Engadget มีเรื่องราวเบื้องหลังว่าความตายของ Kin เกิดจากการเมืองภายในของไมโครซอฟท์เอง
Kin เริ่มต้นในชื่อ "Project Pink" ของ J Allard ผู้สร้าง Xbox และ Zune โดยนำเทคโนโลยีมาจากบริษัท Danger ผู้ผลิต Sidekick ที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมา แต่ตอนนั้น Windows Mobile 6.x ยังห่วยมาก Allard เลยเลี่ยงไปพัฒนา Pink แยกเป็นอิสระไม่เกี่ยวข้องกัน
ภายหลัง Allard กินเกาเหลากับ Andy Lees หัวหน้าทีม Windows Mobile และสุดท้าย Lees ดึง Pink มาอยู่ใต้การดูแลของเขา ช่วงนั้น Windows Phone 7 กำลังถูกพัฒนาขึ้นใหม่จากศูนย์ Lees เลยสั่งให้ Pink ปรับโค้ดมาใช้ฐานเดียวกับ Windows Phone 7 ทำให้โครงการช้าออกไปอีก แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จเพราะโค้ดต่างกันมาก
เนื่องจาก Allard เคยไปขายฝันให้เครือข่าย Verizon ไว้ ไมโครซอฟท์จึงมีสัญญากับ Verizon ว่าจะทำ Pink ให้ ฝั่ง Lees ซึ่งเป็นผู้คุมโครงการคนปัจจุบันจึงเร่งออก Pink/Kin ให้ได้ตามสัญญา ทั้งที่ผลิตภัณฑ์ยังไม่พร้อม อะไรๆ เลยแย่ไปหมด แถมยังโดน Verizon แกล้งโดยคิดค่ารายเดือนของ Kin แพงกว่าที่เคยตกลงกันไว้อีกด้วย
Lees ผลักดัน Kin ให้สำเร็จได้ตามสัญญากับ Verizon พอหมดภาระแล้ว เขาจึงรีบปิดงานโดยประกาศเลิกพัฒนา Kin เพื่อไปมุ่ง Windows Phone 7 เพียงอย่างเดียว ส่วน Allard ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าลาออกจากไมโครซอฟท์ไปเรียบร้อย
Engadget อ้างว่า Kin ขายได้ประมาณ 10,000 เครื่อง (ไม่ใช่ 500 เครื่องตามข่าวที่ออกมาก่อนนี้) และอนาคตของ Kin ตอนนี้อยู่ในมือของ Verizon ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ขาย ไมโครซอฟท์ไม่เกี่ยวแล้ว
ส่วนทีมงานผู้พัฒนา Kin แม้ไมโครซอฟท์จะบอกว่าถูกยุบรวมกับทีม Windows Phone 7 แต่ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก เพราะแนวทางของทั้งสองทีมต่างกันมาก และเป็นไปได้สูงที่ทีม Kin อาจต้องเก็บของออกจากไมโครซอฟท์ในระยะยาว
ที่มา - Engadget