วิวาทะ WebM vs H.264 รวมความเห็นจากฝ่ายหนุนและฝ่ายต้าน

by mk
14 January 2011 - 03:16

ข่าว Chrome ยกเลิกการรองรับ H.264 แล้ว ยังสะเทือนวงการเว็บต่อเนื่องอีกหลายวัน เราเห็นปฏิกริยาตอบโต้จากไมโครซอฟท์กันแล้ว คราวนี้มาดูปฏิกริยาจากค่ายอื่นๆ กันบ้าง

ค่าย Mozilla ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะไม่เอา H.264 ตั้งแต่แรก บุคคลากรของ Mozilla ออกมาสนับสนุนการตัดสินใจของกูเกิลกันสั้นๆ โดยให้ข้อมูลว่าพันธมิตร WebM ทั้งสามเบราว์เซอร์มีส่วนแบ่งตลาดโลกรวมกัน 40% จะช่วยดันให้ WebM เกิดได้ไม่ยาก - Aza Dotzler

ที่เหลือเป็นสงครามตัวหนังสือระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน ถ้าไม่นับกรณีของไมโครซอฟท์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ศึกครับ

ศึกแรก เริ่มโดย John Gruber บล็อกเกอร์ชื่อดังที่เปรียบเสมือน "โฆษกอย่างไม่เป็นทางการ" ของแอปเปิล Gruber เริ่มโดยตั้งคำถาม 5 ข้อถึงกูเกิล ดังนี้

  1. ถ้ากูเกิลเอา H.264 ออกโดยให้เหตุผลว่าไม่เป็นมาตรฐานเปิด ทำไมถึงรวม Flash เข้ามาใน Chrome
  2. ตอนนี้ Android รองรับ H.264 ในอนาคตจะเอาออกด้วยหรือไม่
  3. YouTube จะเอาวิดีโอเวอร์ชัน H.264 ออกด้วยหรือไม่
  4. คิดว่าเว็บใหญ่ๆ ที่เล่นวิดีโอด้วย H.264 จะเปลี่ยนมาใช้ WebM แทนหรือไม่ ถ้าไม่ ผู้ใช้ Chrome จะทำอย่างไร
  5. ใครได้ประโยชน์จากการตัดสินใจครั้งนี้บ้าง?

มีคนพยายามตอบคำถามนี้หลายคน เช่น เว็บไซต์ FlashComGuru (ซึ่ง Gruber เขียนบล็อกตอบอีกครั้ง) แต่ที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือเว็บไซต์ OSNews ตั้งคำถามกลับต่อ Gruber อีก 10 ข้อ คัดมาบางข้อนะครับ

  • Gruber พยายามแสดงตัวว่าสนับสนุนมาตรฐานเปิด แต่ในมาตรฐานของ W3C ระบุไม่ให้เก็บค่าใช้งาน (ซึ่ง H.264 เก็บ) ทำไม Gruber ถึงสนับสนุน H.264
  • Gruber จะยอมให้องค์กรอย่าง MPEG-LA ที่หากินจากการฟ้องสิทธิบัตร มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเว็บงั้นหรือ
  • Gruber สนับสนุนให้แอปเปิลใช้อิทธิพลกด Flash ไม่ให้เกิดบน iOS แต่พอกูเกิลจะใช้อิทธิพลของตัวเองกด H.264 บ้าง Gruber ถึงไม่เห็นด้วย
  • เหตุผลที่ Gruber ไม่สนับสนุน WebM เป็นเพราะว่า WebM ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแอปเปิล แค่นั้นหรือเปล่า?

ศึกที่สอง เริ่มจากบทความ Google's dropping H.264 from Chrome a step backward for openness ของเว็บไซต์ Ars Technica

บทความนี้ยาวหน่อยแต่น่าอ่านครับ ประเด็นสำคัญมีดังนี้

  • กูเกิลอ้างว่า "WebM เป็นมาตรฐานเปิด" ซึ่งในความจริงแล้วตรงข้าม เพราะ H.264 เป็นมาตรฐานที่ออกโดยองค์กรอย่าง ISO และ ITU ในขณะที่ WebM อยู่ใต้การดูแลของกูเกิลฝ่ายเดียว
  • กูเกิลใช้คำผิด จริงๆ ต้องบอกว่า WebM ไม่เสียค่าใช้งาน (royalty-free) ในขณะที่ H.264 ต้องเสีย
  • ค่าใช้งาน H.264 สำหรับผู้ผลิตเบราว์เซอร์ (ฝั่ง decode) จะอยู่ที่ปีละไม่เกิน 6.5 ล้านดอลลาร์ เงื่อนไขนี้ใช้ได้ถึงปี 2015 ส่วนฝั่งผู้ผลิตวิดีโอ (ฝั่ง encode) ฟรีตลอดไป (อ่านข่าวเก่า MPEG LA ประกาศให้ใช้ H.264 สำหรับวีดีโอบนอินเทอร์เน็ตฟรีตลอดไป)
  • Ars เทียบกรณีของ GIF vs PNG ซึ่งคล้ายๆ กัน โดยบอกว่าเหตุผลที่คนเปลี่ยนมาใช้ PNG เป็นเพราะ PNG มีคุณสมบัติเหนือกว่า ไม่ใช่เพราะ PNG ไร้สิทธิบัตร
  • ประเด็นเรื่อง "Chrome 2 มาตรฐาน" แบบเดียวกับที่ Gruber ยกขึ้นมา คือ ถ้าเอา H.264 ออก ทำไมยังสนับสนุน Flash, AAC, MP3 อยู่อีก
  • ตอนนี้ H.264 ถูกใช้ในวงกว้างมาก โดยเฉพาะวิดีโอที่ไม่ได้อยู่บนเว็บ เช่น บนแผ่น Blu-ray, บนมือถือ ฯลฯ กูเกิลจะรองรับผู้ใช้กลุ่มนี้ได้อย่างไร
  • H.264 ใช้ได้กับทั้ง Flash และ HTML5 video ช่วยให้ย้ายจาก Flash ได้ง่ายขึ้น (เพราะไม่ต้องแปลงไฟล์วิดีโอใหม่)
  • การที่ฝ่าย HTML5 video แยกเป็นสองค่ายคือ WebM กับ H.264 จะทำให้คนที่ได้ประโยชน์คือ Flash video (ตัวเดียวใช้ได้ทุกกรณี) แทนหรือเปล่า จะทำให้วิดีโอบนเว็บถูกผูกขาดโดย Flash ต่อไปหรือเปล่า

คนที่ออกมาโต้ Ars คือ Opera ครับ โดยพนักงานฝ่าย Desktop QA ชื่อ Haavard เขียนบล็อกตอบโต้ดังนี้

  • H.264 ถูกออกโดยองค์กรมาตรฐานอย่าง ISO แต่เป็นคนละมาตรฐานกับ W3C ซึ่งระบุว่าห้ามเก็บค่าใช้งาน
  • แม้ VP8 ไม่ได้ออกโดยองค์กรมาตรฐาน แต่ระบุว่าให้ใครก็ใช้ได้ และไม่เก็บค่าใช้งาน
  • มาตรฐานเว็บไม่ได้กำหนดให้ใช้ H.264 และการเลือกใช้ codec ตามความนิยม ก็จะซ้ำรอย IE6
  • การเทียบ Flash กับ H.264 เป็นคนละเรื่องกัน เพราะ Flash เป็นปลั๊กอิน ในขณะที่ H.264 ฝังมาในตัวเบราว์เซอร์เลย
  • H.264 มีใช้เยอะจริง แต่ไม่ได้แปลว่ามันเหมาะสำหรับเว็บ และการเล่นวิดีโอบนเว็บต้องแปลงฟอร์แมตอยู่แล้ว แม้จะอัพโหลดมาเป็น H.264 ก็ตาม
  • Ars อ้างว่า Firefox เล่น H.264 ได้ผ่านปลั๊กอินของไมโครซอฟท์ (ข่าวเก่า) แค่แนวทาง "ปลั๊กอิน" ก็ไม่ใช่ HTML5 video แล้ว

เดี๋ยวคงมีต่อกันอีกหลายยกครับ ประเด็นนี้ยาวแน่นอน

Blognone Jobs Premium