รีวิวระบบ AppUp อย่างสั้น: ทำไมต้อง AppUp?

by lew
25 August 2010 - 16:25

บทความนี้เป็นบทความแปลโดยตรงจากโครงการ Intel Atom Developer โดยได้รับการสนับสนุนจากอินเทลครับ

ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อินเทลเปิดตัวหน้าร้าน AppUp Center รุ่นเบต้า ในช่วงเบต้า AppUp เป็นที่รู้จักว่ามันเป็นหน้าร้านขายซอฟต์แวร์ที่รองรับซอฟต์แวร์ภาษา C/C++ เป็นหลัก อย่างไรก็ตามความเข้าใจนี้ไม่ได้ให้คุณค่าของ AppUp อย่างถูกต้องนัก บทความนี้จะเป็นการแนะนำเบื้องหน้าและเบื้องหลักว่าคุณสามารถคาดหวังอะไรจาก AppUp ได้บ้าง

ทำไมเราต้องสนใจ AppUp

หน้าร้านขายแอพลิเคชั่นจำนวนมากที่เกิดขึ้นเร็วๆ เป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญมาก สมารท์โฟนนั้นเป็นอุปกรณ์รูปแบบใหม่ที่ต้องการบริการหน้าร้านเพื่อกระจายแอ พลิเคชั่นให้นักพัฒนาที่ต้องการขายและผู้ซื้อที่ต้องการซื้อแอพลิเคชั่น เหล่านั้น ช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอยู่ในทุกวันนี้ไม่เหมาะกับแอพลิเคชั่นเหล่านี้ โทรศัพท์ต้องการช่องซื้อขายเพียงทางเดียวเพื่อความสะดวกในการค้นหาและซื้อขายแอพลิเคชั่น ด้วยโมเดลของหน้าร้านขายแอพลิเคชั่นนี้ คุณจะสามารถหาแอพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา คุณไม่ต้องตามหาแอพลิเคชั่นจากเว็บไซต์จำนวนมาก, ติดตั้งซอฟต์แวร์ด้วยตัวติดตั้งสารพัดแบบ, อ่านรีวิวที่ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน, และมีช่องทางจ่ายเงินที่ต่างกันออกไป หน้าร้านขายแอพลิเคชั่นเหล่านี้จะมีมาตรฐานสำหรับกิจกรรมที่จำเป็น เช่น การกระจายแอพลิเคชั่น, ค้นหา, ให้คะแนน, จ่ายเงิน, และติดตั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเข้าซื้อได้ง่าย และนักพัฒนาสามารถขายแอพลิเคชั่นได้ง่าย

สิ่งที่ขาดไปของร้านขายแอพลิเคชั่น

อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ จะมาในรูปร่างหน้าตาที่ต่างออกไปจากเดิม การแยกหน้าร้านตามจำนวนผู้ผลิต, ผู้ให้บริการเครือข่าย, หรือแยกตามจำนวนอุปกรณ์จะทำให้เกิดการกระจาย น่าสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราสามารถลงแอพลิเคชั่นลงในโทรทัศน์, เน็ตบุ๊ก, แท็บเล็ต, และอุปกรณ์ฉลาดอื่นๆ นอกเหลือจากสมาร์ทโฟน เราต้องทำอย่างไรจึงจะหาแอพลิเคชั่นมาลงในอุปกรณ์ได้เหมือนอย่างที่เราทำได้ ในโทรศัพท์ และถ้าเราเคยซื้อแอพลิเคชั่นบางตัวบนพีซีหรือโทรทัศน์แบบสมาร์ท แล้วตอนนี้เราอยู่นอกบ้าน กำลังทำงานผ่านเน็ตบุ๊ก แล้วเราต้องการใช้งานแอพลิเคชั่นเหล่านั้น จะเป็นอย่างไร? และถ้าคุณเป็นนักพัฒนาที่สร้างชิ้นส่วนของแอพลิเคชั่นที่ช่วยให้นักพัฒนา อื่นๆ สามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้น จะเป็นอย่างไรถ้าคุณสามารถส่งชิ้นส่วนเหล่านั้นไปยังหน้าร้านเพื่อขายให้นัก พัฒนาอื่นๆ

ตอนนี้สิ่งที่ขาดไปคือรูปแบบที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถ นำแอพลิเคชั่นหรือคอมโปเนนท์เข้าไปยังหน้าร้านที่รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย รูปแบบ, เข้ากันได้กับผู้ให้บริการทุกราย, และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถใช้งานแอพลิเคชั่นที่เคยซื้อไปแล้วบนอุปกรณ์ อื่นๆ

รูปแบบของ AppUp

AppUp เข้ามาตอบปัญหาเหล่านี้ AppUp เป็นหน้าร้านที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถส่งแอพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ หลากหลายรูปแบบและหลายระบบปฎิบัติการ ผู้ซื้อจะสามารถติดตั้งโปรแกรมไคลเอนต์ AppUp บนหลายๆ รายการของแอพลิเคชั่นที่เคยซื้อไปแล้วบนเครื่องอื่นๆ จะสามารถใช้งานได้เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนเครืองหรืออุปกรณ์

ด้วย AppUp คุณจะได้ประโยชน์ที่เคยได้จาก AppStore ของ Apple แต่จะสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการหลายเจ้าและอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่า

การเริ่มต้นของ AppUp

AppUp ต้องการจุดเริ่มต้นในบางที่ก่อนจะไปถึงจุดหมาย เนื่องจากเน็ตบุ๊กของอินเทลนั้นอยู่ในตลาดขนาดใหญ่ ขณะที่มันขาดแอพลิเคชั่นที่เหมาะสม ในปี 2009 ปีเดียวเน็ตบุ๊กมียอดขาย 40 ล้านเครื่อง มากกว่า iPhone งานวิจัยคาดว่าจะมีเน็ตบุ๊กในตลาดถึง 140 ล้านเครื่องในปี 2014 แปดเดือนที่ผ่านมาของช่วงเบต้าของ AppUp โครงการนี้มีแอพลิเคชั่นในโครงการแล้วกว่า 700 แอพลิเคชั่น หน้าร้าน AppUp จะอนุญาตให้ผู้ซื้อสามารถติดตั้งแอพลิเคชั่นได้บนเน็ตบุ๊ก 5 เครื่องต่อ 1 ชื่อผู้ใช้ ดั่งนั้นเน็ตบุ๊กทั้งหมดที่ล็อกอินด้วยชื่อเดียวกันจะสามารถเข้าถึงแอ พลิเคชั่นทั้งหมด

สำหรับการพัฒนา อินเทลเริ่มต้นด้วยการรองรับภาษา C/C++ และวินโดวส์ในช่วงเริ่มต้น และจะมีการกระจายที่กว้างขึ้นหลังจากนี้ ตัว SDK ในรุ่นเบต้านั้นยังเล็กและเน้นในส่วนของการติดตั้งและตรวจสอบสิทธิ์ในการ ใช้งานซอฟต์แวร์ เพื่อจะแน่ใจได้ว่าแอพลิเคชั่นที่มีการรันขึ้นมานั้นถูกซื้อมาอย่างถูกต้อง และใช้งานบนเครื่องที่ได้รับอนุญาตหรือไม่

นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว อินเทลยังตระหนักถึงบริการและชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้นักพัฒนา สร้างและขายแอพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น ในรุ่นเบต้านี้จึงมีการรองรับทั้งบริการและชิ้นส่วนซอฟต์แวร์ในหน้าร้านนี้ ด้วย การเปิดกว้างให้กับบริการและชิ้นส่วนซอฟต์แวร์เช่นนี้เริ่มส่งผลที่ชัดเจน ให้กับอินเทลและนักพัฒนาบ้างแล้ว ที่วันที่เราได้เห็นโซลูชันที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาได้อย่างหลากหลาย กว่าที่ตัว SDK เองเปิดไว้

การเพิ่มช่องทางให้นักพัฒนา

นอกจาก C/C++ แล้วอินเทลเพิ่งเปิดตัว runtime ของ Adobe AIR และเร็ว ๆ นี้เราจะมี SDK สำหรับ .NET, Silverlight, และ Java สำหรับการพัฒนาบน AppUp ในอนาคต

อย่างไรก็ตามภาษาเขียนโปรแกรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไขสำหรับการพัฒนา แอพลิเคชั่นบน AppUp นักพัฒนาสามารถใช้ Wrapper เพื่อนำ SDK ไปใช้งานในภาษาใดๆ ก็ได้ที่วินโดวส์รองรับ แม้แอพลิเคชั่นของคุณจะไม่ได้พัฒนาในภาษาที่ SDK สนับสนุนโดยตรงคุณก็ยังสามารถพัฒนาผ่านทาง Wrapper ที่มีได้ โดยตัวแอพลิเคชั่นของคุณจะทำงานบนแพลตฟอร์มเดิมต่อไป การที่ AppUp เปิดให้นักพัฒนามีทางเลือกอย่างอิสระนี้เป็นหัวใจสำคัญของมัน คุณสามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นด้วยเครื่องมือที่คุณชอบ หรือที่เหมาะกับแอพลิเคชั่นที่คุณกำลังพัฒนา

ทางเลือกที่มากกว่าของ ระบบปฎิบัติการ, อุปกรณ์, และหน้าร้าน

ในตอนนี้ AppUp ใช้งานได้บน Windows และ Moblin เพราะเป็นการตั้งเป้าหมายไว้ที่เน็ตบุ๊กเป็นหลัก เมื่ออินเทลรองรับ AppUp บนอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ระบบปฎิบัติการที่รองรับก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย MeeGo เป็นระบบปฎิบัติการเต็มรูปแบบที่รองรับทั้งเน็ตบุ๊ก, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โทรทัศน์, และอุปกรณ์อื่นๆ MeeGo คือส่วนที่ดีที่สุดของ Moblin และ Maemo จากโนเกียและอินเทล MeeGo รุ่นเน็ตบุ๊กได้เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราคาดว่ารุ่นสำหรับโทรศัพท์และแท็บเล็ตจะออกมาในเดือนตุลาคมนี้ การพัฒนากำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเราคาดว่า AppUp จะตามตามไปทุกที่ที่อุปกรณ์เหล่านี้เกิดขึ้น

ในช่วงเริ่มแรกนี้หน้า ร้านของ AppUp Center รุ่นเบต้าจะเป็นชื่อของอินเทล อย่างไรก็ตามรูปแบบการติดตั้งจริงจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ให้บริการและ ผู้ผลิตที่นำ AppUp Center ไปติดตั้ง โดยอาจจะมีการลบแบรนด์ออกหรือเปลี่ยนแบรนด์เป็นของบริษัทที่นำไปติดตั้งเอง แม้อินเทลต้องการเปิดเผยแผนการเหล่านี้แต่่เนื่องจากเราต้องเคารพความ สัมพันธ์ของเรากับคู่ค้า ในตอนนี้แผนการเหล่านี้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ดังนั้นขอให้คุณติดตามข้อมูลว่าคุณจะพบกับ AppUp Center ได้ที่ใดอีกบ้าง

เรื่องของรายได้

เรื่องที่พูดมาทั้งหมดจะไม่มีความหมาย หากนักพัฒนาไม่สามารถสร้างไร้ได้จากแอพลิเคชั่นได้จริง เนื่องจากเรายังอยู่ในสถานะเบต้า คงยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า AppUp ช่วยนักพัฒนาสร้างรายได้ได้ดีแค่ไหน แต่อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ เรากำลังอยู่ระหว่างการขยายช่องทางและอุปกรณ์ที่จะใช้งาน AppUp เราเชื่อว่า AppUp จะขยายศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับแอพลิเคชั่นต่างๆ ได้ เรายังเชื่อว่าจะมีโอกาสสำหรับนักพัฒนาที่พัฒนาส่วนช่วยเหลือนักพัฒนาอื่นๆ ให้สามารถสร้างและขายแอพลิเคชั่นได้ เราได้พบนักพัฒนาบางคนสามารถขยายโอกาสไปเกินกว่าธุรกิจปรกติของพวกเขาด้วย การขายส่วนของซอฟต์แวร์ให้กับนักพัฒนารายอื่นๆ ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักพัฒนาอาจจะเป็นการพิจาณา AppUp ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นนี้ขณะที่ AppUp กำลังพัฒนาออกไปจากสถานะเบต้า นักพัฒนาที่ส่งแอพลิเคชั่น, บริการหลัก, และชิ้นส่วนที่สำคัญ ตั้งแต่แรกๆ จะมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จสูงในอนาคตข้างหน้า

ความคิดเห็นจากนักพัฒนา

ผมตระหนักว่าได้พูดถึงด้านดี AppUp มามากแล้ว อย่างไรก็ตามผมเป็นพนักงานของอินเทลและทำงานบนโครงการนี้โดยตรง ในฐานะผู้จัดการชุมชนผมควรรับฟังคนอื่นๆ ว่าพวกเขาคิดอย่างไรบ้างกับ AppUp และนี่เป็นความเห็นบางส่วนจากนักพัฒนาที่พัฒนาบน AppUp คำถามสำหรับนักพัฒนาเหล่านี้มีเพียง "ทำไมต้อง AppUp?" คุณเองก็สามารถแสดงความเห็นได้ว่า "ทำไมต้อง AppUp?" โดยแสดงความเห็นเอาไว้หรือลิงก์ไปยังหน้า YouTube ของคุณ

หมายเหตุ : แม้ว่านักพัฒนาเหล่านี้ไม่ได้รับเงินเพื่อให้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ AppUp แต่ Kasprzak และ Lee Bamber เป็นนักพัฒนาที่ได้รับรางวัลจาก Atom Developer Challenge ส่วน Chris Skaggs เป็นพนักงานของ Code Monkey ที่อินเทลว่าจ้างให้พอร์ตแอพลิเคชั่นมายัง AppUp

ข่าวและบทความหมวด - Intel AppUp Center ได้รับการสนับสนุนจากอินเทล เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ Intel Atom Developer Program ให้กับนักพัฒนาในประเทศไทย

Blognone Jobs Premium