สงครามภายในโลกโอเพนซอร์ส เมื่อ GNOME ไม่เห็นด้วยกับ Ubuntu

by mk
14 March 2011 - 12:38

เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตในโลกของโอเพนซอร์ส โดยเฉพาะฝั่ง GNOME และ Ubuntu

GNOME และ Ubuntu นั้นเป็นมิตรกันมายาวนานตั้งแต่เริ่มโครงการ Ubuntu เมื่อปี 2004 อย่างไรก็ตามทิศทางของ Ubuntu ในช่วงหลังจะเน้นไปที่ระบบเดสก์ท็อป Unity ของตัวเอง (อ่านดูได้ในข่าวเก่าหมวด Unity) ซึ่งจะชนเข้าอย่างจังกับทิศทางของ GNOME ในรุ่น 3.0 (ออกเมษานี้) ที่มีระบบเดสก์ท็อปของตัวเองชื่อ GNOME Shell

ทั้งสองตัวมีหน้าตาและแนวคิดใกล้เคียงกัน แต่แยกกันพัฒนาไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งนักพัฒนาจากทั้งสองค่ายก็ไม่พอใจกันอยู่เงียบๆ และตอนนี้ก็ออกมาชนกันตรงๆ แล้ว

จุดที่เป็นปัญหาขัดแย้งคือระบบแจ้งเตือนของ Ubuntu ที่มีชื่อว่า libappindicator (อ่านข่าวเก่า Ubuntu เสนอระบบแจ้งเตือนแบบใหม่สำหรับ GNOME/KDE และ รีวิว Ubuntu 10.04 LTS "Lucid Lynx" ประกอบ) ซึ่งเริ่มใช้มาได้แล้วสักพักตั้งแต่ Ubuntu 10.04 และด้วยความนิยมของตัว Ubuntu เอง ก็ทำให้มีซอฟต์แวร์หลายตัวเริ่มรองรับระบบแจ้งเตือนแบบใหม่กันแล้ว

ทีมของ Ubuntu/Canonical ได้เสนอ libappindicator เข้าไปส่วนหนึ่งของ GNOME โดยมีสถานะเป็นส่วนเกี่ยวเนื่องจากภายนอก (external dependency) แต่ทีมของ GNOME กลับปฏิเสธไม่รับข้อเสนอนี้

เหตุผลของทีม GNOME ที่ปฏิเสธมีดังนี้ (อ่านต้นฉบับทั้งหมดจาก New module decisions for 3.0)

 + libappindicator (external dependency)
   - it doesn't integrate with gnome-shell
   - probably depends on GtkApplication, and would need integration in
     GTK+ itself.
   - we wished there was some constructive discussion around it, pushed
     by the libappindicator developers; but it didn't happen.
   - there's nothing in GNOME needing it.
   => rejected for the reasons stated above

หมายเหตุ: ทุกครั้งที่ GNOME ออกรุ่นใหม่จะมีการตัดสินใจว่าจะรับฟีเจอร์หรือโมดูลอะไรเพิ่มบ้าง ซึ่งมีโมดูลเสนอเข้ามาหลายตัว และมีทั้งโมดูลที่ถูกยอมรับและถูกปฏิเสธ กรณีนี้ libappindicator เป็นหนึ่งใน 4 โมดูลที่ถูกปฏิเสธ

เหตุการณ์นี้ทำให้คนในวงการ GNOME/Ubuntu มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง แต่จุดหลักอยู่ที่ Mark Shuttleworth ผู้นำโครงการ Ubuntu ซึ่งไม่พอใจกับการตัดสินใจของ GNOME และเขียนลงบล็อก Internal competition is healthy, but depends on strong and mature leadership อธิบายเรื่องดังกล่าว

Mark Shuttleworth บอกว่า Unity ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่ง "ภายใน" โลกของ GNOME (เพราะใช้เทคโนโลยีจากฝั่ง GNOME/GTK+) ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่ง "กับ" GNOME แต่ดูเหมือนว่าทีมผู้นำของ GNOME จะไม่ได้คิดแบบนั้น เขาได้ตอบโต้เหตุผลทั้ง 4 ข้อข้างต้น และสรุปว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากวิธีคิดของ "เหล่าผู้นำ" โครงการ GNOME ที่ปิดกั้นนวัตกรรมใหม่ๆ จากบุคคลภายนอกนั่นเอง

ประเด็นที่น่าสนใจที่ Mark ยกมาก็คือ KDE กลับยอมรับระบบแจ้งเตือน libappindicator ของ Ubuntu และทำงานได้ดีไม่มีปัญหา แม้ว่า Ubuntu จะมาจากสาย GNOME ที่เป็นคู่แข่งของ KDE ก็ตาม

Aaron Seigo นักพัฒนาหลักคนหนึ่งของโครงการ KDE ได้สนับสนุนฝ่ายของ Mark Shuttleworth โดยเขาเขียนลงบล็อก collaboration's demise ว่าปัญหานี้ไม่ใช่ "GNOME vs Ubuntu" แต่เป็นเรื่อง "GNOME vs นักพัฒนาภายนอก" ต่างหาก

หลังจากบล็อกของ Shuttleworth ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีคนเขียนตอบบล็อกของเขามากมาย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและคัดค้าน ซึ่ง Shuttleworth เองก็เขียนบล็อกตอบต่ออีกตอนหนึ่ง อ่านกันต่อได้ที่ All the other guys are not wrong (การถกเถียงแบ่งเป็นหลายประเด็นและยังไม่มีข้อสรุป คงไม่เอามาลงไว้ตรงนี้นะครับ)

ผมคิดว่าความเห็นที่น่าสนใจมาจาก Jeff Waugh ซึ่งเคยเป็นทั้งทีมผู้นำของ GNOME และลูกจ้างของบริษัท Canonical จึงให้ความเห็นได้จากมุมมองทั้งสองฝ่าย เขาเขียนบล็อกเป็นซีรีส์ อ่านได้จาก On the relationship between Canonical and GNOME

ฝั่ง GNOME แม้จะมีดิสโทรอย่าง Red Hat/Fedora/SUSE/Debian สนับสนุนอยู่ แต่ด้วยความนิยมของ Ubuntu เพียงดิสโทรเดียวก็มีฐานผู้ใช้ที่ (อาจจะ) เท่ากันหรือมากกว่า ดูสภาพการณ์รวมๆ แล้ว คาดว่า Ubuntu กับ GNOME คงจะอยู่ร่วมกันต่อไปยาก ต่อไปคงแยกกันพัฒนา ทางใครทางมัน โดยที่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สาย GNOME ก็ต้องรองรับทั้งสองระบบครับ

ที่มา - OSNews

Blognone Jobs Premium