ในงานเปิดตัวมือถือซีรีส์ Pixel 9 ของกูเกิลรอบนี้ หากเราตัดเรื่องฟีเจอร์ AI (ที่เป็นจุดขายของ Pixel มาช้านาน) การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เห็นได้ชัดคือการแยกรุ่น Pixel 9 Pro และ Pixel 9 Pro XL ซึ่งต่างกันที่ขนาดหน้าจอเป็นหลัก
เส้นทางชีวิตของ Pixel ในยุคแรกๆ แยกเป็นรุ่นธรรมดา และรุ่นจอใหญ่ XL มาจนถึง Pixel 4 และหลังจากนั้นกูเกิลเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์ออกมือถือรุ่นจอเล็กสเปกต่ำ และรุ่นจอใหญ่ "Pro" ที่สเปกดีกว่า (โดยเฉพาะกล้องหลังจำนวนเยอะกว่า) ตั้งแต่ Pixel 6 และ 6 Pro ในปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน
นั่นแปลว่าถ้าต้องการมือถือที่แรมเยอะกว่า กล้องมากกว่า ผู้ใช้ Pixel ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากซื้อรุ่น Pro แม้ว่าอาจไม่ต้องการมือถือจอใหญ่ก็ตาม
กูเกิลดำเนินนโยบายนี้มา 3 ปี นับตั้งแต่ Pixel 6, 7, 8 จนมาถึงยุคของ Pixel 9 ยุทธศาสตร์นี้จึงเปลี่ยนแปลงไป เพราะรอบนี้กูเกิลออกมือถือ Pixel 9 รูปทรงแท่ง (ไม่รวมจอพับ) มาถึง 3 รุ่น นั่นคือ Pixel 9, Pixel 9 Pro และ Pixel 9 Pro XL
ต้องบอกว่าสเปกของ Pixel 9 Pro และ Pixel 9 Pro XL แทบเหมือนกันทุกประการ มือถือตระกูล Pixel 9 ทุกรุ่นใช้ชิป Tensor G4 เหมือนกันหมดอยู่แล้ว มือถือรุ่น Pro ทั้งสองตัวให้แรม 16GB เท่ากัน, ชุดกล้องเหมือนกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, ใช้หน้าจอประเภท Super Actua (LTPO OLED) แบบเดียวกัน
จุดต่างสำคัญของรุ่น Pro และ Pro XL มีเพียงแค่ 3 อย่างคือ
ทั้งหมดในราคาที่ต่างกัน 100 ดอลลาร์ (999 ดอลลาร์ vs 1,099 ดอลลาร์)
หากเราดูตารางเปรียบเทียบสเปกข้างต้น จะเห็นว่า Pixel 9 Pro เป็นมือถือที่อยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น 9 Pro XL และ 9 ตัวธรรมดา เพราะขนาดหน้าจอ 6.3" เท่ากัน ถือง่ายพกพาสะดวก (แถมใช้เคสรุ่นเดียวกันระหว่าง 9 ธรรมดากับ 9 Pro ได้ด้วย) แต่สเปกเกือบทุกอย่างเหมือนกับรุ่น Pro XL เลย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่แฟนๆ ชาว Pixel สามารถเลือกซื้อมือถือ "เรือธงจอเล็ก" ได้แล้ว
แต่เอาเข้าจริงแล้ว ยุทธศาสตร์นี้ของ Pixel ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการมือถือ เพราะคู่แข่งรายสำคัญในวงการทำมาก่อนแล้ว นั่นคือ iPhone
หากเราดูหน้าเว็บเปรียบเทียบรุ่น iPhone กับ Pixel จะเห็นว่ามันคล้ายกันมาก ในแง่ตำแหน่งแห่งที่ของผลิตภัณฑ์และราคา
ทุกคนรู้ว่าแอปเปิลเริ่มใช้ยุทธศาสตร์ออก iPhone รวม 4 รุ่นย่อยมาหลายปี (ซึ่งรวมถึงการออกรุ่น Mini ที่ไม่ประสบความสำเร็จ) โมเดลการออกสินค้าในปัจจุบันคือ iPhone ตัวธรรมดา 2 ขนาดหน้าจอ (ธรรมดา + Plus) และรุ่น Pro อีก 2 ขนาดหน้าจอ (Pro + Pro Max) เริ่มมาตั้งแต่ iPhone 14
หากเราไม่สนใจ iPhone รุ่น Max (ที่ตัวมันเองก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก) จะเห็นว่า Pixel ก็เดินตามรอยของ iPhone ที่ออกมือถือตามเซกเมนต์ของผู้บริโภคคล้ายๆ กันคือ
เมื่อนำไปเทียบกับคู่แข่งร่วมวงการอีกรายคือซัมซุง ที่ออกขายมือถือเรือธง Galaxy S จำนวน 3 รุ่นย่อยเหมือนกัน จะเห็นว่ายุทธศาสตร์ของซัมซุงใช้วิธีแยก 3 ขนาดหน้าจอ ลดหลั่นกันไปตามขนาดหน้าจอ ฟีเจอร์ และราคา
การเปลี่ยนแปลงของกูเกิลในปี 2024 จึงสะท้อนภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า กูเกิลเลือกเดินตามรอยแอปเปิล มากกว่าไปในทิศทางแบบซัมซุง และน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมกูเกิลถึงเลือกเปิดตัว Pixel 9 ในเดือนสิงหาคม เร็วกว่ารอบปกติถึง 2 เดือน เพราะต้องการตัดหน้า iPhone และท้าชนกับแอปเปิลตรงๆ ในตลาดสหรัฐอเมริกานั่นเอง
ส่วนยุทธศาสตร์ใหม่ของกูเกิลจะได้ผลแค่ไหน ต้องรอติดตามกันต่อไป
หมายเหตุ: ตอนนี้ Pixel 9 ยังเปิดพรีออเดอร์ ยังไม่วางขายจริง แต่โพลของเว็บไซต์ 9to5google ที่มีกลุ่มแฟนๆ Pixel มาร่วมโหวตกันเกิน 10,000 คะแนน ได้ผลออกมาว่า Pixel 9 Pro XL รุ่นจอใหญ่ยังได้รับความนิยมสูงสุด (30.64% ของเสียงโหวต) แต่ Pixel 9 Pro รุ่นจอเล็กก็ไล่มาติดๆ ที่ 27.50%