บทวิเคราะห์ผลประกอบการแอปเปิลไตรมาสที่ 3 ปี 2011

by khajochi
20 July 2011 - 12:01

แอปเปิลรายงานผลกระกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2011 แล้ว ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าผลกระกอบการออกมาดีเกินที่นักวิเคราะห์คาดจนสร้างสถิติใหม่ให้กับบริษัท ซึ่งก็มีหลายสำนักข่าวที่ออกบทวิเคราะห์ตามมา มีเรื่องที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน

1.แอปเปิลกำลังจะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก (Techcrunch)

จริงๆ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแอปเปิลเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงมาก แต่คำถามคือสูงแค่ไหน ?

จากกราฟราคาหุ้นของแอปเปิลในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ามันขึ้นมาตั้งแต่ระดับ 70-80 มาจนถึงตอนนี้ 376.85 เข้าไปแล้ว เพิ่มขึ้น 5 เท่าในรอบ 5 ปี

จากตัวเลขนี้ ทำให้แอปเปิลมี Market Cap อยู่ที่ 3.47 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ($347 Billion) ตัวเลขนี้อาจจะไม่มีความหมายนักถ้าไม่ใส่คำว่า "แอปเปิลกำลังจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก"

บริษัทที่มี Market Cap สูงสุดของโลกตอนนี้คือ Exxon เป็นแชมป์ยืนยาวมานาน มี Market Cap อยู่ที่ 4.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ($410 Billion) ถ้าแอปเปิลยังรักษาความเร็วได้ขนาดนี้ (ซึ่งหลายคนวิจารณ์ไว้ว่าแอปเปิลไม่มีทางโตไปมากกว่านี้ตอนขาย iPhone 3G) อีกไม่นานเราอาจจะได้แชมป์บริษัทที่รวยที่สุดในโลกบริษัทใหม่

ขายอุปกรณ์ไอทีรวยกว่าขายน้ำมัน ??

2.iPad ขายดีกว่า Mac แล้ว (NYT)

วันแรกที่แอปเปิลเปิดตัว "The Magical Device" หรือ iPad รุ่นแรก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ามันก็แค่ "iPhone ยักษ์ที่โทรศัพท์ไม่ได้"

ผ่านไป 1 ปี ก็พบว่า iPad ขายดีมาก แล้วแอปเปิลก็เสริมทัพด้วยการออก iPad 2 ท่ามกลางกระแส Tablet ที่มี Android, มีช่องเสียบ USB, มีกล้อง, มีแรมขนาดที่มากกว่า แต่ก็อย่างที่เห็นว่าจนทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ก็ยังอยากซื้อ iPad มากกว่า

สิ่งที่น่าสนใจคือแอปเปิลโยน iPad 1 ทิ้งแล้วออกแบบใหม่เกือบหมด ภายในเวลาแค่ 10 เดือน แต่กับ Macbook Pro ที่ใช้แบบเดิมมา 3 ปีแล้ว, iMac ที่ดีไซด์เดิมมา 5 ปีแล้ว จริงๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะ Tablet ยังมีช่องว่างให้พัฒนาต่อได้อีกเยอะมาก ถ้าเทียบกับ PC ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อปวางตัก

มีประโยคนึงที่ Tim Cook พูดไว้เรื่องที่ iPad ขายดีกว่า Mac

We would have never predicted this. It’s clear that some customers chose to purchase an iPad instead of a new Mac

โลกของ Tablet กำลังหมุนไปเร็วมาก ใครตามไม่ทันโปรดระวัง

3.แอปเปิลกำลังจะเข้าสู่ Major Transition รอบที่ 4 (Forbes)

ประโยคนึงที่หลุดออกมาในรายงานผลประกอบการครั้งนี้ ที่เล่นเอานักข่าวตะลึง

Katy Huberty from Morgan Stanley asks — why is your guidance for the September quarter so conservative? Oppenheimer drops a bomb, pointing to a ‘future product transition that we’re not going to talk about today that will impact our coming quarter.’ Interesting. Did I hear that right?

ก่อนอื่นขอย้อนความหน่อยว่าในประวัติศาสตร์แอปเปิลเคยทำ Major Transition ไปแล้ว 3 รอบ (ตามประโยคของจ๊อปส์)

  • เปลี่ยนชิปจาก Motorola 68k มาใช้ Power PC (1994 - 1996)
  • OS 9 มาเป็น OS X (2001 - 2003)
  • เปลี่ยนชิปจาก Power PC ไปใช้ Intel (2005 - 2007)

โลกของเทคโนโลยีเปลี่ยนไปเร็วมาก เราคงไม่มีทางใช้เทคโนโลยีเดิมไปได้เกิน 5 ปี ถามว่าหลังจากแอปเปิลไปใช้ชิป Intel แล้วทำให้เกิดอะไรบ้าง ?

ถ้าตามคำบอกของจ๊อปคือเค้าต้องการชิปที่ประหยัดพลังงาน (Power per Watt) ที่สูงกว่าเดิม คำตอบก็ไปอยู่ที่ Macbook และ Macbook Air ที่เราก็เห็นกันอยู่ว่ากินไฟน้อย แบตฯอยู่ได้นาน ขนาดเล็กลงมาก ในขณะที่ความเร็วไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญแล้วในตอนนี้

แต่ถ้ามองในมุมปัจจุบัน ที่ตลาด iPhone + iPad ทำเงินให้บริษัทไปเกือบ 70% แล้ว การเอาเงินไปลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็น Mobile Device ก็น่าจะถูกต้องกว่า ซึ่งจริงๆ เราก็เริ่มเห็นกันไปแล้วว่าบริษัทขี้งกอย่างแอปเปิลลงทุนมหาศาลทำ Data Center ของ iCloud แล้วเปิดให้ใช้บริการฟรี

สิ่งที่เห็นอีกอย่างคือการขยันเปิดตัว Apple Store โดยเฉพาะภายในกันยายนนี้จะเปิดให้ครบ 363 สาขาทั่วโลก (จากปัจจุบัน 330 สาขา) ซึ่งถ้านับดูแล้วจากวันนี้แอปเปิลจะเปิด Store ของตัวเองใหม่ทุก 50 ชั่วโมง !!

Transition ที่ 4 จะเป็นยังไง มันคือ OS X + iOS, iPhone 5, iPad HD หรือว่า iCloud

รอดูกันต่อไปครับ

ที่มา - Techcrunch, The New York Times, Forbes, Khajochi Blog

Blognone Jobs Premium