อดีตซีอีโอซันแฉ สตีฟ จ็อบส์-บิล เกตส์ เคยขู่ฟ้องละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

by mk
12 March 2010 - 00:59

Jonathan Schwartz อดีตซีอีโอของซัน ที่เคยประกาศลาออกผ่าน Twitter หลังการควบกิจการของซันกับออราเคิลเสร็จสมบูรณ์ ได้เปิดบล็อก What I Couldn't Say… เล่าเรื่องที่เขาเคยเล่าไม่ได้ในตำแหน่งซีอีโอของบริษัท

เขียนบล็อกได้ไม่กี่ตอน ก็มีประเด็นให้เป็นข่าวเสียแล้ว เพราะเขาเล่าว่าในปี 2003 เมื่อซันเปิดตัวระบบเดสก์ท็อปสามมิติ Project Looking Glass เขาได้รับโทรศัพท์จากสตีฟ จ็อบส์ทันทีว่า เอฟเฟคต์สามมิตินั้นละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของแอปเปิล และขู่ว่าถ้าซันเริ่มขาย Looking Glass เมื่อไร เขาจะฟ้องซันแน่นอน

คำตอบของ Schwartz ในตอนนั้นคือ ขู่จ็อบส์กลับว่าโปรแกรม Keynote ของแอปเปิล เลียนแบบโปรแกรม Concurrence บนระบบปฏิบัติการ NeXTSTEP ของบริษัท Lighthouse Design (บริษัทเก่าของ Schwartz ซึ่งถูกซันซื้อกิจการในปี 1996 จ็อบส์นั้นชื่นชอบโปรแกรมนี้มาก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสั่งทำโปรแกรม Keynote ในภายหลัง) ทำให้จ็อบส์เงียบไป

กรณีของจ็อบส์ ทำให้ซันเตรียมตัวรับมือเรื่องนี้มากขึ้น หลังจากนั้น บิล เกตส์ และสตีฟ บัลเมอร์ได้บินเข้ามาพบกับ Scott McNealy ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของซันในตอนนั้น ซึ่งคณะผู้บริหารของซันได้เข้าประชุมด้วย

ในการประชุมครั้งนั้น บิล เกตส์ เริ่มต้นทันทีว่า "ไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของสิทธิบัตรหลายตัวของโปรแกรมสำนักงาน ซึ่ง OpenOffice.org ละเมิดสิทธิบัตรเหล่านี้"

Schwartz มองว่าเป้าหมายของเกตส์คือขู่ให้ซันยอมจ่ายเงินซื้อสิทธิบัตรจากไมโครซอฟท์ ซึ่งเขาตอบโต้ทันที (เนื่องจากเตรียมตัวมา) ว่า .NET ก็ละเมิดสิทธิบัตรของจาวาเช่นกัน และเขาหวังว่าไมโครซอฟท์จะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิทธิบัตรเหล่านี้ ไม่อย่างนั้น .NET ที่รวมไปกับวินโดวส์ทุกชุดจะมีปัญหากฎหมายแน่ๆ (ผมเข้าใจว่าการประชุมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างไมโครซอฟท์และซัน ที่เกิดตามมา)

Schwartz สรุปว่านี่เป็นปัญหาของระบบสิทธิบัตร และเล่าว่าซันเคยถูกฟ้องโดย Kodak ซึ่งมีเจตนาฟ้องเพื่อเงินล้วนๆ อีกด้วย

ที่มา - Jonathan Schwartz, CNET

หมายเหตุ: ผมอ่านข่าวนี้แล้วเกิดความสงสัยว่า Concurrence หน้าตาเป็นยังไง เพราะเหตุใดท่านศาสดาถึงชื่นชอบ และลอกนำไปเป็นแรงบันดาลใจสำหรับ Keynote

หน้าตามันเป็นแบบนี้ครับ (ภาพจาก Rob Halford)

Blognone Jobs Premium