การเปิดตัว PS5 Pro คงไม่มีเรื่องไหนถูกพูดถึงมากไปกว่าราคาขาย 699 ดอลลาร์ (ราคานี้ยังไม่รวมไดรฟ์และขาตั้ง) หากเทียบกับ PS5 Slim Digital Edition รุ่นปกติ (ไม่มีไดรฟ์) ที่ราคา 449 ดอลลาร์ ราคาแพงกว่ากัน 250 ดอลลาร์ หรือ 55%
หากเราเทียบราคารุ่น Pro ของเจ็นก่อนหน้าคือ PS4 Slim ที่ตอนนั้นลดลงเหลือ 299 ดอลลาร์ และ PS4 Pro ราคาเปิดตัว 399 ดอลลาร์ ห่างกันแค่ 100 ดอลลาร์หรือ 33% เท่ากับว่าช่องว่างราคารุ่นปกติกับรุ่น Pro ถ่างออกไปเรื่อยๆ
Video Games Chronicle อ้างบทวิเคราะห์ของ Piers Harding-Rolls นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเกมชื่อดังจากบริษัท Ampere Analysis ที่ประเมินว่า PS5 Pro จะยังขายได้ราว 1.3 ล้านเครื่องในช่วงเริ่มขายปี 2024 ซึ่งตัวเลขนี้อยู่ระดับไม่ต่างกันมากกับยอดขายของ PS4 Pro ที่เคยทำไว้ 1.7 ล้านเครื่องในช่วงเริ่มขายปี 2016
Ampere Analysis ยังให้ข้อมูลว่า PS4 Pro มียอดขายตลอดอายุขัย 14.5 ล้านเครื่อง คิดเป็น 12% ของยอดขาย PS4 ทั้งหมด และทิศทางของ PS5 Pro จะคล้ายๆ กัน คือขายได้ 13 ล้านเครื่องนับไปจนถึงปี 2029 (ดูกราฟประกอบ) โดยลูกค้าส่วนใหญ่มีเครื่องรุ่นปกติอยู่แล้ว อัพเกรดมาซื้อรุ่น Pro เพิ่มอีกเครื่อง
Ampere Analysis วิเคราะห์ว่ายุทธศาสตร์การตั้งราคา PS5 Pro สะท้อนให้เห็นว่าโซนี่ไม่ต้องการขายเครื่องขาดทุน บวกกับสภาพเงินเฟ้อทั่วไปในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการไม่มีคู่แข่งโดยตรง (Xbox Series ไม่ออกเครื่องรุ่นอัพเกรดกลางรอบ mid-cycle แบบเดียวกับที่เคยทำตอน Xbox One X) ทำให้โซนี่ไม่มีแรงกดดันด้านราคามากนัก สามารถตั้งราคานี้มาขายได้
แม้ราคาที่แพงขึ้นของ PS5 Pro จะทำให้ยอดขายลดลงจากยุค PS4 Pro อยู่บ้าง แต่สำหรับกลุ่มเกมเมอร์เหนียวแน่นจริงจัง ราคาย่อมไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากนักอยู่แล้ว ส่วนเกมเมอร์ทั่วๆ ไป การซื้อ PS5 รุ่นปกติย่อมเป็นสิ่งที่คุ้มเงินที่จ่ายไปมากกว่า
ฝั่งเว็บไซต์ IGN วิเคราะห์ว่าเกมที่ได้ประโยชน์จาก PS5 Pro จำเป็นต้องปรับแต่งเกมใหม่ ถึงจะได้ตราสัญลักษณ์ PS5 Pro Enhanced ด้วย ตอนนี้มีเกมดังๆ จำนวนหนึ่งยืนยันแล้วว่าเป็น PS5 Pro Enhanced เช่น Alan Wake 2, Gran Turismo 7, Hogwarts Legacy, Marvel's Spider-Man 2, The Last of Us Part 2 Remastered
แต่คำถามสำคัญคือ เกมอื่นๆ ในอนาคตจะเป็น PS5 Pro Enhanced ด้วยหรือไม่ เกมเก่ายอดนิยมอื่นๆ (เช่น Spider-Man ภาคแรก) จะถูกนำมาปรับปรุงใหม่ให้หรือเปล่า และหาก PS5 Pro ขายไม่ดีนัก โซนี่จะยอมลงทุนปรับแต่งเกมให้อีกแค่ไหน เพราะมีประวัติมาแล้วกับ PS VR2 ที่ยอดขายไม่ดี แล้วโซนี่เลิกทำเกม VR ไปเลย ซึ่งจำนวนเกมที่ออกแบบมารองรับ PS5 Pro ย่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ให้ลูกค้าพิจารณาว่าควรซื้อ PS5 Pro หรือไม่
เกมเด่นที่น่าจะดึงพลังของ PS5 Pro ออกมาได้ดีและกลายเป็นจุดขายของเครื่องคือ GTA 6 เพราะเกมเวอร์ชันพีซีจะออกตามหลังคอนโซล เมื่อบวกกับไมโครซอฟท์ไม่มีอัพเกรดฮาร์ดแวร์กลางรอบ ย่อมทำให้ PS5 Pro ได้ชื่อว่า "เล่น GTA 6 แล้วภาพสวยที่สุด" แต่ล่าสุดเริ่มมีข่าวลือว่า GTA 6 อาจจะต้องเลื่อน ตรงนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขาย PS5 Pro ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Ampere Analysis, Video Games Chronicle, IGN