รีวิว Acer Liquid

by mk
22 May 2010 - 10:22

ถ้านึกถึงผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ เราคงไม่ค่อยนึกถึง Acer กันสักเท่าไร แต่เหมือนว่าการผลิตมือถือเป็นเส้นทางที่หลีกเลี่ยงได้ยากของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย Acer จึงรุกเข้ามาในตลาดมือถือแบบเงียบๆ ไม่ค่อยหวือหวานัก โดยเน้นที่มือถือ Windows Mobile เป็นหลัก

Acer Liquid เป็นความพยายามครั้งแรกของบริษัทกับระบบปฏิบัติการ Android (คาดว่าในอนาคต มือถือ Android ของ Acer จะยังใช้แบรนด์ Liquid ต่อไป) และนี่คือรีวิวของ Liquid ครับ

ฮาร์ดแวร์

สเปกแบบเต็มๆ ของ Liquid สามารถอ่านได้จาก เว็บของ Acer แบบคร่าวๆ คือ

  • จอ 3.5" ความละเอียด 800x480 ซึ่งกลายเป็นความละเอียดมาตรฐานของสมาร์ทโฟนที่ขายหลัง Droid ไปหมดแล้ว
  • ซีพียู Qualcomm 8250 ความถี่ 768 MHz
  • ROM 512 MB, RAM 256 MB
  • กล้อง 5MP ออโต้โฟกัส ไม่มีแฟลช

มีให้เลือก 3 สีคือ ขาว ดำ แดง เครื่องที่ผมได้มาทดสอบเป็นสีแดง ในชุดมาพร้อมกับ Micro SD ขนาด 2GB และสายต่อนู่นนี่อีกนิดหน่อย

ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส Liquid คือ "ใหญ่" ถึงแม้ว่าขนาดโดยรวมจะไม่ต่างจาก iPhone 3GS มากนัก แต่ด้วยดีไซน์ที่ใช้กรอบพลาสติกครอบอีกชั้น เลยทำให้รู้สึกว่าเครื่องมีขนาดใหญ่มาก

เวลาถือในมือ รู้สึกเต็มไม้เต็มมือดี ความรู้สึกเหมือนตอนถือ PSP

เทียบกับ HTC Magic ที่ผมใช้อยู่ ใหญ่กว่ากันพอสมควร

แม้ว่า Acer Liquid จะมีขนาดใหญ่กว่ามือถือขนาดมาตรฐาน แต่กลับเบากว่าที่คิดมากครับ น้ำหนักเพียง 135 กรัมเท่านั้น อันนี้เป็นการออกแบบที่น่าสนใจเหมือนกันว่าทำไม Acer ถึงเลือกทำมือถือใหญ่แต่เบา

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นปุ่มล็อคหน้าจอด้วย ส่วนฝั่งขวาเป็นปุ่มปรับเสียงและชัตเตอร์ เช่นเดียวกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่วางขายในปัจจุบัน

ด้านบนมีแค่ช่องเสียบหูฟัง ด้านล่างเป็นพอร์ตสำหรับชาร์จพร้อมยางปิด น่าสนใจอีกเช่นกันว่า Acer เลือก Mini USB แทน Micro USB ที่มือถือรุ่นใหม่ๆ ใช้กัน

ฝาหลังใช้วิธีแงะขึ้นมาครับ อันนี้ผมไม่ค่อยชอบเพราะมันแงะยากใช่เล่น แถมเป็นเครื่องรีวิวไม่กล้าแงะแรงกลัวทำเครื่องเค้าพัง ตรงนี้ผมมองว่าเป็นจุดด้อยอันหนึ่งของ Liquid

การถอดซิมการ์ดและ Micro USB จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกมาเสียก่อน ถือเป็นจุดด้อยเล็กๆ อีกจุดเช่นกัน

รอยฟิล์มที่เห็นนั่นมากับเครื่องอยู่แล้วนะครับ (สงสัยผ่านมาหลายมือ) ถ้าถามความเห็นผมเรื่องฮาร์ดแวร์ ผมว่าเครื่องใหญ่ไปนิด วัสดุและการดีไซน์ดูพลาสติกไปหน่อย โดยรวมๆ ดูธรรมดาไม่แย่แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น (หรือว่านี่มันคือแนวทางการดีไซน์ของ Acer นะ!)

ซอฟต์แวร์

Acer Liquid ตัวนี้ใช้ Android 1.6 รุ่นปรับแต่งเล็กน้อย ถ้าจะว่ากันตรงๆ ต้องบอกว่ามันเก่าไปมากแล้ว Liquid เปิดตัวในเมืองนอกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2009 และวางขายจริงประมาณเดือนกุมภา 2010 แต่ในเมืองไทยกว่าจะเข้ามาก็ดีเลย์กันอีกนาน การส่งมือถือ Android 1.6 มาให้รีวิว ก่อนการเปิดตัว Android 2.2 (3 รุ่นย่อยให้หลัง) ไม่กี่วันก็ลดทอนความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ลงไปไม่น้อย

ผู้บริหารของ Acer ประเทศไทย ยอมรับกับผมตามตรงว่า Acer ยังค่อนข้างใหม่ในตลาดมือถือ อันนี้ก็เป็นกำลังใจให้ครับ แต่จะสู้กับคู่แข่งได้มากแค่ไหนก็อีกเรื่องนึง (จริงๆ แล้วควรเอา Acer Liquid e ที่เป็น 2.1 มาขายมากกว่านะ)

คุณลักษณะสำคัญอันหนึ่งของ Android คือมันเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ปรับแต่งซอฟต์แวร์ได้อิสระ (ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย) และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ส่วนมากมักเลือกที่จะปรับแต่งมันเช่นกัน (ที่เด่นๆ ได้แก่ HTC Sense, MOTOBLUR, Samsung TouchWiz)

ในกรณีของ Acer ก็ปรับแต่งบ้างแต่ไม่มากเท่ากับเพื่อนๆ ในวงการ ในภาพรวมแล้วมันยังเป็น vanilla Android ที่เพิ่มโปรแกรมนิดหน่อย แต่ไม่ได้แก้ไข shell

home screen

ภาพที่เห็นข้างบนเป็น home screen ของ Acer Liquid ซึ่งมีให้เลือก 3 หน้าจอตาม Android 1.6 หน้าจอตรงกลางไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่หน้าจอซ้ายกับขวามีสิ่งแปลกปลอมเพิ่มเข้ามา

วงล้อทั้งสองอันคือ widget พิเศษของ Acer ฝั่งซ้ายเป็นไฟล์มัลติมีเดียที่อยู่ในเครื่อง ประกอบด้วยภาพ-เพลง-หนัง (เปลี่ยนโหมดได้ที่ไอคอนมุมซ้ายบน) ส่วนด้านขวาคือ thumbnail ของเว็บที่อยู่ใน bookmarks ของเครื่อง

widget สองอันนี้ช่วยให้เราเข้าถึงไฟล์ได้สะดวกมากขึ้น (ผมพบว่า widget ฝั่งซ้ายมีประโยชน์กว่าฝั่งขวา) แต่มันก็มีข้อเสียคือกินที่ใน home screen ไปถึงครึ่งจอ ทำให้ไม่สามารถวาง widget อื่นๆ ที่มีลักษณะเป็น bar แนวขวางได้

โปรแกรม

นอกจาก home screen ที่มี widget พิเศษแล้ว Acer ไม่ได้เพิ่มหรือแก้ไขอะไรให้กับ Android มากนัก จะมีก็แต่โปรแกรมพรีโหลดเพิ่มจาก Android รุ่น Google Experience อีกจำนวนหนึ่ง

โปรแกรมที่เพิ่มเข้ามา

  • Acer Registration - ลงทะเบียนผลิตภัณฑ์กับ Acer อันนี้มีไว้รกเปล่าๆ
  • Acer Settings - หน้าจอปรับแต่งลัดของ Acer
  • Acer Sync - แลกเปลี่ยนข้อมูลกับพีซี อันนี้ผมไม่ได้ทดสอบครับ
  • Document to Go - โปรแกรมออฟฟิศมาตรฐานของ Android ที่วางขาย ที่มากับ Liquid เป็นรุ่นฟรีที่มีแต่ Word/Excel Viewer
  • Media Server - กระจายการเล่นมัลติมีเดียไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้ทดสอบ
  • nemoPlayer - โปรแกรมเล่นมัลติมีเดียที่เพิ่มเข้ามาจากตัวปกติของ Android
  • RoadSync Mail/Calendar - เชื่อมข้อมูลกับ Exchange ไม่ได้ทดสอบ
  • Spinlets - โปรแกรมฟังเพลงออนไลน์
  • Tasks - จดงาน
  • urFooz - โปรแกรม social network/virtual world

โปรแกรม Acer Settings ออกแบบมาอุดจุดอ่อนของ Android รุ่นเก่าๆ ที่เปิด-ปิดตัวเลือกบางตัวได้ยาก ในโปรแกรมนี้เราสามารถปรับแต่ง Wi-Fi/GPS/Bluetooth ได้ง่าย

ที่แปลกนิดนึงคือการปิด GPRS/EDGE ต้องสั่งติ๊กถูกเพื่อ "ปิด" ไม่ใช่เอาติ๊กออกเพื่อปิด แต่โดยรวมก็ป้องกันปัญหา EDGE รั่วได้ดี และไม่มีปัญหาปิดแล้วเปิดไม่ขึ้นแบบของ HTC

ฟีเจอร์ที่ผมคิดถึงมากใน HTC Sense คือ Contacts ที่รวม Facebook มาด้วย ของ Liquid ก็มีเหมือนกัน (อยู่ใน Acer Settings) แต่ทดลองใช้แล้วไม่สำเร็จ ส่วน Flickr มีให้ใช้แต่ยังห่างไกลกับคำว่า "เต็มขั้น" เพราะอัพโหลดภาพได้ผ่านอีเมลเท่านั้น

nemoPlayer เป็นโปรแกรมเล่นมัลติมีเดียที่ Acer เพิ่มเข้ามา (ตัวเดียวกับ widget ฝั่งซ้ายของ home screen) ครอบคลุมภาพ-เพลง-หนัง หน้าตาดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น แต่ก็ไม่มีลูกเล่นอะไรหวือหวามากนัก

ฟีเจอร์ที่ผมว่าน่าสนใจของ nemoPlayer คือมันอยู่ใน notification area ของ Android ด้วย ทำให้เข้าถึงเพลงที่เล่นได้สะดวก

Spinlets เป็นโปรแกรมฟังเพลงออนไลน์ฟรี เท่าที่ลองใช้ดูก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เพลงมีจำกัดมาก และเป็นศิลปินที่ผมไม่รู้จักสักคน

Tasks จดรายการช่วยจำ ฟีเจอร์พื้นๆ ใช้แก้ขัดได้ (สำหรับผู้ใช้แบบซีเรียส ผมแนะนำ gTasks เชื่อมกับ Gmail Tasks ได้โดยตรง เจ๋งกว่ากันเยอะ)

urFooz เป็นโปรแกรม virtual world ที่ให้เราสร้างอวตารไปเดินคุยเล่นกับเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ได้ อันนี้ผมขี้เกียจปรับแต่งและลงทะเบียน เลยข้ามไปครับ รู้สึกว่ามันเข้าข่าย crapware หน่อยๆ เหมือนกันนะ

Widget นอกจากที่กล่าวไป 2 อันข้างต้นแล้ว ยังมี Acer Weather อีกหนึ่งตัว หน้าตาน่ารักและใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา

กล้อง

กล้อง 5MP ของ Liquid ใช้งานได้ดีในที่สว่าง แต่พบปัญหาในที่มืดๆ หรือแสงน้อยดังเช่นกล้องมือถือทั่วไป การปรับแต่งทำได้ตามมาตรฐาน เช่น brightness, contrast, ISO, white balance

ผมลองถ่ายตามสภาพแสงต่างๆ ได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่เห็น



การถ่ายภาพใน Liquid ใช้ปุ่มชัตเตอร์ด้านข้างของตัวเครื่อง ปุ่มต้องกดลึกไปนิด และการกดปุ่มชัตเตอร์จากหน้า home screen เพื่อเข้าโหมดกล้อง บางครั้งกลับไม่เวิร์ค

อีกประเด็นที่ผมไม่ชอบใน Liquid คือถ่ายเสร็จแล้วไม่มีพรีวิวให้ดูว่าเราถ่ายชัดแค่ไหน ซึ่งกล้องมือถือมีโอกาสไม่ชัดสูงมาก การที่ต้องกดเข้าไปดูภาพในอัลบั้มทุกครั้งหลังถ่ายไม่ใช่เรื่องน่าสนุก (ยิ่งถ้าพบว่าภาพเบลอและต้องกลับไปโหมดถ่ายภาพอีกรอบ) เท่าที่ลองหาดู ไม่มีตัวเลือกให้แสดงพรีวิวภาพ

การใช้งาน

สรุปเป็นหัวข้อละกัน

  • Acer Liquid ใช้งานได้ลื่นกว่า HTC Magic (Android 1.5 + Sense) แต่ก็เจอปัญหาช้านิดๆ ตอนเปลี่ยนหน้าจอหรือเรียกโปรแกรมขึ้นมาใหม่ๆ ทำให้รู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง
  • หลายครั้งที่กดไปยัง home screen จะเจอหน้าจอเปล่าๆ ต้องรอสักพัก ไอคอนกับ widget ถึงจะโผล่ขึ้นมา อันนี้บั๊กแน่นอน
  • คีย์บอร์ดภาษาไทยใช้ของ CN Thai มาตรฐาน
  • ปุ่มควบคุมไม่ใช้ปุ่มจริง แต่เป็นส่วนเดียวกับหน้าจอ ผมยังติดปุ่มจริงมากกว่า (โดยเฉพาะ Back) ใช้แล้วขัดๆ แถมไอคอนของปุ่มดูไม่ค่อยสื่อเท่าไร (โดยเฉพาะ Home)
  • ถ้าหน้าจอล็อคอยู่ จะใช้งานต้องกด Power ด้านซ้ายก่อน แล้วค่อยกดปุ่ม Menu ปัญหาคือสองปุ่มนี้อยู่ไกลกันมาก และผมไม่สามารถใช้มือขวาเพียงมือเดียวปลดล็อคหน้าจอได้ อันนี้น่ารำคาญมากครับ
  • อีกประเด็นที่ Android 1.x ยังมีปัญหาคือตัว Dialer ที่ค้นหาชื่อเพื่อโทรออกได้ยากมาก (ต้องสั่ง Search ก่อน) คู่แข่งอย่าง HTC แก้ปัญหานี้ใน Sense แต่ Acer ไม่ได้ทำอะไรกับมัน (พรีโหลดโปรแกรม Dialer ตัวอื่นใน Market มาก็ยังดี)
  • แบตไม่ค่อยอึด ลดเร็วมาก ต้องแก้ด้วยการขยันปิด Wi-Fi/GPS ถ้าไม่ใช้อยู่เสมอ พอช่วยได้บ้าง

สรุป

Liquid ถือเป็นการทดลองตลาด Android ครั้งแรกของ Acer และยังไม่เข้าเป้านัก

ฮาร์ดแวร์และดีไซน์ของเครื่องดูกลางๆ ไปหมด กล้อง 5 ล้านก็จริงแต่คุณภาพไม่น่าประทับใจเท่าไร ส่วนซอฟต์แวร์ Android 1.6 ถือว่าล้าสมัยไปมาก จุดขายที่เพิ่มเข้ามายังไม่มีอะไรโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง (เช่น Sense) แถมยังมีบั๊กหลายจุด

ข้อเสียทั้งหมดที่ว่ามาจะอยู่ในขั้น "พอรับได้" ถ้า Acer ตั้งราคาแบบถล่มตลาด ดังเช่นที่ Samsung Spica หรือ Wellcom A88 เลือกใช้ แต่เมื่อ Acer เลือกตั้งราคาอย่างเป็นทางการ 16,900 บาท ผมว่าเพิ่มอีกนิดแล้วเอา HTC Legend ดีกว่าเยอะเลยครับ

หมายเหตุ: หลังจากนั่งดู Keynote เปิดตัว Android 2.2 ผมพบว่า Froyo นี่มันเย้ายวนมาก ถ้าอยากได้มือถือ Android ตอนนี้ ควรเลือกรุ่นที่ผู้ผลิตสัญญาว่าจะอัพเป็น 2.2 ให้จะดีที่สุดครับ

รีวิวอื่นๆ

Blognone Jobs Premium