Thomas Mahler ซีอีโอของ Moon Studios และผู้กำกับเกม Ori ทั้งสองภาค (กำลังมีผลงานเกมใหม่คือ No Rest for the Wicked) ออกมาแสดงความเห็นด้วยต่อ คลิปสัมภาษณ์ของ Phil Spencer ที่พูดถึงว่าเกมยุคใหม่ไม่ควรถูกจำกัดแพลตฟอร์ม)
เขาบอกว่าเกม No Rest for the Wicked ตัดสินใจเลือกผู้จัดจำหน่ายเป็น Private Division ในเครือ Take-Two แทนไมโครซอฟท์ ที่เคยเป็นผู้จัดจำหน่ายเกม Ori ทั้งสองภาค เนื่องจากต้องการวางขายบนแพลตฟอร์ม PlayStation และ Nintendo Switch ด้วย เพราะเป็นเกมมัลติเพลเยอร์และ cross play เป็นสิ่งสำคัญ
(หมายเหตุ: การตัดสินใจของ Moon Studios เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเริ่มพัฒนาเกม ซึ่งตอนนั้นไมโครซอฟท์ยังไม่มีนโยบายขายข้ามแพลตฟอร์ม, Take-Two เพิ่งประกาศขาย Private Division ออกไป)
Mahler เปรียบเทียบว่าถ้าเราซื้อแผ่น DVD ที่ต้องเล่นกับเครื่องเล่นของโซนี่หรือซัมซุงเท่านั้นคงเป็นสิ่งแปลกๆ การซื้อเกมก็เช่นกัน เครื่องคอนโซล Xbox Series X และ PS5 จริงๆ แล้วไส้ในเกือบเหมือนกัน หน้าตาจอยก็เหมือนกัน การพอร์ตเกมข้ามคอนโซลไม่ใช่เรื่องยากแล้ว หากมี Steam Box เกิดขึ้นมาอีกก็ไม่ต่างกันมากอยู่ดี การเลือกทำเกมลงบางแพลตฟอร์มเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะเป็นการตัดฐานลูกค้าของตัวเองให้ขนาดเล็กลง
เขายังบอกว่าตลาดคอนโซลไม่เติบโตมา 2 ทศวรรษแล้ว มีผู้เล่นอยู่ในระดับ 100-150 ล้านคนเท่านี้ ถ้าอยากเห็นอุตสาหกรรมเกมเติบโต ก็ต้องทำให้เกมเมอร์ทุกคนเข้าถึงเกมได้ ใครก็ตามที่มีหน้าจอและจอยเกมควรต้องเล่นเกมได้ทุกเกม
เขาบอกว่าจะไม่แปลกใจเลยถ้าโซนี่ต้องใช้ยุทธศาสตร์ทำเกมข้ามแพลตฟอร์มเหมือนไมโครซอฟท์ ส่วนนินเทนโดคงอยู่แบบเดิมเพราะนั่นคือนินเทนโด