เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่ามีรัฐบาลไทยมีความพยายามที่จะจับข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดมาตรวจสอบ โดยเสนอให้กทช. ออกกฏบังคับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ดักจับข้อมูลเข้าออกอินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลว่าจะช่วยลดการะเมิดลิขสิทธิ์ในอินเทอร์เน็ตลงจนเกิดการต่อต้านในอินเทอร์เน็ตเป็นวงกันพอสมควร
เนื่องจากลำดับข่าวค่อนข้างงง สรุปเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้
1. ครม. มอบหมายให้กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบในการดำเนินการกำหนดดยุทธศาสตร์ทรัพย์สินทางปัญญาและแผนเร่งรัดการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (สำนักข่าวไทย)
เห็นชอบให้ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อกำหนดแนวทางการลดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่มีข้อมูลว่าการตั้งกรรมการชุดนี้มีมาตั้งแต่เมื่อใหร่
2. กระทรวงไอซีทีได้ตั้งคณะทำงานกำกับดูแลและเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขึ้น (สำนักข่าวไทย)
3. คณะทำงานกำกับดูแลฯ มีมติเสนอข้อเสนอการลดการละเมิดลิขสิทธิ์
4. หนึ่งในแนวทางนั้นคือการติดตั้งอุปกรณ์ดักจับข้อมูลไว้ปลายทางขาออกอินเทอร์เน็ต โดย ISP ต้องเป็นผู้รับผิดชอบจัดหามาติดตั้ง
5. แนวทางนั้นถูกส่งไปยังกทช. แล้วโดยกทช. รับเรื่องไว้แล้วแจ้งมาว่าจะส่งเรื่องเข้าไปยังคณะกรรมการโครงการความร่วมมือจัดตั้ง ศูนย์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานร่วมระหว่าง กทช. และ DSI
6. นายสือ ล้ออุทัย ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงนำแนวทางดังกล่าวมาให้ข่าว
ไม่มีความแน่ชัดว่าเรื่องนี้ถูกส่งขึ้นไปยังรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบแล้วหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดว่าการใช้งานจริงจะมีการใช้งานตลอดเวลา (ซึ่งจะทำให้เป็นข้อกำหนดที่บ้ามาก เพราะต้องจับข้อมูลกว่า 300Gbps ตลอดเวลา) หรือจะจับข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงเป็นกรณี แต่จุดที่สำคัญกว่าคือราชการเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมจะตีความความจำเป็นต่างๆ เป็นความมั่นคงแห่งรัฐ และยังไม่รู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แถมยังภูมิใจถึงขั้นแถลงข่าว
รัฐธรรมนูญไทยนั้นมีกำหนดในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไว้ดังนี้
บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมายการตรวจ การกักหรือการเปิดเผยสิ่งสื่อสารที่บคคลมีติดต่อถึงกัน รวมทั้งการกระทําด้วยประการอื่นใดเพื่อให้ล่วงรู้ถึงข้อความในสิ่งสื่อสารทั้งหลายที่บุคคลมีติดต่อถึงกันจะกระทํามิได้เว้นแต่โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ที่มา - ThaiPR.net