Windows 8 ใกล้เข้าสถานะเบต้า, อาจมีเวอร์ชันเดียว อยากได้ฟีเจอร์ไหนก็จ่ายเงินซื้อเพิ่มเอา

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะพยายามป้องกันการรั่วไหลของ Windows 8 แต่ก็ยังมีภาพและข้อมูลออกมาอยู่เสมอ ล่าสุดมี Windows 8 Milestone 3 (รุ่นทดสอบหมายเลข 7989) หลุดออกมา และพบว่ารูปปลากัดไทยได้กลับมาปรากฏให้เห็น (เช่นเดียวกับตอนที่ Windows 7 เข้าสู่สถานะเบต้า) ขณะบู๊ตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ เนื่องจาก Betta Fish หรือชื่อของปลากัดไทยนั้นคล้องกับคำว่า beta จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่ Windows 8 ใกล้จะเข้าสถานะเบต้าเต็มที - BetaArchive ผ่าน WinRumors

นอกจากนั้น ยังมีการค้นพบฟีเจอร์ใหม่บน Windows 8 ดังนี้

- Hyper-V 3.0 หรือเทคโนโลยีสนับสนุนการทำงานแบบเวอร์ชวลไลเซชันเวอร์ชันใหม่ ประกอบด้วยฟีเจอร์ใหม่ อาทิ การสนับสนุนซีพียูมากกว่าสี่แกน, การจัดการแบนวิดธ์, DHCP Guard, Router Guard เป็นต้น ซึ่ง ZDNet มองว่าการนำ Hyper-V ใส่ Windows 8 จะช่วยให้ไมโครซอฟท์ยังสามารถสนับสนุนแอพพลิเคชันเก่าบนระบบปฏิบัติการใหม่ได้โดยที่ไม่ต้องปรับแต่งสถาปัตยกรรมของ Windows 8 ให้สอดคล้องแต่อย่างใด (WindowsNow.com ผ่าน ZDNet)
- บริการที่เกี่ยวกับโทรศัพท์ โดยมีคนค้นพบไฟล์ DLL เกี่ยวกับบริการ SMS จึงมีความเป็นไปได้ Windows 8 (หรือกระทั่ง Windows Phone 8 หากได้รับการพัฒนาพื้นฐานของ Windows 8) จะรองรับบริการที่เกี่ยวกับโทรศัพท์ด้วย (WMPoweruser)
- คีย์บอร์ดเสมือน ในรุ่นทดสอบหมายเลข 7989 นี้ คีย์บอร์ดเสมือน (virtual keyboard) บนหน้าจอได้รับการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเทียบกับตอนที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8 อาทิ ปุ่มบนคีย์บอร์ดในรูปแบบ split keyboard นั้นใหญ่ขึ้น และมีเสียงขณะกดใกล้เคียงกับ Windows Phone 7 (WinRumors)
- PowerShell 3.0 และชุดคำสั่ง AppX ด้วย PowerShell เวอร์ชันใหม่ ที่มาพร้อมกับการสนับสนุนการสร้างแพกเกจของแอพพลิเคชันแบบ AppX (ลักษณะคล้ายกับ XAP ของ Silverlight) ซึ่งจะประกอบด้วยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้ง (อาทิ ระบบปฏิบัติการที่รองรับ) (WinRumors)
- App Store และการจ่ายเงินเพิ่มเพื่อใช้งานฟีเจอร์บนวินโดวส์ โดยมีคนค้นพบโค้ดที่รองรับการปลดล็อกแต่ละฟีเจอร์บนวินโดวส์ จึงเป็นไปได้ที่ Windows 8 จะรองรับการจ่ายเงินเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติม (per-feature licensing) และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะทำให้ระบบโดยรวม (ecosystem) ของ วินโดวส์เปลี่ยนไป จากเดิมที่ไมโครซอฟท์ต้องออกวินโดวส์มาหลายเวอร์ชันกลายเป็นวินโดวส์เวอร์ชันเดียวแล้วผู้ใช้ก็จ่ายเงินซื้อฟีเจอร์ที่ต้องการเอาเอง (Redmond Pie)