กลับมาต่อกันที่รีวิว Samsung Galaxy S ตอนสุดท้ายนะครับ ถ้ายังไม่ได้อ่านสองตอนแรกก็ย้อนกลับไปได้ที่
สำหรับตอนนี้จะพูดถึงกล้อง ซึ่งถือเป็นอีกจุดขายหนึ่งของ Galaxy S
Galaxy S มีกล้อง 2 ตัว คือ
กล้องหน้าจะอยู่บริเวณมุมขวาบนของเครื่องครับ
ผมคิดว่าการใช้งานกล้องในโทรศัพท์มือถือ ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นคือตัวฮาร์ดแวร์ของกล้อง และซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมกล้อง
สำหรับซอฟต์แวร์ควบคุมกล้อง คนที่เคยใช้ Android มาบ้างคงรู้ดีว่ามัน ... มาก แต่พอมาเป็น Galaxy S ซัมซุงนำไปปรับปรุงใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เนื่องจาก Galaxy S ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ ดังนั้นการถ่ายภาพจะต้องเข้าผ่านโปรแกรม Camera เท่านั้น (ควรวางไว้บน homescreen เพื่อความสะดวก)
หน้าตาของโปรแกรม Camera จะเห็นว่าต่างจาก Android รุ่นปกติมาก โปรแกรมถ่ายภาพต้องใช้ในโหมดแนวนอนเท่านั้น ปุ่มควบคุมจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งซ้าย จากบนลงล่าง
ฝั่งขวา จากบนลงล่าง
การถ่ายภาพสามารถแตะสัมผัสบนหน้าจอ เพื่อเลือกจุดที่ต้องการโฟกัสได้ด้วย
ผลงานต้องบอกว่าเยี่ยมครับ ผมยังไม่เคยใช้กล้องบนมือถือดีขนาดนี้มาก่อน แถมการที่ Galaxy S มีจอภาพ Super AMOLED ขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้การพรีวิวภาพทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่ายทำได้ดีมาก (บางทีจนคิดว่าภาพบนจอสวยกว่าภาพจริงที่ได้ด้วยซ้ำ)
จุดอ่อนอาจมีเรื่องสภาพแสงค่อนข้างฟุ้งในบางคราว (อย่างเช่นภาพแรกสุดและภาพท้ายสุด) แต่นี่ถือว่าทำได้ดีมากแล้วสำหรับกล้องมือถือ จากการใช้ Galaxy S ประมาณสองสัปดาห์ ผมว่าไม่จำเป็นต้องพกกล้องดิจิทัลอีกต่อไป ยกเว้นกรณีที่ต้องการถ่ายภาพแบบเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ เท่านั้น
ข้อจำกัดของกล้อง Galaxy S คงเป็นเรื่องที่มันไม่มีแฟลชมาให้ ซึ่งตรงนี้เราคงเดากันได้ไม่ยากว่า Galaxy รุ่นถัดไปน่าจะเพิ่มมาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อีกประการคือการขาดปุ่มชัตเตอร์แยก อาจทำให้การถ่ายภาพไม่สะดวกนักเมื่อเทียบกับมือถือที่มีปุ่มชัตเตอร์โดยตรง
มาดูโหมดถ่ายกันทีละโหมดครับ โหมด Single shot และ Continuous คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก แต่โหมดที่น่าสนใจคือ Panorama ซึ่งจะมีกรอบสีเขียวๆ ทำเป็นไกด์ไว้ให้เราเห็นว่าตอนขยับกล้อง ต้องเล็งไปทางไหนบ้าง เมื่อเราขยับกล้องให้ตรงกับกรอบบนหน้าจอ มันจะจับภาพให้เลยโดยไม่ต้องกดปุ่มชัตเตอร์อีก
นี่ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ของผมในการถ่ายโหมด Panorama อันนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าฟีเจอร์แบบเดียวกันของกล้องดิจิทัลเสียอีก (ไม่แน่ใจว่ากล้องของซัมซุงมีฟีเจอร์นี้หรือเปล่านะครับ) ส่วนผลงานก็ดูกันเอาเองตามภาพ
ประโยชน์ที่ชัดเจนของกล้องหน้าคือเอามาใช้ถ่ายหน้าตัวเอง เหมาะกับสาวๆ เป็นอย่างยิ่ง
ผมค้นพบว่า Galaxy S มีความสามารถด้าน video call ได้ด้วย (จะมีปุ่มให้เลือกตอนสนทนา) แต่จำเป็นต้องใช้เครือข่าย 3G ทั้งสองฝั่งครับ เลยไม่ได้ลองความสามารถนี้
อันนี้เป็นโหมดถ่ายสนุกๆ ครับ เพราะมันจะใส่เอฟเฟคต์การตัดเส้นแบบการ์ตูนมาให้ รูปข้างบนคือพี่ฮง จากเว็บ PDAmobiz
ลองดูภาพเปรียบเทียบระหว่างโหมดปกติกับโหมด Cartoon ครับ
อันนี้เป็นฟีเจอร์สุดยอดของ Galaxy S เลยครับ ผมเรียกมันว่า "โหมดหน้าเนียน" (หรือใครจะเรียก "โหมดหน้าเด้ง" ก็ได้นะ การทำงานก็ตามชื่อคือถ่ายหน้าคนแล้วมันจะแต่งภาพให้เราทันที โดยขัดหน้าให้เนียนขึ้น ริ้วรอยหายไป
แต่ต้องขอโทษจริงๆ เพราะผมทำไฟล์ที่ถ่ายจากโหมดหน้าเนียนหายไปซะอย่างนั้น (อุตส่าห์ถ่ายเตรียมมาโชว์) ตอนนี้คืนเครื่องเขาไปแล้วคงไปเอามาถ่ายซ่อมลำบาก เอาเป็นว่าใครมี Galaxy S รบกวนขอไฟล์หน่อยนะครับ เดี่ยวผมเอามาแปะ+ให้เครดิตครับ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าฟีเจอร์นี้เทพจริงๆ ถือเป็นหนึ่งใน killer feature ของ Galaxy S เลย ใครมีแฟนมีน้องอย่าให้รู้เด็ดขาด ไม่งั้นโดนยึดไปใช้แน่ๆ
ส่วนโหมดอื่นๆ ได้แก่ โหมดถ่ายภาพคู่ คือ ถ่ายทีละคนแล้วเอามาต่อกันให้เป็นภาพคู่กันโดยอัตโนมัติ, โหมด vintage ใส่เอฟเฟคต์ให้ขอบภาพดูมืดๆ ตรงกลางภาพจะได้เด่นขึ้น และโหมด Action สำหรับภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ
ส่วนของ Scene มาพร้อมกับโหมดถ่ายมากมาย ใกล้เคียงกับกล้องดิจิทัลในปัจจุบัน (ซึ่งตรงนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะซัมซุงก็ทำกล้องดิจิทัลขายเหมือนกัน) เช่น โหมดถ่ายพลุ โหมดถ่ายข้อความ ฯลฯ ผมคงไม่ลงรายละเอียดเพราะเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของกล้องดิจิทัลอยู่แล้ว แต่ต้องถือว่าฟีเจอร์นี้ของ Galaxy S ล้ำกว่ากล้องมือถือตัวอื่นๆ ในท้องตลาด
จุดขายอีกอันหนึ่งของ Galaxy S คือการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p ครับ นอกจากความละเอียดระดับนี้ยังมีความละเอียดอื่นๆ ให้เลือกเช่นกัน
ผลงานการถ่าย 720p ต้องดูกันเองดีกว่า ขอบคุณนายแบบคุณ @hohoteam
ส่วนวิดีโอแบบไม่ใช่ 720p ลองดูตัวอย่างที่ผมไปถ่ายในงานรับฟังความเห็นของ กทช. เทียบกัน
การถ่ายวิดีโอแบบ 720p แน่นอนว่าทำให้ขนาดไฟล์ใหญ่มาก โปรแกรมถ่ายวิดีโอของ Galaxy S แสดงขนาดไฟล์ให้ดูขณะถ่ายด้วย ซึ่งตรงนี้ทำได้ดี ขนาดไฟล์วิ่งขึ้นเร็วอาจดูน่าตกใจในช่วงแรก แต่หน่วยความจำภายในที่ให้มาถึง 16GB นี่เอาอยู่ครับ (ถ้าไม่พอยังเสียบ Micro SD เพิ่มเองได้อีก)
Galaxy S ถือเป็นมือถือที่โดดเด่นมากในช่วงนี้ ต้องถือว่าซัมซุงทำการบ้านมาดีมาก และสามารถออก Android flagship ที่เย้ายวนตัวนี้ได้
จุดแข็งแบบสุดๆ
จุดแข็งธรรมดา
จุดอ่อน
สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะซื้อมือถือ Android อยู่แล้ว ถ้างบถึงก็ซื้อได้แบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ คุ้มแน่นอน (ถ้าซื้อกับ AIS ตอนนี้มีโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 6 เดือน กับแถม GPRS 500MB นาน 12 เดือน ถือว่าประหยัดค่าเน็ตไปได้จำนวนหนึ่ง) ยกเว้นคนที่ชอบคีย์บอร์ด QWERTY อาจรอ Galaxy S Pro ซึ่งคาดว่าน่าจะตามมาในอีกไม่ช้า
สุดท้ายทางซัมซุงฝากประชาสัมพันธ์มาว่าในโปรแกรม Layar ที่แถมมากับเครื่อง ได้เพิ่ม point of interest (POI) ของประเทศไทยมาให้ แถมบางร้านมีโปรโมชันผ่าน Layar เสียด้วย เสียดายว่าในเครื่องทดสอบผมไม่ได้ลองตรงนี้ ต้องฝากคนที่ซื้อเครื่องแล้วช่วยคอมเมนต์ด้วยครับ
Advertorial Content