เมื่อวานนี้ผมได้รับเชิญจาก True ให้ไปร่วมงานแถลงข่าวผลงานของ True App Center หลังจากเปิดมาได้ประมาณครึ่งปี เลยได้คุยถึงทิศทางวงการ mobile app ของไทย และยังได้ถามคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้ ไม่ว่าจะเป็น iPad หรือ Android
ผู้บริหารของ True ที่มาแถลงข่าวครั้งนี้คือ คุณพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านสารสนเทศ คอนเวอร์เจนซ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และคุณอุทัย คุ้มคง รองผู้อำนวยการ สายงานบริการมัลติมีเดียและการตลาด บริษัท ทรู มูฟ จำกัด หน้าตาดังภาพ
ขอแบ่งเนื้อหาเป็นประเด็นๆ ไปละกันครับ
ผลงาน True App Center ปี 2009
เอาเนื้อหาหลักที่แถลงก่อนนะครับ หลังจาก True เปิดศูนย์ True App Center ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมนักพัฒนาโปรแกรมบนมือถือในประเทศไทย เมื่อช่วงประมาณกลางปี 2009 ที่ผ่านมา มีผลงานดังนี้
- True มีโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นสำหรับ iPhone ประมาณ 40 ตัว
- ลูกค้าของ True ดาวน์โหลดโปรแกรมสมาร์ทโฟน (ไม่รวม Java ME และ Symbian) ไปทั้งหมด 1.3 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกไตรมาส
- 80% เป็นโปรแกรมบน iPhone
- 80% เป็นโปรแกรมฟรี
- เกือบทั้งหมดเป็นโปรแกรมที่ทีมพัฒนาของ True เขียนเอง มีโปรแกรมที่เขียนโดยคนนอกประมาณ 10%
- โปรแกรมยอดนิยมได้แก่ โปรแกรมดูหุ้นแบบเรียลไทม์ของ SETTRADE, โปรแกรมพรีเมียร์ลีกของ True Visions, โปรแกรมท่องเที่ยวต่างๆ และโปรแกรมหลินปิง
- ผู้บริหาร True บอกว่า เด็กๆ ชอบโปรแกรมหลินปิง เพราะรู้สึกว่า "หลินปิงอยู่ในมือเรา" ต่างจากดูในทีวีที่เหมือนดูตู้ปลา
- Active user ของโปรแกรม Thai Top Load อยู่ที่ประมาณ 10,000 UIP ต่อวัน
- True App Center เปิดคอร์สสอนเขียนโปรแกรมบนมือถือไปทั้งหมด 7 คอร์ส แบ่งเป็น iPhone 4 คอร์ส, Android/BlackBerry/Windows Mobile อย่างละหนึ่ง
- ผู้เรียนทั้งหมดประมาณ 200 คน
- จัดประกวดการแข่งขัน True App Center Awards 2009 มีคนส่งประกวด 200 ทีม และ True คัดบางทีมไปโชว์ในงานของ Conexus Mobile ซึ่งเป็นสมาคมโอเปอเรเตอร์ของเอเชียที่ True เป็นสมาชิกอยู่
- ความเห็นของผู้บริหาร True บอกว่านักพัฒนาไทยเก่งเรื่องเทคนิค แต่ยังขาดเรื่องกราฟิก การเล่าเรื่อง และการตลาด
เป้าหมายปี 2010
- True จะเริ่มขยายตลาดโปรแกรมบนมือถือจากเฉพาะภายในประเทศ ไปยังต่างประเทศด้วย โดยใช้เครือข่าย Conexus
- เดี๋ยวจะมี True App Store โดยอยู่ในรูปการบันเดิลไอคอนของ True App Store ไปบนมือถือที่ True ขายเองทั้งหมด เน้นที่ Android และ BlackBerry ก่อน ส่วน iPhone นั้นยังเป็น Apple App Store เหมือนเดิม
- ส่วนของการอบรม อาจจะเสริมเรื่องกราฟิกและการตลาดเข้ามาด้วย
- ทีมสอนคอร์ส iPhone เริ่มศึกษาการเขียนโปรแกรมบน iPad แล้ว
- ปี 2010 นี้ Android มาแรง
- ส่วน Windows Mobile ทาง True บอกว่าขอดู Windows Mobile 7 ก่อนว่าจะออกมายังไง
- BlackBerry คนใช้เยอะจริง แต่กลับใช้ app ไม่เยอะ เน้นที่การ chat มากกว่า
- ที่ผ่านมาโปรแกรมของคนไทยส่วนมากเป็นเกม และโปรแกรม life style จะเน้นโปรแกรมกลุ่มนี้ต่อไป แต่จะดันโปรแกรมกลุ่มพ่อแม่ใช้เพื่อสอนลูก (Moms and Dads) ด้วย
- True จะเปิดแล็บที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทดสอบโปรแกรมบนมือถือ ทั้งคอมพิวเตอร์ และมือถือตัวอย่างทุกแพลตฟอร์ม ให้มาลองรันบนเครื่องจริง โดยสาขาแรกจะเปิดที่ Digital Gateway สยามสแควร์ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่จะมีที่อื่นๆ ตามมาเช่นกัน
- จัดแข่ง True App Center Awards 2010 ต่อ โดยเริ่มประมาณเดือนเมษายน
- True ตั้งเป้ารายได้จาก mobile app ในปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท รายได้ไม่ใช่มาจากการขายอย่างเดียว แต่จะมีโฆษณาในโปรแกรม และการจ้างพัฒนาโปรแกรมจากบริษัทอื่นๆ ด้วย
- เดิมทีโปรแกรมของ True ใช้ได้เฉพาะลูกค้า True เท่านั้น แต่พบว่ามีการแฮกเอาโปรแกรมยอดนิยมหลายๆ ตัวไปขาย ดังนั้นปีนี้ True จะเปิดบางโปรแกรมให้ลูกค้าทั่วไปใช้ด้วย
- ประเมินตลาดโปรแกรมบนมือถือเดิม (Java/Symbian) ของโอเปอเรเตอร์ 3 รายใหญ่ มีมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ปีนี้จะโตขึ้นอีกเท่าตัว
True บอกว่ากระแสสมาร์ทโฟนช่วยให้ขาย data plan ได้ทางอ้อม ผู้ใช้ไม่สนหรอกว่ากำลังใช้ 3G หรือ EDGE ขอแค่ "เล่น Facebook ได้"
True มองว่า iPhone คือ "I Phone" หรือมือถือที่ใช้เองคนเดียว ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมจบในตัว ส่วน BlackBerry คือ "We Phone" ใช้กันเป็นหมู่คณะ เอาไว้คุยกันในกลุ่มเพื่อน
ช่วงถามตอบ
พวกนี้เป็นคำถามที่ผมถามนะครับ
ตอนนี้ App Store ส่วนใหญ่ยังไม่รองรับประเทศไทย เช่น App World ของ BlackBerry หรือ App Market ของ Android ที่รองรับเฉพาะโปรแกรมฟรี ทาง True จะมีมาตรการอย่างไร
ระยะสั้นคือ True App Store ตามที่บอกไปแล้ว เพราะโอเปอเรเตอร์มีสิทธิ์เพิ่มไอคอนของโปรแกรมลงไปได้ เช่น ในกรณีของ BlackBerry เราจะมีไอคอนของ True App Store อยู่ในโฟลเดอร์ Download มาให้ กดแล้วซื้อโปรแกรมจาก True App Store ได้เลย
ส่วนระยะยาวเราจะคุยกับบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มต่อไป
มีโอกาสเห็น True เอา Android หรือ Palm เข้ามาหรือไม่
Palm ระยะหลังกระแสตกลงไปมาก ขอดูก่อน ส่วน Android คงขึ้นกับผู้ผลิตเครื่องในไทย (เช่น Samsung, Motorola) เป็นหลัก ตอนนี้กระแสในไทยถือว่ายังไม่แรงนัก
แต่เร็วๆ นี้เราจะมีงานแถลงข่าวร่วมกับกูเกิล ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร อดใจรอหน่อย (Nexus?)
แล้ว iPad ล่ะครับ
ตามแนวทางของแอปเปิล เค้าไม่ให้เราพูดอะไรล่วงหน้า แต่ในส่วนของคอร์ส ทีมงานของเราศึกษา iPad SDK แล้ว
ถ้าอย่างนั้น True มี Micro SIM หรือยังครับ
"เราพร้อมแล้ว"
อนาคตเราจะเห็นการซื้อโปรแกรม โดยคิดค่าใช้จ่ายลงบิลประจำเดือนหรือเปล่า
เป็นไปได้ และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
สรุปว่า ประเด็นเรื่อง iPad/Nexus One ตีความกันเองนะครับ เขาพูดมาอย่างนี้เป๊ะๆ :P