ผ่านไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลังจากที่ Microsoft ทำการเปิดตัว Windows Phone 7 Series ขึ้น พร้อมกับทิ้งกระแสคำถามหลายๆ อย่างไว้ให้เรารู้สึกค้างคา ในวันนี้ Gizmodo รายงานสดจากงาน Microsoft MIX 2010 โดยเฉพาะ เพื่อมาตอบคำถามที่ยังคงเป็นปริศนาหลายๆ อย่างให้แก่ท่านผู้ชมได้รับชม
จะมี Multitasking ไหม? มีตัวอย่างของเกมส์แบบ Cross-Platform รึเปล่า? แล้ว WinMo 6.x ไปอยู่ที่ไหนซะหล่ะ? มันยังมีการพัฒนาต่อไหม? (อะไรคือ "Classic" กับ "Starter Edition"?), แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Zune? จะมีฮาร์ดแวร์ออกมาอีกไหม? 3 รุ่นปริศนา นั้นคืออะไร? ทำไมนักพัฒนาถึงได้รู้สึกกังวลใจ?
ท่านทั้งหลาย.. ชั่วโมงนี้เป็นของเราแล้ว เราจะอธิบายคำตอบเหล่านี้ให้แก่ท่านได้รับชม มีคำตอบอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียวหล่ะ..
คุณสมบัติใหม่
แว่บแรกที่เราได้สัมผัส Windows Phone 7 Series เราอาจจะยังนึกไม่ออกว่าเจ้า OS ที่หน้าตาเหมือน Zune นี้ จะทำงานอย่างไร แต่นี่คือฟีเจอร์ต่างๆ ที่ Microsoft ได้พัฒนาขึ้นและประกาศออกมาในวันนี้
- บริการแจ้งเตือน (Push Notification Service): ซึ่งเรียกกันว่า "Microsoft Notification Service" ฟังดูแล้วรู้สึกแย่เหมือน Push Notification System ที่มาจากทาง Apple ยังไงชอบกล แต่นี่อาจสื่อความหมายถึง Multitasking ของระบบ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีอยู่เลยจริงๆ ก็ได้.. ถึงอย่างไรก็ตามจากภาพที่เห็นอยู่ด้านบน ดูเหมือน Microsoft เลือกที่จะใช้แจ้งเตือนแบบป๊อปอัพ ซึ่งปรากฏอยู่ใน Tray ด้านบนสุดของจอ และมีหน้าตาน่าเกลียดกว่าป๊อปอัพที่ใช้อยู่บน iPhone ซะอีก
- บริการเกี่ยวกับตำแหน่ง (Microsoft Location Service): เป็นบริการเกี่ยวกับการให้ข้อมูลของสถานที่ต่างๆ ผ่านทาง Bing ซึ่ง Bing จะติดตัวคุณไปยังทุกๆ ที่ (Bing Everywhere)
- Silverlight, Silverlight, Silverlight: Apps บน Windows Phone 7 ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นบน Silverlight ซึ่งเดิมทีเราอาจจะเคยรู้จักมันในฐานะปลั๊กอิน ซึ่งถูกใช้งานเพียงครั้งเดียวสำหรับการรับชมโอลิมปิก แต่ทว่ามันยังสามารถนำมาใช้สร้าง Apps สำคัญต่างๆ ได้อีกมาก นอกจากจะใช้งานมันเป็นเพียงแค่วีดีโอเพลย์เยอร์
- เครื่องมือในการพัฒนาจะถูกแจกจ่ายฟรี: ทูลในการพัฒนา Apps สำหรับ Windows Phone 7 บน Visual Studio และ Microsoft Expression Blend (สำหรับพัฒนา UI) สามารถดาวน์โหลดได้ไปแบบฟรีๆ
- นักพัฒนา Apps สามารถลงมือได้แล้ววันนี้: โดยทูลต่างๆ สามารถดาวน์โหลดได้จาก developer.windowsphone.com เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีไม่ว่าจะมีโทรศัพท์หรือไม่ เนื่องจากภายในประกอบไปด้วยอีมูเลเตอร์สำหรับรันบนพีซี นอกจากนี้ นักพัฒนาระบบยังสามารถใช้งานอินพุทแบบทัชสกรีนได้อีกด้วย (แต่แน่นอนว่าต้องใช้จอภาพแบบทัชสกรีนด้วยเช่นเดียวกัน)
- ไม่มีระบบสนับสนุนสำหรับนักพัฒนาชาว Mac: แน่นอน ถูกต้องอยู่แล้ว.. นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่ได้พัฒนาระบบบน Mac
The Marketplace
เดือนที่ผ่านมาเรายังไม่ค่อยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ Windows Phone Marketplace มากนัก แต่วันนี้ Microsoft ได้เปิดเผยมันออกมาแล้ว
- มีความเป็น Panoramic: ซึ่งมีส่วนที่เหมือนกับ Windows Phone 7 โดยผู้ใช้สามารถเลื่อนหน้าจอและซูมเข้าออกได้ เช่นเดียวกับการใช้งานระบบทั่วไปของ Windows Phone 7
- มีตัวเลือกในการเลือกซื้อ Apps: ประกอบไปด้วย การจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวผ่านทางเครดิตการ์ด, แจ้งยอดชำระ Apps ผ่านทางโอเปอร์เรเตอร์, หรือเลือกใช้งาน Apps แบบมีโฆษณาติดไปด้วย (Ad-Supported Apps)
- แอพพลิเคชันทดลองใช้ (App Trials): Microsoft ต้องการให้นักพัฒนายินยอมให้ผู้ใช้ สามารถทดลองใช้ Apps ต่างๆ ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งผลดีก็จะตกไปอยู่ที่ผู้ใช้ และยังสามารถลดความกลัวของผู้ซื้อ ต่อนักพัฒนาที่ไม่มีชื่อเสียงมากนักได้
เพิ่มเติม: อาจจะไม่ได้เป็น Requirement ไปซะแล้ว แต่ข้อกำหนดนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงออปชัน สำหรับนักพัฒนาแต่เพียงเท่านั้น..
- โปรแกรม Zune Client: ผู้ใช้สามารถท่องไปยัง Zune Marketplace ได้ ผ่านทางโปรแกรม Client ของ Zune เช่นเดียวกับที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึง App Store ได้ ผ่านทางโปรแกรม iTunes ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ Windows Phone 7 นั้นมีความแตกต่างจาก Android และ webOS มากยิ่งขึ้น โดยการจำกัดการติดตั้ง Apps ต่างๆ ลงไปในยังอุปกรณ์ และโปรแกรม Zune นั้นสามารถรันได้เฉพาะบน Windows เท่านั้น นั่นหมายความว่า นอกจากเราจะไม่สามารถติดตั้ง Apps ใดๆ ตามใจชอบได้จาก Desktop แล้ว เรายังไม่สามารถทำการซิงค์ข้อมูลอื่นๆ ผ่านทาง USB ได้อีกด้วย นอกจากใช้ในการรับส่ง ไฟล์เพลง วิดีโอ และรูปภาพ ซึ่งก็ต้องทำผ่านทางโปรแกรม Zune อีกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังไม่สามารถเชื่อมต่อเพื่อรับส่งข้อมูลในรูปแบบของ Mass Storage ได้อีกด้วย, ในอีกมุมมองนึง นั่นหมายความว่า Windows Phone 7 อาจไม่สามารถใช้ฟังเพลงหรือรับชมวิดีโอใดๆ ได้เลย ถ้าหากผู้ใช้ไม่มี PC ไว้ในครอบครอง
- Multitasking: เรื่องนี้พูดถึงกันอยู่เป็นประจำ และกลายเป็นว่ามันก็ไม่มีอยู่จริงๆ เหลือเพียงแต่เงื่อนไขบางอย่างสำหรับการใช้งาน Multitasking เช่นการฟังเพลง ซึ่งนี่เป็นสิ่งเดียวที่ Microsoft พูดถึงอยู่ในขณะนี้ และ Apps ประเภท Pandora ก็อาจจะไม่สามารถใช้งาน Multitasking ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเช่นเดียวกัน (เช่น เราอาจจะไม่สามารถรันโปรแกรมอย่าง Skype หรือ Twitter Client ทิ้งไว้ แล้วซ่อนไว้ในแบคกราวด์ได้)
เพิ่มเติม: อาจเป็นไปได้ว่าสาเหตุที่ Microsoft ไม่ทำการสนับสนุนระบบ Multitasking อีกต่อไป อาจเนื่องมาจากเหตุผลด้านอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ ซึ่งอาจจะต้องมีการใช้ไฟที่สูงขึ้นกว่าเดิม หากระบบมีการประมวลผลโพรเซสหลายๆตัวอยู่บนแบคกราวด์
- หน้าจอจะมีความละเอียดเพียงสองรูปแบบเท่านั้น: ซึ่งต่อไปนี้ Microsoft จะยินยอมให้มีการแสดงผลที่ความละเอียดเพียงสองรูปแบบ ได้แก่ความละเอียดที่ 800x480 WVGA ซึ่งเราได้เคยพบเห็นไปแล้วใน Windows Phone 7 รุ่นต้นแบบ และอีกความละเอียดหนึ่งที่ 480x320 HVGA สำหรับ Windows Phone 7 Handsets ดังนั้นนักพัฒนาโปรแกรมจะต้องพัฒนารูปแบบการแสดงผล ที่สามารถแสดงผลได้ถึงสองชนิด เพื่อให้เกิดความสะดวกและความเรียบง่ายในการใช้งาน
- Apps สำหรับ Windows Mobile 6.x จะไม่สามารถใช้งานได้: Scott Guthrie ได้ออกมายืนยันแล้วว่า Apps สำหรับ Windows Mobile 6.x จะต้องทำการพอร์ตเข้ามาก่อน ถึงจะสามารถใช้งานได้ และนี่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายนัก เช่น อาจจำเป็นจะต้องมีการยกเครื่องอินเตอร์เฟซใหม่ทั้งหมด หรือทำการปรับปรุงในส่วนของคอร์ .NET เพื่อให้สามารถรันข้ามแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้วสำหรับการพัฒนา Apps ข้ามแพลตฟอร์ม
Apps ในช่วงแรก
และนี่ก็คือรายชื่อของพาร์ทเนอร์ระดับบิ๊กเนม ซึ่งถูกเปิดเผยออกมาในช่วงยกแรก (ผมขอทำตัวหนาสำหรับบริษัทเกมส์รายใหญ่นะครับ)
AWS Convergence Technologies ?
WeatherBug
Citrix Systems Inc.
Clarity Consulting Inc.
Cypress Consulting
EA Mobile.
Fandango Inc.
Foursquare Labs Inc.
frog design inc.
Glu Mobile Inc.
Graphic.ly
Hudson Entertainment Inc.
IdentityMine Inc.
IMDb.com Inc.
Larva Labs
Match.com LLC
Matchbox Mobile Ltd.
Microsoft Game Studios
Namco Networks America Inc.
Oberon Media Inc.
Pageonce Inc.
Pandora Media Inc.
Photobucket Inc.
PopCap Games Inc.
Seesmic
Shazam Entertainment Ltd.
Sling Media
SPB Software Inc.
stimulant
TeleCommunications Systems Inc.
Touchality LLC and Vertigo Software Inc.
ในช่วงนี้ เราก็คงได้แต่มองดู Apps ต่างๆ ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะบน Windows Phone 7 ซึ่งโดยรวมแล้วก็มีหน้าตาที่สวยงามน่าประทับใจเลยทีเดียว
และที่เห็นนี้ ก็คือพรีวิวเหล่าบรรดา Apps ต่างๆ ในช่วงแรกของการพัฒนาบน Windows Phone 7 ซึ่งได้มีการผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว นอกจากนี้บรรดา Apps ต่างๆ ยังสามารถเพิ่มเติมการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติได้อีกด้วย เช่น การนำเสนอภาพประกอบข่าวในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งนี่จะเป็นการก้าวกระโดดอีกขั้น สู่ยุคต่อไปของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร
ลองมาดู Apps อื่นๆ กันต่อ อย่างโปรแกรม Hush Hush ด้านล่างนี้ เราจะเห็นว่า Microsoft นั้นได้อนุญาติให้มีการพัฒนาแอพพลิเคชันอินเตอร์เฟซในรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากอินเตอร์เฟซมาตรฐานที่ใช้ใน Zune หรือ Windows Phone 7 แบบทั่วๆ ไปได้อีกด้วย
การที่ Apps ต่างๆ ของ Windows Phone 7 นั้น ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นบน Silverlight นั่นหมายความว่าเราสามารถนำไลบรารี่ของ Silverlight มาพัฒนาต่อยอด เพื่อให้สามารถใช้งานบน Windows Phone 7 ได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยที่นักพัฒนาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ตัวอย่างใกล้ๆ ตัวเช่น Netflix (แต่จากรูปที่เห็นอยู่ในขณะนี้ อาจจะไม่มีสาระสำคัญอะไรมากมายนักจนกว่าเราจะได้เห็นของจริง)
คอมเมนท์เพิ่มเติมจากผู้แปล: Netflix เป็นบริการเช่าหนังดีวีดีแนวใหม่ของอเมริกาครับ มีแนวคิดแบบไม่ต้องมีการคืนหนัง ไม่มีค่าปรับ เช่ากี่เรื่องก็ได้ไม่จำกัด(แต่ครั้งละไม่เกิน 3 เรื่อง ถ้าจะเช่าอีกก็คืนเรื่องเดิมก่อน) และก็ให้บริการเช่าผ่านระบบออนไลน์ ข้อมูลเพิ่มเติมของ Netflix ซึ่ง Netflix ที่จะให้บริการใน Windows Phone 7 นั้น จะเป็นการให้บริการเช่าหนังโดยผ่านการสตรีมมิ่งบนเครื่อข่าย 3G ครับ
เกมส์
อย่างที่เราทราบรายละเอียดบางส่วนมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตัว Windows Phone 7 นั้น มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมพอสำหรับการเล่นเกมส์ ปัจจัยสำคัญไม่เพียงแต่การกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำของตัวแพลตฟอร์มแล้ว (ซึ่งทำให้ฮาร์ดแวร์ของ iPhone กลายเป็นเต่าไปโดยปริยาย) ยังมีการผนวกระบบเข้ากับบริการของ Xbox Live เข้าไปอีกด้วย ซึ่ง Joe Belfiore ได้ทำการสาธิตตัวอย่างเกมส์สั้นๆ ให้พวกเราได้เห็นจากวิดีโอที่อยู่ด้านบนนี้
นอกจากนี้ ในตอนท้ายของ Keynote ทาง Microsoft ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาให้ความสำคัญต่อบรรดา Apps ต่างๆ บน Windows Phone 7 เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาได้ตัดสินใจละทิ้งบรรดา Apps ต่างๆ บน WM6.X ออกไปทั้งหมด เพื่อให้เกิดการควบคุมคุณภาพบน Windows Phone 7 แต่อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะไม่สามารถควบคุมได้ นั่นคือผู้ซื้อ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือก Windows Phone 7 Series ซึ่งไม่ช้าก็เร็วคำตอบนี้ก็จะปรากฏอยู่ตรงหน้า
และสุดท้าย..
คอมเมนท์เพิ่มเติมจากผู้แปล: จากรูปนี้ก็คงจะชัดเจนว่า Samsung ก็ได้โดดเข้ามาร่วมวง Windows Phone 7 Series นี้ด้วยเช่นกัน..
งานนี้เห็นได้ชัดว่า Microsoft ไม่ได้รีบร้อนที่จะเปิดเผยข้อมูลทุกอย่าง หลังจากที่ปกปิดมันไว้และนำมาเผยสู่สาธารณชนในงาน Mobile World Congress และนี่ก็คือเรื่องราวของทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้...
เพิ่มเติม:
ที่มา: Gizmodo