มาแรงจริง ๆ ครับ สำหรับเทคโนโลยี Cloud Computing วงการเกมส์ก็ได้นำเอาเทคโนยีนี้มาใช้กับเค้าเหมือนกัน ผมเลยรวบรวมจับมาเขียนกันสด ๆ เลย โดยเริ่มต้นจาก 2 ผู้บุกเบิกในสงครามนี้ คือ Gaikai กับ Onlive ที่ได้พัฒนาระบบออกมาเสร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ผมขอสรุปให้ทุกท่านทราบก่อนครับว่า Cloud Gaming เป็นอย่างไร
Cloud Gaming คือการให้บริการเกมส์และเนื้อหาเกมส์ทุกรูปแบบโดยใช้เทคโนโลยี Cloud Computing โดยตัวระบบเน้นการประมวลผลในเรื่องกราฟิกแทนเครื่องผู้ใช้งานเป็นหลัก ส่วนข้อมูลเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย
บริการ Cloud Gaming ที่กำลังจะเปิดตัว ได้แก่
- บริการ Games On-demand ที่ให้เราเลือกเล่นเกมส์ใด ๆ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือหลาย ๆ คนพร้อมกัน
- บริการ Demo Games ก่อนซื้อ ที่จะทดลองเล่นคนเดียวหรือหลายคนก็ได้ด้วย
- บริการชมการเล่นเกมส์ของผู้เล่นคนอื่น ๆ กันแบบสด ๆ เราสามารถดูใคร ๆ เล่นเกมส์ได้
- เราสามารถบันทึกและเผยแพร่รูปแบบการเล่นเกมส์ของเราได้ด้วย
- บริการเนื้อหาเกมส์ใหม่ ๆ เช่น Trailers
จุดเด่นของ Cloud Gaming ได้แก่
- บริการทั้งหมดข้างต้น ใช้เวลาสตรีมมิ่งประมาณหนึ่งนาทีหรือน้อยกว่า ก็เริ่มเกมส์ได้แล้ว (เค้าโฆษณาว่าแบบนี้)
- ใช้เพียง Web Browser เป็นส่วนติดต่อกับผู้ใช้งาน แต่จะต้องติดตั้ง Plug-in ก่อน เท่าที่ทราบจะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง Flash, Java หรือ Silverlight
- ไม่ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งเกมส์ก่อนเล่นแต่อย่างใด นับว่าเป็นจุดเด่นของเทคโนโลยี Cloud Computing
- ไม่ต้องการ Hardware ระดับสูง โดยเฉพาะ Graphic Card แต่ต้องการ Broadband Internet
- สามารถเชื่อมต่อกับจอ TV ได้ แต่จะต้องใช้ Adapter พิเศษช่วยควบคุม
- คุณภาพของบริการเป็นแบบ Full resolution พร้อมระบบเสียง Stereo และ กระตุกน้อยมาก
- สนับสนุนทั้งบน Windows, Linux และ Mac
ข่าวดีสำหรับใครที่มี iPad ก็สามารถใช้บริการนี้ได้เช่นกัน โดยหนึ่งในผู้ก่อตั้งค่าย Gaikai ได้สาธิตการเล่น World of Warcraft บน iPad ผ่าน Streaming Worlds ของ Gaikai แต่ยังทำเฟรมเรตได้ไม่ดีเท่าไรนัก ค่าบริการคิดเป็นรายเดือนประมาณ $14.95 แรกเริ่มยังคงจำกัดการให้บริการในเฉพาะสหรัฐฯ ทั้งสองค่ายจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน E3 นี้ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรจะกลับมารายงานให้ทราบต่อครับ
ข้อมูล: Onlive, Gaikai