สัมภาษณ์คุณณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์ แห่ง Crie

by mk
11 July 2011 - 08:42

ผู้อ่าน Blognone คงจะคุ้นเคยกับสมาชิกของเราที่ใช้ชื่อว่า nattachai ซึ่งตัวจริงของเขาคือคุณ "อ๊อบ" หรือชื่อจริง "ณัฐชัย อึ๊งศรีวงศ์" ผู้ก่อตั้งบริษัท Crie ที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์บนมือถือมานาน

ผลงานของ Crie มีมากมาย (ตั้งแต่ยุคของ Palm/PocketPC) ส่วนผลงานในปัจจุบันได้แก่แอพของ dtac/Thairath/Nok Air, บริการแชร์ภาพถ่ายที่นิยมอีกตัวคือ Playground และล่าสุดที่กำลังอัดโฆษณาอยู่ในตอนนี้คือ Social App ของ dtac (ที่เหลือดูกันเองในเว็บของ Crie)

ผมได้ส่งคำถามให้คุณอ๊อบตอบมาทางอีเมล ซึ่งก็น่าจะครอบคลุมประเด็นสำคัญๆ แต่ถ้าอยากถามอะไรเพิ่มเติม ก็ถามต่อได้ในคอมเมนต์ เดี๋ยวคุณอ๊อบจะมาตอบให้เองครับ (ส่วนคนที่อ่านแล้วอยากสมัครงานกับ Crie ก็ติดต่อกันเองเน้อ)

ชื่อบริษัทหมายความว่าอย่างไร

มาจากบริษัทแรกที่ก่อตั้งชื่อ Createch Software เพื่อนๆชอบเรียกกันย่อๆ เป็น "ครีเอ้" ซึ่งคำว่า "crié" ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ตะโกนหรือส่งเสียง และครีเอ้เองก็พัฒนา App บนมือถือด้านการติดต่อสื่อสารกัน พวก chat, mail, social network เป็นหลัก มันก็ดูลิงค์กันดี พอมีบริษัทนี้เลยเลือกชื่อ "ครีเอ้" ครับ

ที่ตั้งอยู่แถวไหน

อยู่ที่อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค บนถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้ามกับ Central แจ้งวัฒนะเลยครับ (ปากเกร็ด นนทบุรี)

คิดยังไงถึงมาตั้งบริษัท

ตั้งแต่สมัย ม. ปลาย ก็รับงานเขียนโปรแกรมอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว พอดีตอนเรียนที่เกษตร อาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ แนะนำให้เปิดบริษัท เพราะคนที่จบออกไปทำบริษัทเองตอนนั้นยังมีน้อยมาก แล้วก็อยากทำบริษัทซอฟต์แวร์เจ๋งๆ ที่มีคนใช้เยอะๆ บ้างเลยมาเปิดเองครับ

ผู้ก่อตั้งมีกี่คน ตอนนี้ยังเหลือกี่คน

เริ่มแรกเลยมี 2 คนครับ พอผ่านไปสัก 6 เดือน ตอนนั้นงานเริ่มเยอะ เลยมีเพื่อนมาช่วยอีกคน เป็น 3 คน ตอนนี้ผู้ก่อตั้งก็ยังอยู่ทั้ง 3 คนครับ

ตอนนี้มีพนักงานกี่คนแล้ว

ประมาณ 20 คน เป็น โปรแกรมเมอร์ กราฟิก และ เจ้าหน้าที่ประสานงาน มีแผนจะเพิ่มเป็นประมาณ 30 คนภายในปีนี้

บริษัททำอะไรบ้าง (เล่าผลงานแบบคร่าวๆ มีผลงานเด่นซัก 1-2 อย่าง แนะนำ App เด่นๆ ที่เคยทำมา)

ในช่วง 1-2 ปีแรก ทำพวกระบบภาษาไทยบนมือถือ Symbian, Windows Mobile

ส่วน 6-7 ปีหลังเน้นทำ software และ service บนมือถือที่เกี่ยวกับการสื่อสารและ social network ให้กับผู้ใช้ทั่วไป (mass consumer) ครับ

ผลงานที่ผ่านมาก็มีหลายตัวครับ เช่น

  • SmartChat โปรแกรมเล่น MSN บนมือถือ Symbian และ Java ปัจจุบันก็ยังให้บริการอยู่ครับ มีคนดาวน์โหลด 2-3 ล้านครั้ง
  • PushMail เป็น mobile web app สำหรับอ่าน mail จาก Hotmail, Yahoo, Gmail บนมือถือผ่าน WAP/HTML ทั่วไป ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม มีผู้ใช้หลักล้านครับ
  • Playground โปรแกรมถ่ายรูปขึ้น social network และมี community ของตัวเองชื่อ pg.in.th มีในเกือบทุก mobile platform ทั้ง iOS, Android, BlackBerry, Symbian

แพลตฟอร์ม mobile ที่ลองแล้วชอบที่สุด

ชอบ iOS มากที่สุด แง่ของผู้ใช้ชอบเรื่องความเร็วและลื่นในการใช้งาน ส่วนการ develop นี่ SDK, IDE และ document ทำได้ดีมาก เมื่อก่อนเขียนพวก Symbian นี่หาข้อมูลอะไรแทบไม่ได้เลย ต้องงมๆ เอาเองอย่างเดียว

รองลงมาก็เป็น Android ครับ ปรับแต่งได้เยอะดี การเขียนง่ายดี

คิดว่า mobile app จะเป็นอย่างไร ใครจะชนะ

mobile app มองว่าจะเหลือแพลตฟอร์มหลักๆ ไม่เกิน 3 ตัว ซึ่งก็คงเป็น iOS, Android, Windows Phone พวก Symbian, Meego คงไม่น่าจะไปรอดเท่าไหร่ เพราะยังพัฒนายากอยู่มาก คนทำ app ลงคงมีน้อยลงเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้ Windows Phone ก็ยังพัฒนาพวก App เด็ดๆ มากไม่ค่อยได้ เพราะระบบยังค่อนข้างปิด API มีให้น้อย และไม่สามารถใช้ code C/C++ มาร่วมได้ (iOS และ Android เอาพวก library C/C++ มาแปลงๆ แล้ว compile เป็น native ใช้ได้เลย)

แพลตฟอร์มไหนหางานง่ายที่สุด แพลตฟอร์มไหนน่าศึกษา

เรื่องหางานนี่ iOS น่าจะหาง่ายสุด เพราะมีคนอยากทำ app เยอะ

แพลตฟอร์มที่น่าศึกษาก็น่าจะเป็น iOS และ Android

คิดอย่างไรกับ web application บน mobile

ถ้าเป็นโปรแกรมที่ไม่ซับซ้อนและไม่ต้องการฟีเจอร์ของเครื่องมาก เช่น พวก app ดึงข้อมูลแล้วแสดงผล ไม่ต้องมี input จากผู้ใช้มาก ก็คิดว่าพวก web application เหมาะกว่าการมาเขียน app บนแต่ละ platform

โดยเฉพาะตอนนี้มี HTML5 แล้วด้วย มันก็ทำอะไรได้หลายอย่างมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ค่อยต่างจากพวก native app เท่าไหร่

มองว่าในอนาคตจะมี web application บน mobile มากขึ้น เพราะ HTML5 และ Javascript Engine ที่ทำงานได้เร็วขึ้น โปรแกรมเมอร์ก็เขียนไม่ยากมากเท่า native app ด้วย

ประเมินสภาพตลาดตอนนี้ สดใสแค่ไหน

ตลาดทั้งในและต่างประเทศคิดว่ายังโตได้อีกเยอะ ตอนนี้เหมือนบริษัทใหญ่ๆ จะเพิ่งเริ่มทำ app บนมือถือกัน ยังมีบริษัทและคนทั่วๆ ไปต้องการทำ app บนมือถืออีกมากมายในอนาคตครับ

คิดว่าอีกหน่อยคนจะใช้เว็บผ่านคอมพิวเตอร์น้อยลง มาใช้ผ่านมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

อะไรเป็นเรื่องยากที่สุดของการทำงาน

จริงๆ เรื่องยากเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ของบริษัทครับ ช่วงแรกๆ ที่ตั้งใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องขายของ เพราะตอนนั้นยังไม่มี connection กับใครเท่าไหร่ บริษัทอื่นก็ไม่รู้จักว่าเราทำอะไร ก็ขายงานยากครับ

พอมาช่วงหลังๆ งานเยอะมากขึ้น การติดตามงาน การประสานงานกับภายนอกก็เป็นเรื่องที่ยากอีกอย่างนึงครับ ช่วงขยายคนใหม่ๆ การฝึกน้องๆ ให้เข้าใจงานก็ยากเหมือนกันครับ

ถ้าถามตอนนี้ก็คงเป็นเรื่องการหาคนครับ เพราะมีบริษัททำมือถือหลายบริษัทมากขึ้น ก็มีแบ่งคนไปเยอะครับ

ถ้าอยากได้คนเพิ่ม อยากได้คนแบบไหน

อยากได้คนที่อยากสร้างอะไรเจ๋งๆ เพื่อผู้ใช้ทั่วโลก ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ลองเล่นนู่นเล่นนี่ และเข้าใจผู้ใช้ว่าต้องการอะไร เอาไปใช้งานแบบไหน

ตอนนี้อยากได้คนเพิ่มอีกเยอะครับ ทั้งโปรแกรมเมอร์, Account Executive ไว้ประสานงานกับภายนอกและ Marketing ไว้ช่วยงานขายครับ

วัฒนธรรมองค์กรที่คิดว่าแปลกที่สุด ไม่มีใครเหมือนแน่ๆ

เราแนะนำให้น้องๆ พนักงานรู้จักการออมเงินในหุ้นอย่างถูกวิธี เพราะจะทำให้น้องๆ มีเงินงอกเงยมากขึ้น มีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ในบริษัทมีนักลงทุนเงินล้านอยู่หลายคนเลยครับ (เรามีหุ้นเด็ดมาแนะนำเรื่อยๆ :D)

อีก 3 ปีข้างหน้าคิดว่าบริษัทจะไปอยู่ที่ไหน

ขยายตลาดไปต่างประเทศในแถบเอเชียมากขึ้น และจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อระดมทุนและขยายกิจการ ซึ่งแน่นอนเราจะแจกหุ้นให้พนักงานด้วยครับ

Blognone Jobs Premium