อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 โดยมีรายได้รวม 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งสูงกว่าเมื่อไตรมาสที่แล้ว และคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.95 พันล้านดอลลาร์ ผลที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ก่อนหน้านี้
ซีอีโอ Paul Otellini แถลงว่าแม้บริษัทยังไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดชิปสำหรับอุปกรณ์พกพา แต่เพราะสมาร์ทโฟนทุกๆ 600 เครื่องต้องการ 1 เซิร์ฟเวอร์ในการประมวลผล หรือเทียบกับแท็บเล็ตก็คือทุกๆ 122 เครื่องต้องการ 1 เซิร์ฟเวอร์เช่นกัน จุดนี้ยังทำให้อินเทลเติบโตได้ผ่านความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการกลุ่มเมฆซึ่งต้องการชิปประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลข้อมูลอย่างวิดีโอความละเอียดสูง
อินเทลยังระบุว่าที่ผ่านมาตลาดพีซียังไม่ถดถอยรุนแรงอย่างที่คาดกันไว้ เพราะยังมีตลาดใหม่ (emerging markets) ที่มีการเติบโตสูงและยังซื้อพีซีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็ปรับลดการเติบโตของตลาดพีซีลงเหลือ 8-10% สำหรับปีนี้
ที่มา: Bloomberg