รีวิว Samsung Galaxy Tab ภาค 2 - การใช้งานทั่วไป

by winggundamth
2 November 2010 - 16:17

มาถึงภาคที่สองของการรีวิวกันแบบรูปท่วมทุ่งกันต่อเลยนะครับ การรีวิวนี้เป็นเนื้อหาที่ต่อจาก รีวิว Samsung Galaxy Tab ภาค 1 - ฮาร์ดแวร์ ซึ่งในภาค 2 นี้จะเน้นไปที่การใช้งานทั่วไปโดยที่ยังไม่ได้ลงโปรแกรมเพิ่มเติมครับ

เริ่มแรก หลังจากที่ผมใช้มาหนึ่งวันเต็มๆ มีความรู้สึกดังนี้ครับ

  • ตัวเครื่องขนาดพอดีกับฝ่ามือโอบ ไม่รู้สึกว่าจะหลุดจากมือง่ายๆ แต่คิดว่าอาจจะมีปัญหากับคนมือเล็กได้ครับ
  • ความหนาของตัวเครื่องคิดว่ากำลังดี แต่ถ้าบางกว่านี้อีกสักหน่อยก็น่าจะดีกว่านี้ครับ
  • เรื่องของน้ำหนัก จับครั้งแรกรู้สึกว่าหนัก แต่พอใช้งานไปเรื่อยๆ กลับใช้ได้สบายทุกท่าไม่ว่าจะเป็นยืน นั่ง เดิน นอนตะแคง นอนคว่ำ นอนหงาย สามารถเล่นหลายท่าได้หลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกว่าเมื่อยล้าแต่อย่างใด :P
  • วัสดุตัวเครื่องรู้สึกแน่นหนาดีมาก ไม่รู้สึกว่าก๊อกแก๊กเป็นพลาสติกบางๆ เหมือน Galaxy S
  • แนะนำให้ติดฟิล์มกันรอยทั้งเครื่อง และแนะนำให้ซัมซุงรีบทำอุปกรณ์เสริมเป็นกล่องหรือซองเก็บโดยไว เพราะจะใส่กระเป๋ากางเกงก็ไม่ได้ ใส่กระเป๋าเป้ก็กลัวกระแทกกับของในกระเป๋าจนเป็นรอย ถ้าทำซองหนังแบบ Kindle จะดีมาก
  • แบ็ตเมื่อชาร์จเต็ม ใช้ได้ต่อเนื่องที่ประมาณ 6-7 ชั่วโมง คิดว่าสามารถเอาไปใช้งานแบบไม่ต่อเนื่องตั้งแต่เช้าถึงหัวค่ำได้สบายๆ
  • ใช้เวลาชาร์จแบ็ตกับไฟบ้านประมาณ 2 ชั่วโมง
  • เครื่องไม่ร้อนเลยไม่ว่าจะเป็นตอนใช้งานหรือชาร์จแบ็ตอยู่ (หรือเพราะว่าช่วงนี้หน้าหนาว?)
  • จอสัมผัสติดมืออยู่ แต่ก็ยังสู้ iPad ไม่ได้ครับ
  • จอใหญ่สะใจมาก จนคิดเลยว่าจอขนาด 7 นิ้วนี่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Tablet พกพาแล้ว พอสลับไปเล่น Nexus One กลายเป็นรู้สึกหงุดหงิดกับหน้าจอที่เล็กไปเลยทีเดียว
  • เล่นไปทั้งวัน ไขมันจากมือเต็มหน้าจอ
  • เสียงจากลำโพงของเครื่องให้เสียงที่ดัง และดีมากในความคิดของผม แต่ยังไม่มีเวลาทดลองหูฟังที่ให้มาด้วย เนื่องจากตัวผมไม่ถูกกับหูฟังแบบ in-ear อย่างแรง
  • ความเร็วในการใช้งานถือได้ว่าเร็ว (แต่ก็ไม่เร็วเท่า iPad อยู่ดี) ไม่มีอาการหน่วงเหมือน Galaxy S
  • ส่วนติดต่อผู้ใช้เป็นภาษาไทยมาตั้งแต่เริ่ม แต่ก็โดนผมเปลี่ยนกลับเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มโดยทันทีเหมือนกัน ซึ่งจะมีข้อเสียอยู่ที่ซอฟต์แวร์บางตัวที่อ่านค่าภาษาที่เราตั้ง เช่น Widget News and Weather ที่ข่าวจะกลายเป็นข่าวต่างประเทศ และชื่อสถานที่จะเขียนทับศัพท์ด้วยภาษาอังกฤษแทนที่จะเขียนด้วยภาษาไทย
  • มีความรู้สึกว่า Accelerometer อาจจะตั้งค่ามาไม่ดีเทียบกับ Nexus One เพราะเอียงเครื่องนิดเดียวก็หมุนหน้าจอให้แล้ว ทำให้รู้สึกรำคาญพอสมควร มีวิธีแก้ด้วยการล็อคการหมุนหน้าจอไว้ และเปิดเมื่อจะใช้เท่านั้น
  • เซ็นเซอร์รับแสงภายนอกอยู่ใกล้กล้องหน้า ทำให้เวลาจับเครื่องเล่นแบบแนวนอน มือจะชอบไปบังเซ็นเซอร์รับแสง ทำให้หน้าจอมืดลงเองโดยอัตโนมัติ รู้สึกรำคาญมาก จนต้องไปแก้โดยปรับความสว่างด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งเซ็นเซอร์รับแสง
  • ขออภัยที่ถ่ายรูปแนบหน้าตอนโทรไม่ได้จริงๆ เพราะไม่รู้จะให้ใครถ่าย และไม่เวิร์กที่จะแนบหูโทรอย่างแรง
  • การใช้งานในชีวิตประจำวันเท่าที่คิดออกตอนนี้คือ หน้าจอมันใหญ่กำลังดี เลยสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้สะดวก ตั้งแต่แชท ตอบเมล ทำงานบนเว็บ รวมถึงอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ (ที่สนับสนุนหน้าจอใหญ่) ได้สะใจมากๆ เก็บมือถืออีกเครื่องเอาไว้โทรเข้าโทรออก หรือเอาไว้หยิบขึ้นมาใช้เวลาเร่งด่วนที่ถือ Tablet เครื่องใหญ่ไม่สะดวกเพียงเท่านั้นเอง

หมดหัวข้อความรู้สึกเมื่อได้เล่นไป 1 วันเต็มๆ แล้วครับ ต่อไปจะเป็นรายการรูปท่วมทุ่งรีวิวการใช้งานโดยรวมของ Galaxy Tab โดยต้องขออภัยสำหรับบางรูปที่ไม่ได้ตัดส่วนพื้นสีขาวจนอาจจะเปลืองเนื้อที่ไปสักหน่อยนะครับ

รูปหน้าจอ Home Screen แรกสุดเมื่อเปิดเครื่อง โดย Home Screen จะมีขนาด 5x5 ช่องจำนวน 5 หน้า (Nexus One มีขนาด 4x4 ช่อง) สังเกตว่ามี Widget Active applications ที่มีหน้าที่เหมือนเป็น Task Manager และโปรแกรม Readers Hub ที่เอาไว้ซื้อ ดาวน์โหลด และอ่านอีบุ๊ค (หลังจากนี้ผมจะเปลี่ยนส่วนติดต่อผู้ใช้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะครับ)

หน้าจอตั้งค่าภาษาและคีย์บอร์ด

หน้าจอรุ่นและเวอร์ชันของโทรศัพท์

หน้าจอการตั้งค่าโทรศัพท์ มีไอคอนสวยงาม

หน้าจอปลดล็อค หน้าตาตามมาตรฐานแอนดรอยด์ 2.2

หน้าจอเลือกพื้นหลัง รู้สึกจะเหมือน Galaxy S

หน้าจอเลือก Live Wallpaper มีให้เลือกตามมาตรฐานแอนดรอยด์ทั่วไป


หน้าจอรายชื่อซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ติดมากับเครื่อง

เมื่อเปิดเข้าสู่ Market ก็จะพบว่ามีอัพเดต Gmail, Google Maps และ Flash Player 10.1 ทันที (จริงๆ มี Youtube อีกซึ่งต้องค้นหาแล้วกดติดตั้งเอง)

หน้าจอแจ้งเตือนหรือ Notification Bar ซึ่งสังเกตว่าจะมี Power Control ให้เราสามารถปิดเปิด Wi-Fi, Bluetooth, GPS, เสียง และการหมุนหน้าจอ รวมถึงแสงสว่างของหน้าจอได้จากหน้านี้โดยตรง

โปรแกรม Samsung Apps หรือ Market ของซัมซุง ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดเพียง 2 โปรแกรมเท่านั้นคือ blinkx Beat และโปรแกรมรีโมททีวีซัมซุง (ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันหายไปไหน)



หน้าจอเกี่ยวกับการโทรและรายชื่อ

หน้าจอตั้งค่าเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่าย สังเกตว่ามี Mobile AP เหมือน Galaxy S

หน้าจอแสดงหน่วยความจำทั้งหมด

หน้าจอการ Add Account มี Facebook, Twitter และ MySpace มาให้ในตัว



มาดูคีย์บอร์ดที่ให้มากับเครื่องแบบต่างๆ ไล่จากบนลงล่างได้แก่ Swype, Samsung keypad และ DioPen Chinese IME


Widget ที่ให้มากับเครื่อง

หน้าตาเบราว์เซอร์ สังเกตว่าหน้าตาจะแตกต่างให้อารมณ์ไปทางเดสก์ท็อปมากกว่าเบราว์เซอร์บนมือถือ มีปุ่ม Back, Forward, Refresh, Call, Tab และ Bookmark อยู่ด้านบนทั้งหมด เนื่องจากได้เปรียบที่มีหน้าจอใหญ่นั่นเอง

หน้าจอเลือกและเปิดปิดแท็บ ซึ่งบอกตามตรงว่าผมไม่ชอบเพราะว่าการจัดการแท็บจะต้องเข้ามายังหน้าจอนี้เพียงหน้าจอเดียว โดยที่เปิดปิดหรือดูแท็บจากเบราว์เซอร์ไม่ได้โดยตรง


หน้าจอเมื่อเปิดเว็บ Blognone ทั้งแบบเห็นทั้งหมดและซูมเข้ามา

สรุปเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ของ Galaxy Tab

  • ช้าและหน่วงเมื่อเปิดเว็บหน้าที่มีข้อมูลเยอะๆ
  • เมื่อซูมเข้ามาไม่ยอมตัดคำไทยให้มันติดขอบที่ซูมโดยอัตโนมัติ ทำให้เวลาอ่านเว็บต้องมานั่งเลื่อนซ้ายเลื่อนขวาเอาเอง
  • รำคาญเรื่องแท็บที่ต้องเข้าไปจัดการในหน้าจัดการแท็บเท่านั้น ทำให้รู้สึกบริหารการเปิดเว็บได้ไม่ดี
  • สรุปไปใช้ Dolphin Browser HD ดีกว่า




มีซอฟต์แวร์ Task Manager และจัดการแรมมาให้ในตัว

ขอปิดภาค 2 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่รูปจะท่วมเว็บมากกว่านี้ก่อนแล้วกันครับ รอพบกันภาค 3 ที่จะมารีวิวดูซอฟต์แวร์แต่ละตัวของ Galaxy Tab กัน

Blognone Jobs Premium