สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศญี่ปุ่นได้เปิดเผยแผนที่ส่งไปยังฟีฟ่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอล 2022 โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการมูลค่า 550 พันล้านเยน (ราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ชื่อ Universal Fan Fest หรือระบบถ่ายทอดสามมิติจากระยะไกล (3-D telecasts)
ในแต่ละแมตช์การแข่งขัน จะใช้กล้องถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง (HD) จำนวน 200 ตัวเก็บภาพ 360 องศา แล้วส่งไปนำเสนอเป็นสามมิติบนจอขนาดยักษ์ หรือกระทั่งฉายลงบนสนามหญ้าเสมือนผู้ชมดูแมตช์การแข่งขันนั้นจริงๆ (โฮโลกราฟิกสามมิตินั่นเอง) หากเทคโนโลยีในอนาคตสามารถทำได้ ส่วนการบันทึกเสียงนั้นจะฝังไมโครโฟนไว้ใต้สนามการแข่งขัน เพื่อที่จะบันทึกและถ่ายทอดเสียงได้สมจริงที่สุด และในระบบติดต่อสื่อสารนั้นจะใช้กระแสไฟฟ้าที่สร้างโดยแผงโซล่าร์เซลล์ที่ติดตามหลังคาของสเตเดียมและพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของร่างกาย (kinetic energy) ของผู้ชม!
อาจารย์จุน มูระอิ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคโอและเป็นผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีของคณะกรรมการกล่าวว่า ถึงแม้ว่ามันต้องใช้เทคโนโลยีที่ดูเป็นความฝันและน่าจะพบเห็นได้ในหนัง sci-fi เท่านั้นแต่สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราจะเห็นคือทิศทางของเทคโนโลยีที่จะเกิดในอีก 12 ปีข้างหน้า และเขาคิดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือใช้การได้ราวปีค.ศ. 2016
ฟีฟ่าจะคัดเลือกผู้ที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ในวันที่ 2 ธ.ค.ปีนี้ ซึ่งนอกจากญี่ปุ่นแล้วยังมีประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ รัสเซีย สหรัฐฯ รวมถึงอดีตเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่นอย่างเกาหลีใต้ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 อีกด้วย