เว็บไซต์ The Verge ออกรีวิวโน้ตบุ๊ก Surface Laptop 7th Edition โดยเลือกรีวิวรุ่นล่างสุด ราคา 999 ดอลลาร์ เปรียบเทียบกับฝั่ง MacBook Air ว่าสามารถเทียบเคียงกันได้อย่างไร
Surface Laptop 7 ตัวล่างสุดราคา 999 ดอลลาร์ ได้ซีพียู Snapdragon X Plus รุ่นรองที่มี 10 คอร์ (ไม่ใช่ Elite 12 คอร์), แรม 16GB, สตอเรจ 256GB, หน้าจอ 13.8 นิ้ว, กล้องเว็บแคม 1080p แบบไม่ต้องเจาะหรือตัดจอ รองรับ Windows Hello, พอร์ต USB-C 2 พอร์ต และพอร์ตชาร์จเฉพาะของ Surface (ชาร์จได้ทั้งสองแบบ)
สิ่งที่ The Verge พบคือ Surface Laptop 7 มีขอบหน้าจอบางลง, เปลี่ยนมาใช้ทัชแพดตัวใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น เป็น haptic ที่ปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ได้, คีย์บอร์ดเหมือนเดิม เพิ่มปุ่ม Copilot ที่ไม่มีประโยชน์นัก แถมเพิ่งถูกดาวน์เกรดเป็นเว็บแอพ
ประสิทธิภาพของซีพียู Snapdragon X Plus ถือว่าใช้งานได้ดีสำหรับงานทั่วๆ ไป แอพที่คอมไพล์เป็น ARM64 ทำงานได้ไม่มีปัญหา ใช้แล้วไม่ต่างอะไรกับการใช้โน้ตบุ๊ก x86 ในตลาด ส่วนแอพบางตัวที่ยังไม่มีเวอร์ชัน ARM64 (เช่น Discord) รันผ่านอีมูเลเตอร์ Prism แล้วทำงานได้ดีขึ้นกว่าสมัย Surface Pro X เพราะตัวชิป Snapdragon X Plus มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย ส่วนแอพบางตัวอย่าง Adobe Premier Pro ที่ยังไม่มีเวอร์ชัน ARM64 (แม้ประกาศทำแล้ว) จะถูก Adobe บล็อคไม่ได้ติดตั้งในเครื่องเลยแต่แรก ปัญหานี้ยังเกิดกับ Google Drive และแอพสาย VPN อีกหลายตัว
ข้อจำกัดอีกอย่างของ Surface Laptop 7 คือเรื่องจีพียู Adreno ซึ่งแอพหลายตัวยังไม่รู้จัก เช่น Blender ทำให้การรันงานเรียกใช้เฉพาะซีพียูเท่านั้น เบนช์มาร์คหลายค่าย เช่น 3DMark หรือ Cinebench ยังไม่มีเวอร์ชัน ARM64 ต้องรันผ่านอีมูเลเตอร์ จึงอาจวัดผลได้ไม่ตรงนัก การเล่นเกมยังทำได้ไม่ดีนัก และมีปัญหาบางเกมแครช
ประเด็นเรื่องแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ Surface Laptop 7 ทำได้น่าประทับใจมาก การใช้งานหนักๆ ต่อเนื่องใช้ได้ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นการใช้งานแบบคนปกติทั่วไป ใช้งาน 7 ชั่วโมงทั้งวันแล้วยังเหลือแบต 70% รวมถึงสามารถใช้ๆ หยุดๆ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์โดยไม่ต้องชาร์จเลย (ชาร์จวันศุกร์ แล้ววันจันทร์เช้าเหลือแบต 27%) ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของโน้ตบุ๊กฝั่งวินโดวส์
ฟีเจอร์ด้าน AI ที่ใช้พลังของชิป NPU ถึงแม้ Recall ถูกตัดออกไปชั่วคราว ฟีเจอร์ที่ทำได้ดีคือ Live Captions สามารถดูคลิปภาษาต่างประเทศแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ทันที ส่วนฟีเจอร์ Cocreator ช่วยสร้างภาพตามคำสั่ง ยังทำได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับการใช้โมเดล Dall-E รันบนเซิร์ฟเวอร์
ในภาพรวมแล้ว Surface Laptop 7 กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ MacBook Air โดยรุ่นล่างสุดตั้งราคา 999 ดอลลาร์เท่ากัน ได้แรมเยอะกว่า (16GB vs 8GB) และแบตเตอรี่อึดพอๆ กัน หากเป็นการใช้งานแอพทั่วๆ ไปที่รองรับ ARM64 แล้ว นี่ถือเป็น MacBook Air ที่รันวินโดวส์ ซึ่งหลายคนเฝ้ารอมาตลอด
ที่มา - The Verge