มีรายงานจากผู้ที่อ้างว่าเป็นพนักงานของแอปเปิล (แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากจะผิดข้อตกลงของบริษัท) ระบุว่าในการประชุมใหญ่ของพนักงานแอปเปิลที่เปิดโอกาสให้พนักงานที่กล้าพอจะลุกขึ้นถามคำถามอะไรก็ตามกับผู้บริหาร ได้มีประเด็นร้อน 2 อย่าง นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์ของแอปเปิลกับกูเกิล และประเด็นเรื่อง Flash บน iPhone OS
ในข้อแรก สตีฟได้ตอบว่า "แอปเปิลไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปในอุตสาหกรรมเสิร์ชเอ็นจินก่อน แต่กูเกิลที่เป็นฝ่ายเข้ามาในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ และเป็นที่แน่ชัดว่ากูเกิลต้องการทำลาย iPhone ของแอปเปิล ซึ่งแอปเปิลจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเป็นอันขาด" โดยหลังจากที่สตีฟตอบคำถามนี้แล้ว ได้มีคนอื่นถามคำถามต่อไป แต่สตีฟก็ยังขอกลับมาเรื่องกูเกิลและขอพูดอีกอย่าง (one more thing) ว่าแนวคิด "Don't be evil" ของกูเกิลเป็นเรื่องเหลวไหล (bullshit)
หลังจากนั้นก็มีพนักงานถามเกี่ยวกับการที่ iPhone OS ไม่รองรับ Flash สตีฟได้ตอบว่า "พวกนั้น (Adobe) ขี้เกียจ พวกเขามีศักยภาพที่จะทำสิ่งที่น่าสนใจแต่พวกเขาไม่ยอมทำ พวกเขาไม่ยอมทำตามความตั้งใจเหมือนกับที่แอปเปิลตั้งใจ อย่างเช่นเรื่องของ Carbon ที่แอปเปิลไม่รองรับ Flash เพราะว่ามันเต็มไปด้วยบั๊ก และทุกวันนี้แมคที่แครชส่วนใหญ่มักเกิดจาก Flash และวันหนึ่งจะไม่มีใครใช้ Flash อีกต่อไป โลกกำลังก้าวเข้าสู่ HTML5"
อาจเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากว่าการที่ Flash มีปัญหาบน Carbon (Mac OS X) เป็นปัญหาของใครระหว่างแอปเปิลและ Adobe เพราะแม้ว่าระยะหลังแอปเปิลจะพยายามผลักดันให้ผู้พัฒนารายใหม่ๆ ย้ายไปใช้แพลตฟอร์ม Cocoa ที่ใหม่กว่า แต่ก็ยังมีแอพพลิเคชันอีกไม่น้อยของแอปเปิลเองที่ยังอยู่บน Carbon และดูเหมือนแอปเปิลจะให้ความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Carbon น้อยลงไปมากในระยะหลังๆ (เช่นการตัดแพลตฟอร์มนี้ออกไปจากการรองรับ 64 บิต) แต่อย่างน้อยตอนนี้เราก็พอเข้าใจถึงเหตุผลของแอปเปิลมากขึ้นแล้วว่าทำไมแอปเปิลถึงไม่ยอมใส่ Flash ลงใน iPhone OS สักที
ก่อนหน้านี้กูเกิลได้เปิดตัว Google Voice บน iPhone OS ที่ทำงานผ่าน Safari โดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแพลตฟอร์มเปิดอย่าง HTML5 สามารถเปิดอิสระให้กับการพัฒนาแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องติดกับแพลตฟอร์มเฉพาะแต่ละเจ้าอีกต่อไป
ที่มา - Wired
ขอบคุณ @chayanin ช่วยแปลข้อความบางส่วน