ในอดีต iFixit เคยบอกว่าอุปกรณ์ตระกูล Surface ขึ้นชื่อเรื่องการแกะซ่อมเองได้ยาก และเคยได้ 0/10 มาแล้ว แต่ทว่าการมาของ Surface Pro 9 ทำให้คะแนนซ่อมง่ายเพิ่มขึ้นมาอย่างมากได้ 7/10
ปัจจุบันอุปกรณ์รุ่นล่าสุดอย่าง Surface Laptop 7 และ Surface Pro 11 ก็วางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว iFixit ก็ไม่พลาดนำมาลองแกะดู ซึ่งคราวนี้ให้คะแนนซ่อมง่ายถึง 8/10 ทั้ง 2 รุ่น
สำหรับ Surface Laptop 7 นั้น iFixit บอกว่าเป็นอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อการซ่อมแซม แทบจะตรงกันข้ามกับ Surface Laptop รุ่นดั้งเดิม แม้จะไม่ใช่โน้ตบุ๊กประเภท Framework 13 (โน้ตบุ๊กที่เน้นการออกแบบให้อัปเกรดได้ง่าย) แต่ก็ได้แรงบันดาลใจมาอย่างชัดเจน
สิ่งแรกเมื่อถอดแผ่นด้านล่างของเครื่องที่ยึดด้วยแม่เหล็กออกคือรหัส QR ที่พาไปดูคู่มือการซ่อมบนเว็บไซต์ของ Microsoft เป็นคู่มือที่ถูกทำขึ้นตั้งแต่วันที่เปิดตัวสินค้า ต่อมาที่เจอคือสัญลักษณ์เล็ก ๆ ที่ Microsoft เรียกว่า Wayfinders ซึ่งระบุว่าส่วนประกอบต่าง ๆ ถูกยึดด้วยสกรูประเภทใด และมีปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ถอดแยกชิ้นส่วนได้ง่ายขึ้น
iFixit ยกตัวอย่างว่าหากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็ทำได้ง่ายมากเพราะมีสกรูและขายึดเพียงไม่กี่ตัว ในขณะที่การทำความสะอาดลมทำได้ง่ายเพียงแค่เปิดสายเคเบิล Surflink ออกแล้วคลายสกรูออก 3 ตัว
QR Code และสัญลักษณ์ Wayfinder
ส่วน Surface Pro 11 ได้รับปรับปรุงให้ซ่อมง่ายขึ้นแบบเดียวกับ Surface Laptop 7 หลายอย่าง สามารถเข้าถึงไดรฟ์ M.2 ได้ผ่านฝาปิดแม่เหล็กขนาดเล็กใต้ขาตั้ง แต่ส่วนอื่นจำเป็นต้องถอดชิ้นส่วนออกโดยการแกะหน้าจอออก เมื่อแกะแล้วจะพบ QR และสัญลักษณ์ Wayfinder
iFixit บอกว่า Surface Pro 11 มีส่วนประกอบหลายชั้นพร้อมยกตัวอย่างว่า ถ้าหากจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ต้องถอดสายเคเบิล Surflink และระบบการจัดการระบายความร้อนก่อนจึงจะสามารถถอดแบตเตอรี่ได้ ดูยุ่งยากกว่า Surface Laptop 7 แต่โดยรวมก็ไม่ยากเกินไป iFixit ชมว่าสายเคเบิล Surflink ประกอบกลับได้ง่ายเพราะใช้สกรู 2 ตัวเป็นที่ยึด และไม่ดูดติดแม่เหล็ก
รวม ๆ แล้ว iFixit พอใจกับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Microsoft ที่ทำให้อุปกรณ์กลุ่ม Surface ซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นขนาดนี้ แม้ว่าจะคะแนนจะไม่ถึง 10/10 ก็ตาม
ที่มา - iFixit