The New York Times เผยแพร่รายงานจากการสอบถามพนักงาน 19 คน ใน OpenAI และไมโครซอฟท์ ที่เกี่ยวข้องในโครงการที่สองบริษัททำงานร่วมกัน พบว่าแม้ไมโครซอฟท์จะลงทุนใน OpenAI ไปเป็นเงินรวมแล้วถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ไมโครซอฟท์ได้เทคโนโลยี AI มาใช้กับผลิตภัณฑ์ ส่วน OpenAI ก็เข้าถึงทรัพยากรประมวลผลจำนวนมหาศาล ฟังดูเป็นความสัมพันธ์ที่สวยงามมาก แต่วันนี้ดูเหมือนทั้งสองบริษัทจะมีความขัดแย้งมากขึ้น
รายงานบอกว่าความขัดแย้งของสองบริษัท เริ่มเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ไล่ออกซีอีโอ Sam Altman ทำให้ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ประเมิน OpenAI ใหม่ และต้องการลดการพึ่งพาบริษัทนี้บริษัทเดียว
ในช่วงที่ผ่านมา OpenAI พยายามเจรจากับไมโครซอฟท์เพื่อขอส่วนลดในการใช้ทรัพยากรประมวลผล AI และร้องขอจำนวนที่มากขึ้น ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ก็มองว่าบริษัทต้องสร้างแผนกพัฒนา AI ที่ยืนได้ด้วยตนเอง และลดการใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI จึงทำให้การเจรจาต่อรองของสองบริษัทในหลายครั้งมีความตึงเครียดมากขึ้น ไมโครซอฟท์เองก็มีทีท่าไม่ต้องการเพิ่มเงินลงทุนใน OpenAI อีกด้วย
เรื่องนี้หนักขึ้นอีกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อไมโครซอฟท์ใช้เงิน 650 ล้านดอลลาร์ ซื้อตัว Mustafa Suleyman ซีอีโอ Inflection AI และผู้ร่วมก่อตั้ง DeepMind รวมทั้งพนักงาน Inflection AI อีกจำนวนหนึ่งมาร่วมทีมใหม่ Microsoft AI สะท้อนว่าไมโครซอฟท์ต้องการสร้างฝ่าย AI ที่แข็งแกร่งขึ้นมาเอง และเรื่องนี้ทำให้ผู้บริหาร OpenAI หลายคนไม่พอใจ รายงานบอกว่ามีการประชุมครั้งหนึ่ง Suleyman ถึงกับต่อว่าพนักงาน OpenAI ว่าไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีให้ไมโครซอฟท์ตามความร่วมมือได้เร็วพอ ขณะเดียวกัน OpenAI ก็โจมตีว่าพนักงานไมโครซอฟท์บางคนแอบดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ภายใน OpenAI โดยไม่ทำตามขั้นตอนความปลอดภัย
อีกสถานการณ์ที่ช่วยฉายภาพว่าความสัมพันธ์ของสองบริษัทไม่เหมือนเดิม คือเมื่อเดือนมิถุนายน ไมโครซอฟท์ได้ลงนามอนุญาตให้ OpenAI สามารถทำข้อตกลงใช้ทรัพยากรประมวลผล AI จากบริษัทอื่นคือ Oracle ได้ ซึ่งรายงานบอกว่าราคาที่ OpenAI จ่ายให้ Oracle นั้นดีกว่าของไมโครซอฟท์ด้วย
เรื่องนี้จึงอธิบายได้ว่าทำไมผู้ลงทุนใน OpenAI จากการเพิ่มทุนรอบล่าสุด จึงมีบริษัทอื่นเข้าร่วมทั้ง MGX, SoftBank, NVIDIA หรือแม้แต่แอปเปิลที่มีข่าว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาลงทุน เพราะ OpenAI ก็ต้องการลดการพึ่งพาเงินจากไมโครซอฟท์เพียงรายเดียวนั่นเอง
สุดท้าย The New York Times เปิดเผยว่าในสัญญาความร่วมมือระหว่าง OpenAI กับไมโครซอฟท์นั้น มีประเด็นเล็กที่อาจเป็นเรื่องใหญ่ได้ในอนาคต OpenAI ระบุว่าหากบริษัทสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถรอบด้านเหมือนมนุษย์หรือ AGI ได้เมื่อใด ไมโครซอฟท์จะถูกตัดการเข้าถึงเทคโนโลยีทุกอย่างของ OpenAI ทันที เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ต่อในทางไม่เหมาะสมได้ ซึ่งการตัดสินว่ามี AGI นั้น ทางบอร์ดของ OpenAI จะเป็นคนตัดสินเอง
ที่มา: The New York Times