สำนักอุตสาหกรรมและความปลอดภัยของสหรัฐ ออกคำสั่งแบนห้ามจำหน่ายซอฟต์แวร์ของ Kaspersky ภายในประเทศ ซึ่งระบุว่าเป็นการออกคำสั่งแบนแอปป้องกันไวรัสเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เนื่องจาก Kaspersky เป็นบริษัทจากรัสเซีย
ที่ผ่านมา Kaspersky ต้องเผชิญกับปัญหาคำสั่งแบนจากหลายประเทศ โดยสหรัฐเริ่มออกคำสั่งห้ามใช้งานซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์ของหน่วยงานรัฐ มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่ง Kaspersky ก็ฟ้องกลับหลังจากนั้น จากนั้นสภายุโรปก็ออกคำสั่งให้อุปกรณ์หน่วยงานรัฐหยุดใช้งานเช่นกัน ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วคือแคนาดา
คำสั่งนี้มีผลให้ Kaspersky ถูกระงับการขายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป บริษัทยังสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าได้ถึง 29 กันยายน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอัปเดตได้อีกหลังจาก 29 กันยายน ทางการสหรัฐจึงแนะนำให้ผู้ใช้งาน Kaspersky อยู่ปัจจุบัน เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์อื่นเนื่องจากจะไม่ได้รับอัปเดตความปลอดภัยแล้ว
Kaspersky ออกแถลงการณ์ต่อคำสั่งดังกล่าว ว่าบริษัทจะยังดำเนินงานในสหรัฐตามปกติในทุกช่องทางที่ยังสามารถทำได้ บริษัทเชื่อว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นผลจากแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งความเชื่อในประเด็นต่าง ๆ โดยไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานของผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Kaspersky เอง
ที่มา: TechCrunch และ Kaspersky