กูเกิลเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้าซัพพอร์ตของ Find My Device เครือข่ายช่วยตามหาอุปกรณ์แบบออฟไลน์ หลังจากมีรายงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการระบุตำแหน่งว่ายังทำได้ไม่ดี เมื่อเทียบกับ AirTag และเครือข่าย Find My ของแอปเปิล
โดยกูเกิลยืนยันว่าการออกแบบระบบที่ใช้การรวบรวมข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น (aggregation by default) กล่าวคืออุปกรณ์ต้องอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีอุปกรณ์ Android จำนวนมากพอจึงเริ่มส่งข้อมูลพิกัดออกมาได้ เป็นสิ่งที่เสริมความปลอดภัยกรณีถูกอุปกรณ์ตามรอยและอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งกูเกิลเลือกแนวทางนี้ตั้งแต่ต้น ทำให้เครือข่าย Find My Device แตกต่างจากเครือข่ายอื่น
อย่างไรก็ตามกูเกิลยอมรับว่าแนวทางนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ทราฟิกต่ำ มีอุปกรณ์ Android อยู่โดยรอบน้อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนการทำงานจากค่าเริ่มต้น With network in high-traffic areas only เป็น With network in all areas จะช่วยให้ระบุตำแหน่งอุปกรณ์ได้ดีขึ้น
ที่มา: 9to5Google