Samsung 3DTV เมื่อทีวีสามมิติทะลุมาเคาะประตูคุณ [sponsored]

by tr
20 May 2010 - 13:13

วันก่อนพี่ลิ่วมอบโอกาสให้ผมไปทดสอบจอภาพสามมิติที่ซัมซุง ประเทศไทย (ที่เดียวกับที่พี่มาร์คไปมาวันก่อน) ทีแรกนี่ดีใจมาก นึกว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์สามมิติที่เอาไว้เล่นเกม แต่พออยู่บนรถขาไปก็ได้รู้ว่าจะให้ไปดูทีวีสามมิติฮะ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเหมือนกันครับ เพราะว่าผมยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆของจอภาพสามมิติทั้งสองแบบเลย

เทคโนโลยีสามมิติมาถึงแล้ว
จะเห็นได้ว่าช่วงปีสองปีนี้ เทรนด์ของการพัฒนาจอทีวีนั้นได้เบนเข็มจากกันอัดคุณภาพในระบบสองมิติมาเป็นสามมิติแล้ว ภาพยนต์สามมิติ ที่นับวันก็ยิ่งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และการที่เกาหลีใต้จะทดลองแพร่สัญญาณทีวีสามมิติ ช่วงต้นปีในงาน CES 2010 ก็ได้มีการเปิดตัวทีวีสามมิติจากหลายๆค่ายไป ก็จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสามมิตินั้นจะไม่ได้อยู่แค่ในโรงหนังแล้ว แต่จะมาอยู่ในห้องนั่งเล่นของคุณด้วยครับ

โซลูชั่นสามมิติจากซัมซุง
ตอนนี้ถ้ารวมค่ายใหญ่ๆที่ขายทีวีสามมิติทั้งหมด ดูเหมือนว่าซัมซุงจะพุ่งนำหน้าชาวบ้านมาหน่อยก็ตรงที่ว่าเป็นเจ้าแรกที่มีโซลูชั่นครบทั้งทีวีสามมิติ และเครื่องเล่นบลูเรย์สามมิติครับ โดยที่ทีวีสามมิตินั้นมีทั้งแอลอีดี แอลซีดี และพลาสม่า เรียกได้ว่าครบทั้งตระกูลทีวีในยุคปัจจุบันเลยครับ


เทียบทีวีทั้งสามแบบ รูปแบบหรูหราแตกต่างกันออกไป
เรื่องของภาพนั้นผมเข้าใจว่าคงจะแตกต่างกันตามจุดเด่นของแต่ละชนิดครับ อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมและงบประมาณครับ แอลซีดีจะถูกสุด พลาสม่าจะขยับขึ้นไปนิด และแอลอีดีจะกระฉูดตามคาดครับ
มาที่เครื่องเล่นบลูเรย์สามมิติกันบ้าง ผมเห็นว่าเครื่องเล่นยุคนี้สวยกว่ายุคเริ่มต้นมากเลยฮะ เดี๋ยวนี้เหลี่ยมๆเรียบๆ สมัยยุคเริ่มแรกนี่บวมกันจนไม่รู้จะบวมยังไงแล้วครับ (นึกภาพ PS3 ดูครับ)


สวยฮะ ตัวจริงนี่หน้าตาคมเข้มมาก
เรื่องตัวคุณภาพของภาพบนทีวีนั้นผมไม่ค่อยสันทัดนัก (ปกติทีวีผมยังไม่ค่อยจะดูเลย ถามจาก writers แถวๆนี้ได้ครับ) แนะนำให้อ่านรีวิวของเว็บเพื่อนบ้านที่ไปยืนหล่อ รีวิวละเอียดยิบอยู่ข้างๆผมในวันนั้นครับ รีวิวของผมจะเน้นหลักๆที่เทคโนโลยีตามแบบฉบับของเว็บนี้ครับ :D

แว่นสามมิติ
ไปๆมาๆผมคิดว่าจุดเด่นหนึ่งของโซลูชั่นสามมิติของทีวีสามมิติของซัมซุงนั้นคือตัวแว่นสามมิติครับ เพราะออกแบบมาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ
ปกติแล้วผมไม่ค่อยจะชื่นชอบการดูหนังสามมิติเท่าไหร่ เพราะว่าผมไม่ชอบใส่แว่นสามมิติทับแว่นสายตาครับ แว่นสามมิติในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นโรงธรรมดาหรือโรงไอแมกซ์นี่ถ้าใส่แว่นสองชั้นจะรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างยิ่งครับ เชื่อว่าหลายๆท่านในนี้ก็คงมีปัญหาเดียวกับผม คือทั้งขาแว่นมันดันกัน หน้ากรอบงัดกัน ที่ดันดั้งก็ทับกันอีก ผลก็คือผมต้องใส่คอนแทคเลนส์เวลาจะไปดูหนังสามมิติครับ
ตอนแรกที่ไปงานผมก็เตรียมคอนแทคเลนส์ไปด้วย แต่พอลองใส่แว่นของซัมซุงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบที่คาดไว้ครับ เพราะดูแล้วมันออกแบบมาให้เป็นมิตรทั้งคนที่ไม่ใส่แว่นแล้วก็ใส่แว่นอย่างผมครับ ดูได้จากรูปนี้เลยครับว่าตัวแว่นนั้นขาจะโก่งๆแล้วก็ตัวกรอบใหญ่พอที่จะครอบแว่น เพราะฉะนั้นตัดปัญหาเรื่องแว่นทับกันได้เลย ใส่สบายมากๆครับ ขนาดขาไม่สปริงนะครับเนี่ย


ใส่แว่นดำๆแล้วซ่อนขอบตาดำได้ดียิ่งครับ

ส่วนฟีเจอร์ของแว่นนั้นก็ถือว่าร้ายกาจพอสมควร แว่นตัวนี้เป็นแว่นแบบชัตเตอร์ ซึ่งหมายความว่ามันเป็นแว่นไฟฟ้าครับ (ที่เราใส่ในโรงหนังจะเป็นแว่นแบบโพลาไรซ์ครับ)
หลักการทำงานของแว่นชัตเตอร์ก็คือในเลนส์ทั้งสองข้างของตัวแว่นจะมีคริสตัลเหลวที่จะถูกกระตุ้นด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เลนส์ข้างหนึ่งมืดสลับกันไปสลับกันมาด้วยความเร็วเท่ากับ refresh rate ของตัวทีวีครับ
เวลาเราไม่ได้เปิดใช้แว่นก็จะเป็นเหมือนแว่นตัดแสงธรรมดา ภาพที่มองเห็นจะออกเหลืองๆนิดหน่อย แต่พอกดสวิตช์บนกรอบแว่นด้านขวาค้างไว้ประมาณหนึ่งวินาที แล้วตัวแว่นก็จะเริ่มทำงานครับ ภาพที่มองเห็นจะมืดลงนิดหน่อย แล้วเราก็จะเห็นภาพบนจอเป็นสามมิติครับ


สวิตช์แว่นหาง่ายครับ ปุ่มใหญ่ดี


เวลาไม่ได้เปิดจะดูเหลืองๆ แต่พอเปิดแล้วจะดูฟ้าๆดำๆครับผม

ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือระบบที่ควบคุมแว่นอยู่ครับ แว่นตัวนี้จะเชื่อมกับทีวีด้วยสัญญาณอินฟราเรด เวลาเราจะเปิด-ปิดแว่นจะต้องหันหน้าเข้าหาทีวีครับ ทางซัมซุงบอกไว้ว่าระยะทำการจะประมาณ 10 เมตร แล้วก็เบี่ยงออกจากตัวทีวีได้ประมาณ 150 องศาครับ (ผมทดลองกดจากท้ายห้อง ระยะประมาณ 7-8 เมตรก็ใช้ได้ครับ)


ตัวรับสัญญาณอยู่กลางแว่นเลยครับ

ส่วนสุดท้ายของแว่นที่ผมชอบคือ มันใส่ถ่านนาฬิกา CR 2025 ธรรมดาๆครับ ทางซัมซุงบอกว่าเปิดใช้ต่อกันได้ราวๆ 40-50 ชั่วโมง โดยที่เวลาถ่านใกล้จะหมดแล้วแว่นจะกระพริบๆให้เราเห็นครับ (ปกติแล้วแว่นจะเปิดปิดเร็วมากจนตาเรามองไม่ทัน แต่พอถ่านใกล้หมดเลยช้าลงจนตาเห็นทันนั่นเอง)


ที่ใส่ถ่านอยู่ตรงต้นขาแว่นด้านซ้ายครับ เลื่อนออกได้เลย

แว่นตัวนี้เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ซัมซุงจะเอามาขายในไทยครับ (เห็นในเว็บบอกว่ามีอีกรุ่นเป็นแบบชาร์จได้) จะมีแว่นแถมมากับทีวีสองอัน และเราสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคา 4,900 บาท โดยที่ตัวแว่นจะรับประกันเฉพาะความผิดพลาดจากโรงงานเป็นเวลาหนึ่งปีครับ (เขาบอกว่าแว่นแบบนี้ซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนหรือซื้อใหม่อย่างเดียวครับ) แล้วก็จะใช้ได้กับเฉพาะทีวีสามมิติของซัมซุงด้วยครับ

ระบบแปลงภาพจากสองมิติเป็นสามมิติ
ตั้งแต่ไปถึงงานนี่มีอย่างเดียวที่ทำให้ผมช็อคอ้าปากค้างได้ครับ คือระบบแปลงภาพจากสองมิติเป็นสามมิติในตัวทีวีเลย แค่กดปุ่ม 3D บนรีโมท จอทีวีก็จะมืดไปราวๆครึ่งวินาทีแล้วก็จะกลับเป็นสามมิติเลยครับ
ตอนแรกผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับฟีเจอร์นี้มากเท่าไหร่นัก เพราะถือว่ามันใหม่มาก (ผมเคยพยายามจะเขียนโปรแกรมให้มันแปลงภาพนิ่งจากสองมิติเป็นสามมิติเหมือนกันครับ แต่ผลออกมาเป็นสยองมิติ -_-) แล้วก็การที่จะแปลงภาพจากสองมิติเป็นสามมิตินั้นจะต้องมีระบบที่แยกแยะระยะความลึกของภาพที่ดีมากด้วย ซึ่งในส่วนนี้ผมต้องบอกเลยว่าซัมซุงทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ


พอมันกลับมาจะมีคำเตือนด้วยว่าดูนานแล้วปวดหัว

ตอนเปิดโหมดนี้มา ผมกะไว้ว่าทุกอย่างจะลอยออกมาเท่ากัน (ทำแบบนี้ง่ายฮะ) แต่กลายเป็นว่าเอนจิ้นเบื้องหลังของซัมซุงนั้นสามารถแยกแยะความลึกได้ดีเลยทีเดียว (ผมพยายามถามเจ้าหน้าที่เทคนิคแล้วว่าใช้วิธีอะไร แต่เหมือนจะเป็นทางลับทางการค้า เพราะฉะนั้นผมขอฟันธงว่าเป็นเวทย์มนต์ครับ) ส่วนภาพที่ออกมานั้นดูมีมิติความลึกที่ดูแล้วไม่เลื่อนลอย และที่สำคัญคือไม่ค่อยกระตุกครับ
อย่างภาพด้านล่างนี้ เป็นคลิปการเต้นเบรคแดนซ์ที่เต้นพร้อมกันทีละ 2-3 คน แล้วก็จังหวะการเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็ว ซึ่งพอแปลงเป็นสามมิติแล้วผมรู้สึกเกือบเหมือนว่าจะนั่งดูอยู่ในงานเลยครับ เพราะว่าพื้นเวทีนั้นมีความลึก และผมสามารถมองเห็นความต่างของระยะระหว่างคนเต้นได้อย่างชัดเจนมากครับ


เทียบให้ดูครับ แปลงทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ตัวหนังสือบนจอครับ

ตัวอย่างที่ผมชอบมากอีกอันหนึ่ง และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ผู้คนจะซื้อทีวีสามมิติมาดูกัน คือดูบอลครับ (หรือดูกีฬาต่างๆ แต่ผมว่าดูบอลนี่คงเป็นอันดับหนึ่งในไทยแน่นอน) ทางซัมซุงก็เหมือนจะรู้ใจคนไทยดีเตรียมคลิป Chelsea เชือด Portsmouth (โหดร้ายมาก) มาให้ดูอุ่นเครื่อง เอฟเอคัป รอบชิงชนะเลิศครับ

ตอนแรกดูสองมิติผมก็ตื่นเต้นแล้วครับ เพราะว่าภาพคมชัดมาก (ปกติผมดูจอจิ๋วๆ) แต่พอเปิดมาเป็นสามมิตินี่ผมลากเก้าอี้มานั่งดูเลยฮะ คือมันสุดยอดมาก เมื่อก่อนผมคิดว่าที่จะถ่ายทอดบอลโลกเป็นสามมิตินี่แค่ตามกระแส แต่พอมาเจอเข้าเองนี่เป็นทัศนคติดื้อๆเลยฮะ ประสบการณ์ความบันเทิงนี่แทบจะคนละชั้นกันเลยทีเดียว นักเตะไม่ได้ดูแบนๆเหมือนในเกมวินนิ่งภาคเก่าๆอีกแล้วฮะ คือดูแล้วเหมือนเล่นฟุตบอลโต๊ะยังไงยังงั้น (เอ๊ะ ทำไมโลว์เทคงั้นล่ะ -_-)

ถ้าดูในภาพด้านล่างจะเห็นว่าเอนจิ้นที่แปลงภาพนั้นรับรู้ด้วยว่ากล้องถ่ายมาจากมุมไหน กำลังแพนภาพไปทางไหน จะเห็นได้ว่าด้านซ้ายนั้นเส้นบนสนามนั้นเหลื่อมๆกัน แต่เส้นด้านขวานั้นไม่เหลื่อม ถ้าใส่แว่นสามมิติดูก็จะเห็นความลึกต่างกันชัดเจนมากครับ


นัดนี้จบที่ 5-0 ผมไม่คิดเลยว่าจะโหดได้มากกว่านี้อีก

แต่ก็ใช่ว่าเอนจิ้นตัวนี้จะสมบูรณ์เสมอไป เวลาดูฟุตบอลนี่ผมเห็นได้ชัดเลยว่ายังพัฒนาต่อได้อีกนิดครับ คือตัวสกอร์บอร์ดนี่มันจะกระดิกๆนิดหน่อย โดยเฉพาะเวลามันเฝดออกหรือเฝดเข้ามาครับ แล้วก็เวลาใครยิงได้ ภาพช้าจากกล้องหลังโกล์นี่บอลตุงตาข่ายแต่ยังไม่ลอยออกมานอกจอฮะ แต่ผมก็เข้าใจได้ว่าไม่ได้ทำเนื้อหามาสำหรับแปลงเป็นสามมิติ แต่คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงมีการปรับปรุงครั้งใหญ่แน่นอนครับ (รอดูตอนบอลโลกนี่แหละครับ)

สรุป

  • เทคโนโลยีสามมิติมันมาถึงตลาดผู้ใช้ในครัวเรือนแล้วครับ
  • เนื้อหาที่เป็นสามมิติในอนาคตน่าจะมีออกมาเยอะพอสมควร แต่ตอนนี้ก็แปลงจากสองมิติได้สบายๆ
  • ทีวีสามมิติของซัมซุงนี่ออกมารุ่นแรกก็เข้าขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว

ตอนแรกผมเล็งๆจะซื้อทีวีแอลอีดีในช่วงนี้อยู่ แต่หลังไปงานนี้นี่ผมเก็บเงินต่อรอซื้อทีวีสามมิติเลยฮะ จะเอามาดูบอลโลกกับดูสาวๆ SNSD แบบสามมิติ

อ้อ แล้วก็ทีวีสามมิติมีดีอีกอย่างนึงครับ คือสามารถบังคับสาวๆให้เป็นสาวแว่นได้ทันที อันนี้ผมไปลากเจ้าหน้าที่สาวจากซัมซุงมาสาธิตให้ดูครับ ได้ผลดีเกิดคาดครับ

สาวแว่นจงเจริญ! ชาบู! ชาบู!

Blognone Jobs Premium