สัมผัสแรก Lenovo ThinkPad Tablet และ Lenovo IdeaPad Tablet K1 และรายงานการเปิดตัวแคมเปญ Lenovo - For Those Who Do
ผมได้อีเมลเชิญเข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว tablet พร้อมเปิดตัวแคมเปญ Lenovo - For Those Who Do อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมาในรอบ blogger ที่โรงแรม Four Points by Sheraton สุขุมวิท 15
แน่นอนว่างานนี้เป็นครั้งแรก Lenovo จัดช่วง blogger ครับ บางครั้งอาจจะไม่ได้เชิญทั่วไป ส่วนตัวแล้วเชิญชวนกันผ่าน Twitter และในบอร์ด ThaiThinkPad เป็นหลัก เนื่องด้วยว่าต้องการกลุ่มที่สนใจเป็นหลัก แน่นอนว่ารอบ press คงไม่ใช่ปัญหาเพราะมีในช่วงเที่ยงไปแล้ว อันนั้นคงปรกติครับ
ซึ่งผมยังคงตอบเช่นเดิมทุกๆ ครั้งว่า "สเปคเครื่องต่างๆ คงหาได้ไม่ยากนัก สิ่งที่ยากกว่าคือการได้สัมผัสตัวเป็นๆ และได้ทดลองใช้งานจริงกับตัวเครื่องจริงๆ นั้นเอง" และเนื้อหาทั้งหมดพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดครับ ขาดตกตรงไหนก็เพิ่มความคิดเห็นเสริมๆ เข้ามาได้ครับผม
งานนี้ Lenovo จัดเต็มกับ ThinkPad Tablet เป็นหลักเลยครับ ทุกคนในงานช่วง blogger ไปเล่นไปจับเจ้า ThinkPad Tablet มากกว่า IdeaPad Tablet K1 อาจจะเพราะแปลกใหม่และดูแตกต่างกว่าเจ้าตลาดในตอนนี้อยู่พอสมควรเลย
กล่าวก่อนว่า Lenovo นั้นแบ่งตลาดของ tablet ของตัวเองไว้ 2 กลุ่มชัดเจนเพื่อง่ายต่อการทำราคาและพัฒนาตัวสินค้าได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมากที่สุด คือ
รูปจาก Press Release ของ Lenovo
ผมไปถึงงานค่อนข้างสายเลยไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่ มาถึงรีบลงทะเบียนแล้วรีบประกอบกล้องถ่ายทันที ไม่งั้นไม่ได้งาน ไม่ได้เนื้อหาและภาพกลับมาแน่ๆ เพราะงานจะเริ่มแล้ว ผมเกรงใจคนจัดที่กลัวว่าคนมาไม่ครบแล้วทำให้คนมาทีหลังตามไม่ทัน
ไปถึงก็เห็น ThinkPad Tablet ตัวเป็นๆ วางอยู่เครื่องนึง และอีกเครื่องโดนฉกไปเล่นกันอยู่เหลือแต่ ThinkPad Tablet Dock ไว้ข้างๆ รอยนิ้วมือที่เครื่องเต็มเลย อย่าคิดมากครับ ไม่มีเวลามาตามทำความสะอาดแล้วงานนี้
ตัวที่ผมได้เห็นนั้นอยู่ใน ThinkPad Tablet Keyboard Folio case ที่ในเครื่องมาใส่ ThinkPad Tablet Pen มาพร้อมครับ ถือว่าเป็นชุดใหญ่มาก หลังงานแอบกระซิบมาว่าอยากขายแบบเซ็ตใหญ่เลย มาครบเซ็ตแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย แต่ราคาที่คาดหวังไว้คือประมาณไม่แพงไปกว่า ThinkPad X220 ตัว notebook ที่เป็นตัวสเปคล่างสุด ไม่งั้นจะเกิดอาการลังเลแน่
เครื่อง ThinkPad Tablet ที่อยู่ใน ThinkPad Tablet Keyboard Folio case นั้นดูจะหนาไปสักหน่อย อาจจะเพราะตัวเครื่องหนาอยู่แล้วเป็นทุนเดิม มันเลยทำให้พอมาประกบกับ case แล้วหนาไปอีก และหนักพอสมควรเลย ซึ่งเอาง่ายๆ ว่าพอๆ กับ netbook ตัวเล็กๆ ตัวนึงเลย
สำหรับ UI นั้นตอนแรกเห็นในเว็บผมยังงงๆ ว่าจะพยายามทำ UI ให้คล้ายๆ Windows ทำไม แต่พอมาเห็นตอนใส่กับ Folio case แล้วใช้งาน ต้องบอกว่า เฮ้ย! นี่มันคือการทำให้เราใช้งานได้คล้ายๆ กับ Windows ที่ทำงานบนโน้ตบุ๊ก/เน็ตบุ๊กอยู่พอสมควร ซึ่งเจ้าตัว TrackPoint แดงๆ ตรงกลางคีย์บอร์ด นั้นไม่ใช่เป็นแบบในโน้ตบุ๊ก ThinkPad ที่โยกๆ นะครับ เป็น Touch Sensor คล้ายๆ บน BlackBerry ครับ ต้องลากๆ สัมผัสไป-มาเพื่อเลื่อนตัวเคอร์เซอร์ เหมือนเมาส์บนจอ (คิดถึงโน้ตบุ๊กแล้วมีเมาส์ แล้วเลื่อนเคอร์เซอร์ Mouse Pointer นั้นแหละครับ)
แรกๆ ก็งงๆ ทำมาทำไม เพราะใช้ๆ อยู่รำคาญอยู่พัก ลากลำบากมาก (ยังไม่ชิน) เลยไปทัชบนจอเลยง่ายกว่า!!! ฮา …. ผมคิดว่าคนไปในงานทำกันทุกคน แต่ถ้าทำงานพิมพ์เอกสารเยอะๆ คงเข้าใจว่าใส่มาทำไม เพราะมันไม่ต้องละมือออกจากแป้นคีย์บอร์ดครับ เอาไว้เลื่อนๆ ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้พวก copy/paste ที่ต้อง select อะไรแบบนั้น
สำหรับตัวความรู้สึกของคีย์บอร์ดนั้นได้ความรู้สึกแบบเดียวกับ ThinkPad Edge Series ครับ layout ของคีย์บอร์ดล้อมาจากโน้ตบุ๊กของ ThinkPad Edge ทุกอย่างเลย เพราะฉะนั้น การปรับเปลี่ยนการพิมพ์คงไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ แต่ปุ่มจะเล็กลงบ้างบางตัวในด้านข้างๆ ของคีย์บอร์ดครับ แตระยะระหว่างปุ่มทำได้ดีครับ ไม่เบียดจนพิมพ์และวางนิ้วลำบาก
ในส่วน ThinkPad Pen นั้น ใส่แบตแบบ AAAA (4A) อาจจะหายากหน่อย แต่คิดว่าน่าจะเริ่มมีขายกันบ้างแล้ว เพราะมีสินค้าหลายรุ่นหลายยี่ห้อ เริ่มใช้แบตขนาดเท่านี้กันมากขึ้นครับ
สำหรับตัวปากกา ThinkPad Pen ให้ความรู้สึกในการเขียนดีมาก แต่ด้วยจอของตัว Tablet มันลื่นไปหน่อย ทำให้การเขียนหวัดยิ่งกว่าเดิม (ปรกติก็แย่อยู่แล้ว) อาจจะต้องฝึกกันสักหน่อยในส่วนนี้ครับ
ตัวปากกา ThinkPad Pen มีน้ำหนักอยู่พอสมควร ทำให้การเขียนดูไม่พริ้วเกินไป แต่ตัวปากกาเอาไปลองกับ IdeaPad K1 แล้วใช้งานไม่ได้นะครับ เพราะตัวจอของ IdeaPad K1 นั้นไม่มีเซ็นเซอร์สำหรับใช้งานร่วมกับปากกาแบบ digitizer นี้
digitizer pen รุ่นใหม่ๆ นั้นมีคุณสมบัติรับทราบน้ำหนักมากหรือน้อยของการกดที่มีผลต่อขนาดของเส้น-สายของการเขียนได้ (pressure sensitive) ทำให้ใช้ในการวาดรูปหรือออกคำสั่งได้หลากหลายตามแรงของการกดที่ตัวปากกาได้ดีมากขึ้น
ตัวเนื้อวัสดุนั้นเป็นพลาสติก ABS คล้ายกับตัวเครื่องโน้ตบุ๊ก ThinkPad ด้านหลังฉาบด้วย Soft-Touch แบบเดียวกับฝาหลังเครื่องโน้ตบุ๊ก ThinkPad รุ่นใหม่ๆ เลย ทำให้จับถนัดกระชับไม่ลื่น
สำหรับจอภาพนั้นถือเป็นจุดขายตัวนึงของ ThinkPad Tablet เลย เพราะเป็นจอภาพขนาด 10.1 นิ้ว WXGA (1280x800) 16:10 แบบ IPS Panel 178/178 degrees Viewing Angle และมาพร้อมกับ Corning Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วน และรองรับ ThinkPad Tablet Pen Input ครับ
ตัวเครื่องที่นำมาโชว์และให้เล่นในงานเป็นรุ่น Lenovo ThinkPad Tablet Wi-Fi + 3G ขนาดความจุ 32GB ที่ยังไม่มีเปิดตัวขายในอเมริกาแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น ได้จับตัวเป็นๆ ก่อนใครและได้ทดสอบเล่น 3G จริงๆ ถือว่าเป็นโอกาสดีครับ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องเลื่อนออกมาด้านในเป็น full size USB 2.0 และ micro-USB port อย่างละ 1 port จากการทดสอบต่อ flash drive ทั่วไปผ่านช่อง full size USB 2.0 สามารถมองเห็นและเข้าถึงได้ และได้ทดสอบเอาไฟล์วิดีโอเปิดผ่าน ThinkPad Tablet แล้วสามารถเล่นวิดีโอได้ทันที แต่ยังไม่ได้ทดสอบกับ External HDD แต่อย่างใดครับ ซึ่งไอ้เจ้าช่องนี้เอาไปไว้ต่อกับ ThinkPad Tablet Keyboard Folio case ด้วย
ด้านบนเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง ช่องคล้องสายไว้ผูกกับ ThinkPad Pen กันหล่นหายได้ และช่องเสียบ ThinkPad Pen ไว้กับตัวเครื่อง
ช่องเชื่อมต่อด้านล่างให้มาครบสำหรับคนที่ต้องการจัดหนักซึ่งก็มี
สำหรับเจ้า ThinkPad Tablet Dock นั้นดูน่าใช้ดีครับ มีช่องต่อ USB 2.0 เพิ่มมาให้ด้านขวาให้อีก 1 ช่องเอาไว้ต่อกับคีย์บอร์ดทั่วไปได้
สำหรับเจ้า ThinkPad Tablet Dock นั้นสามารถต่อ micro-USB, ช่องเสียบ audio/mic แบบแยก (ไม่ใช่ combo) และที่เสียบสายชาร์จซึ่งใช้ของโน้ตบุ๊ก ThinkPad ได้ทันที (รุ่นใหม่ๆ ที่เป็น 65w หรือ 90w) โดยไม่ต้องซื้อสายเพิ่มเติม (หรือเผื่อไว้สำหรับไม่ได้เอาสายชาร์จมา ก็เอาไอ้นี่แหละต่อได้)
คุณสมบัติส่วนอื่นๆ ก็
ต่อมาเป็นตัวที่ในงานคนจับเยอะครับ แต่ทุกคนส่วนใหญ่จะจับๆ เล่นเกมเป็นหลัก เพราะเป็นตัวที่ Lenovo ทำออกมาแข่งกับตลาดคนใช้ทั่วไปที่เน้นความบันเทิงเป็นหลัก เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรพิเศษในด้านการใช้งานของธุรกิจมากเท่า ThinkPad Tablet
สำหรับตัววัสดุนั้นเป็นพลาสติก ABS คล้ายๆ กับ Notebook IdeaPad และขอบตัวเครื่องเป็น aluminum ครับ เน้นความเงางามเป็นหลักเลย ออกแนววัยรุ่นครับ
โดยที่เป็นจอภาพขนาด 10.1 นิ้ว WXGA (1280x800) 16:10 แบบ 10-point multi-touch แต่ไม่รองรับ ThinkPad Tablet Pen Input
สำหรับตัวคีย์บอร์ดนั้นน่าเสียดายที่ผมหาไม่เจอ ไม่รู้ใครไปซ่อนไว้ไหน ไม่ได้ลองตัวคีย์บอร์ดของตัวนี้เลย โดยส่วนตัวแล้วงานประกอบนั้นไม่แน่นเท่า ThinkPad ครับ มีการยวบๆ บ้างเล็กน้อย น่าจะเพราะต้องการให้มีความโค้งมนของตัวเครื่องและพื้นที่ภายในสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งแล้วแต่คนชอบครับ แต่งานประกอบก็ดีกว่าหลายๆ ยี่ห้อที่ทำออกมาก่อนหน้านี้หลายตัวครับ
ย้ำอีกครั้งครับ ใช้ ThinkPad Pen กับจอ IdeaPad Tablet K1 ไม่ได้ครับผม
ช่องต่อต่างๆ นั้นมี
คุณสมบัติส่วนอื่นๆ ก็
ภายในงานก็มีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ให้ดูฮือฮาครับ ผมมองว่าเป็นสีสัน เพราะเนื้อหาสาระอยู่ครบเช่นเดิม
หลังจากนั้นทุกคนอิ่ม ก็ได้เวลาเริ่มงาน คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงานวันนี้และต่อด้วยคุณวรเทพ จักรวาลวิบูลย์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย ขึ้นมานำเสนอคุณสมบัติของ tablet ทั้งสองรุ่นนี้ โดยใช้กรณีศึกษาต่างๆ ที่ทำจากหลายๆ ที่ผมนำเสนอและสนันสนุนแนวทางในการทำตลาดของทั้งสองส่วนของ Lenovo เช่น
ในรอบของการ Q/A นั้นมีการถกประเด็นกันเยอะมาก เช่น
Lenovo Tablet ทั้ง 2 Series จะมีจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายของ Lenovo ตามราคาและเวลาดังนี้
Lenovo IdeaPad Tablet K1 WiFi ความจุ 32 GB
- ราคา 16,990 บาท วางจำหน่ายไปแล้วเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2554
Lenovo IdeaPad Tablet K1 WiFi + 3G ความจุ 32 GB
- ราคา ยังไม่ระบุ จะวางจำหน่ายประมาณสิ้นเดือนตุลาคม 2554
Lenovo ThinkPad Tablet WiFi + 3G ความจุ 32GB และ 64GB - ราคา ยังไม่ระบุ จะวางจำหน่ายประมาณช่วงหลังของเดือนกันยายน 2554
โดยผลิตภัณฑ์จะมาพร้อมการรับประกัน 1 ปี ซึ่งสามารถอัพเกรดระยะเวลาการรับประกันและความคุ้มครองของประกันได้
ปิดท้าย !!!! รายชื่อ Apps ที่ Preloaded
ThinkPad Tablet
and All Preloaded from IdeaPad Tablet K1
IdeaPad Tablet K1
คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย (ลำดับที่สองจากขวามือ)
ขอบคุณ Lenovo Thailand ที่เชิญเหล่า blogger ในครั้งนี้ครับ