นักวิเคราะห์บอก ไมโครซอฟท์ "แพ้แล้ว" ในตลาดผู้ใช้ตามบ้าน!

by nuntawat
12 December 2009 - 02:16

คุณ Mark Anderson ซีอีโอของ Strategic News Service ที่ให้คำทำนายในด้านการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์และอุตสาหกรรมสื่อสาร ได้กล่าวคำทำนายในงาน Annual SNS Predictions Dinner เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศของปีหน้าไว้ 10 ข้อดังนี้

  1. เป็นปีแห่งสงครามด้านแพลตฟอร์ม คือ เน็ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และมาตรฐานการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ โดยการประมวลผลบนกลุ่มเมฆจะเข้าไปรองรับการใช้งานของผู้ใช้ตามบ้าน (consumer) ส่วนเหล่าองค์กรทั้งหลายก็พยายามที่จะสร้างศูนย์ข้อมูล (data center) เป็นของตนเอง และเน็ตบุ๊กจะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมาก
  2. เป็นปีแห่งสงครามด้านระบบปฏิบัติการ คือ วินโดวส์ 7 แมคโอเอส ลีนุกซ์ ซิมเบียน แอนดรอยด์ Chrome OS และโนเกีย Maemo 5 ในด้านยอดขายแล้วผู้ชนะคือ วินโดวส์ 7 แมคโอเอส และแอนดรอยด์ แต่ด้วยความล้มเหลวของจินตนาการสร้างสรรค์ (imagination) และความเป็นแพลตฟอร์มของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ของวินโดวส์ 7 จะทำให้เปิดโอกาสให้คู่แข่งรายอื่นมาแทนที่ไมโครซอฟท์ได้โดยแพลตฟอร์มบนโทรศัพท์มือถือ
  3. คอนเทนต์ทั้งหมดจะลงสู่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้เกิดข้อ 4
  4. แอพพลิเคชันและคอนเทนต์บนโทรศัพท์มือถือช่วยขับเคลื่อนการการชำระค่าสินค้าและบริการขนาดย่อม (micro payment) ซึ่งแยกออกมาจากรูปแบบการชำระค่าสินค้าหรือบริการแบบเดิมๆ
  5. การแข่งขันระหว่างโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ (The Phone vs. the PC) ทั้งด้านผู้ใช้ในองค์กรและผู้ใช้ตามบ้าน
  6. การประมวลผลบนกลุ่มเมฆจะถูกจำกัดการเจริญเติบโต เนื่องด้วยปัญหาด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ โดย CIO จะเห็นการประมวลผลบนกลุ่มเมฆเป็นการเปิดทางในการจารกรรมข้อมูล
  7. เกิดความแตกต่างในระหว่างตลาดผู้ใช้ตามบ้านและตลาดองค์กร โดยแอปเปิล กูเกิล และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ในเอเซียจะยึดตลาดผู้ใช้ตามบ้านไป ส่วนตลาดองค์กรนั้นจะตกเป็นของเดลล์ ไอบีเอ็ม ซิสโก้ และไมโครซอฟท์ ส่วนเอชพีนั้นจะได้ทั้งสองตลาด
  8. ไมโครซอฟท์จะสูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดผู้ใช้ตามบ้าน ยกเว้นด้านเกม โดยเขาได้บอกว่า "ไมโครซอฟท์แพ้แล้วในตลาดผู้ใช้ตามบ้าน" (it is game over for Microsoft in consumer)
  9. ตลาดสื่อมีเดียที่ยังเหลือรอดอยู่จะหันไปใช้รูปแบบการลงทะเบียน (subscription model) (ดูข้อ 4)
  10. การเชื่อมต่อของข้อมูลจากระยะไกลไปยังผู้คนและสรรพสิ่งตามเวลาจริง (real time) จะนำไปสู่อุปกรณ์และแอพพลิเคชันใหม่ๆ อาทิ ใช้โทรศัพท์นำเที่ยว การเปรียบเทียบตามเวลาจริงและการช้อปปิ้งตามใบสั่ง (recipe-driven) เป็นต้น ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน แต่สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นแนวโน้มใหม่ในตลาดแอพพลิเคชันในปีหน้า

คุณ Anderson ได้กล่าวว่าไมโครซอฟท์ไม่มีความหวังเลยในการแก้ตัวในตลาดโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้นหากข้อ 7 เป็นจริงตามที่ว่า ไมโครซอฟท์ก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะคุณ Ray Ozzie ที่เป็นหัวหน้าสายสถาปัตยกรรมซอฟท์แวร์ โดยคุณ Anderson ไม่เชื่อว่าวิสัยทัศน์ "three screens and the cloud" ที่ผู้คนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้ผ่านคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และโทรศัพท์ โดยข้อมูลและบริการนั้นจะอยู่บนกลุ่มเมฆ (ดูบทความจาก Redmondmag.com ได้ที่นี่, ดูข่าวเก่า) ที่คุณ Ozzie กล่าวจะเป็นจริงได้ เนื่องจากความล้มเหลวในด้านโทรศัพท์ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้

นอกจากนั้นแล้วเขายังกล่าวอีกว่ามันไม่สำคัญที่การเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มที่อยู่หน้าบ้าน (front-end) และหลังบ้าน (back-end) จะเป็นอย่างไรในสายตาผู้ใช้ตามบ้าน แต่พวกเขากลับสนใจถึงการประสานของส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (user interface) (อาทิ แอพพลิเคชัน marketplaces เป็นต้น) มากกว่า ซึ่งแอปเปิล แอนดรอยด์ และอื่นๆ มีภาษีที่ดีกว่าและจะชนะ [ไมโครซอฟท์] ได้

คุณ Anderson ได้กล่าวถึงคุณ Ozzie ไว้ด้วยว่า เขาจะไม่แปลกใจเลยที่คุณ Ozzie จะต้องออกจากไมโครซอฟท์ไปในอนาคตอันใกล้ เนื่องด้วยที่เขาไม่สามารถเข้ากันได้กับวัฒนธรรมองค์กรของไมโครซอฟท์เอง ที่มีลักษณะ "dog-eat-dog"** และหากวิสัยทัศน์ three screens and the cloud และ "consumer experiences first" ไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะอยู่กับไมโครซอฟท์อีกต่อไป

ที่มา: ZDNet

** "dog eat dog" น่าจะหมายถึง ทัศนคติของการเอาตัวรอด (survival of the fittest’ attitude) (อ้างอิงจากข่าว Bloomberg)

Blognone Jobs Premium