เบื้องหลังความล้มเหลวของโนเกียในการสร้าง UI ใหม่ให้ Symbian

by mk
12 March 2011 - 14:22

Mark Wilcox อดีตพนักงานของโนเกียและผู้แต่งหนังสือด้าน Symbian ได้เขียนบล็อกเล่า "เบื้องหลัง" ความพยายามของโนเกียในการปรับปรุง UI ของ Symbian ให้กลับมาทันสมัยแข่งกับคู่แข่งได้ แต่ความพยายามของโนเกียกลับล้มเหลวเพราะการเมืองภายในระหว่างทีมพัฒนาแต่ละทีม จนสุดท้าย Stephen Elop ต้องหันไปพึ่งระบบปฏิบัติการภายนอกอย่าง WP7 แทน

Wilcox เริ่มเล่าถึงภัยคุกคามจาก iPhone ในปี 2007 ซึ่งโนเกียตอบโต้โดยปรับ S60 ให้รองรับการสัมผัส แต่กลับยิ่งยุ่งเพราะ S60 ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับนิ้วมือ ทางออกของโนเกียจึงเป็นการซื้อบริษัท Trolltech เพื่อเอา Qt มาเป็นตัวเชื่อมแพลตฟอร์มต่างๆ ของโนเกีย แต่ก็มีปัญหาอีกเช่นกันเพราะ Qt ยังขาด UI Toolkit (ภายหลังทีมงาน Trolltech จึงพัฒนาภาษา QML ขึ้นมาใช้งาน)

ภายในโนเกียเองก็ไม่ได้มีคนเห็นด้วยกับการซื้อ Qt ทั้งหมด และมี UI แบบอื่นของตัวเอง ได้แก่

  • ทีม Symbian สร้างเฟรมเวิร์คสำหรับ UI ของตัวเองชื่อ Hitchcock/Alf ซึ่งได้รับการวิจารณ์ว่า API แย่และรากฐานไม่ดี
  • ทีม Maemo สร้าง UI ของตัวเองด้วย GTK+

เมื่อผู้บริหารระดับสูงสั่งการว่า Qt คืออนาคตของบริษัท แต่ละทีมเลยทิ้ง UI เดิมของตัวเอง และหันมาสร้าง UI ใหม่โดยมี Qt เป็นฐาน

  • ทีม Symbian สร้าง UI ที่เรียกว่า Orbit (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น UIEMO) ตัว UI ทำงานได้ดีแต่มีปัญหาในการสร้าง API สำหรับนักพัฒนาภายนอก และการดีไซน์หน้าตาที่ออกมาย่ำแย่
  • ทีม Maemo/MeeGo สร้าง UI ที่เรียกว่า Direct UI ซึ่งยังพัฒนาไม่สมบูรณ์นัก เมื่อเทียบกับ Orbit แล้วยังด้อยกว่า

หมายเหตุ: อ่านข่าวเก่า เผยแผน Symbian^4 และแนวทางของ Symbian Foundation เมื่อเดือนสิงหาคม 2009 ประกอบ

สรุปว่าปัญหาของโนเกียในการสร้าง UI ใหม่เพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง เกิดจากการที่มี 2 ทีมนำ Qt (ซึ่งทำงานได้ข้ามแพลตฟอร์ม) ไปสร้าง UI เฉพาะแพลตฟอร์มของตัวเอง แถมทำงานร่วมกันไม่ได้ และสุดท้ายก็ใช้งานจริงไม่ได้ทั้งคู่ Wilcox ประเมินว่าโนเกียสูญทรัพยากรไปกับโครงการทั้งหมดนี้ นับเป็นชั่วโมงทำงานของนักพัฒนาได้ "หลายพันปี" ความผิดพลาดรอบนี้ทำให้ Symbian^4 ต้องล่าช้า และกระทบกับยอดขายมือถือของโนเกียตลอดปี 2010

เมื่อช่วงกลางปี 2010 ผู้บริหารของโนเกียคือ Anssi Vanjoki ได้เข้ามาคุมโครงการ UI และโละโครงการเดิมๆ ทิ้งไป ลดความซับซ้อนของแผนงานลง หันมาโฟกัสที่ Qt และ QML แทน แต่ Vanjoki มีเวลาน้อยเกินไป เพราะหลังจากโครงการเริ่มเข้ารูปเข้ารอยได้ไม่นาน Stephen Elop ก็มาเป็นซีอีโอให้โนเกีย

ทางเลือกของ Elop มีเพียง 3 ทาง

  1. เดินหน้าตามแผนการเดิม คืออยู่กับ Symbian/MeeGo และปรับมาใช้ Qt
  2. Android
  3. Windows Phone

เรื่องราวที่เหลือก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า Elop เลือกทางที่สาม ซึ่งกรณีของ Mark Wilcox นั้นไม่เห็นด้วยกับ Elop โดยเขาบอกว่าโนเกียเปรียบเสมือนนักเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ที่รอไพ่อีกใบเดียว (ในทีนี้คือ UI) ก็จะชนะ แต่โนเกียกลับหมอบไพ่ และหันไปจับมือกับผู้เล่นคนอื่นแทน

ที่มา - What Happened to Nokia?, The Register

Blognone Jobs Premium