800 ส่วน Dirt 5 ที่บอกว่ารองรับ ARM แล้วเล่นได้ที่ 19 fps เท่านั้น
มองว่านี่เป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญของแล็ปท็อป Windows ที่ใช้ชิป ARM แทนชิป x86 ชอบประสิทธิภาพของแล็ปท็อป รวดเร็ว, ทำงานได้ดีบนตามมาตรฐาน และเงียบมาก เสียงพัดลมจะเสียงเฉพาะตอนทำงานหนักหรือตอนเล่นเกมเท่านั้น ซึ่งในแง่การเล่นเกม TechTablets ลองเปิด The Witcher 3 แล้วพบว่าค่อนข้างหายนะมีอาการกระตุกตลอดเวลา ซึ่งเขาให้ความเห็นว่าสเปคขนาดนี้ควรได้เฟรมเรตที่ลื่นกว่าเป็นอยู่ 2 เท่า
อย่างไรก็ดีตอบผลรับด้านการเล่นเกมของนักวิจารณ์กลับไม่ตรงกับฐานข้อมูลของ Microsoft ซึ่งบอกว่า
แต่โดยรวมแล้วการมาถึงของชิป Snapdragon X Elite และ Copilot + PC ถือเป็นเริ่มต้นศักราชใหม่ของ Windows บน ARM ที่ดี และดูมีอนาคต
ที่มา - Windows Central, Digitaltrends และ Tech Power Up