ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Server 8, Visual Studio 11, ฟีเจอร์ใหม่ของ Azure

by lew
14 September 2011 - 17:24

หลังจากเปิดตัว Windows 8 ไปเมื่อวานนี้ วันนี้ก็ถึงเวลาของฝั่งเซิร์ฟเวอร์และเครืองมือพัฒนากันบ้าง โดยไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวสินค้าอีกสามชุด คือ Windows Server 8, Visual Studio 11 (พร้อม .NET 4.5), และ Azure รุ่นใหม่

Windows Server 8

เซิร์ฟเวอร์รุ่นต่อไปจากฝั่งวินโดวส์ เน้นไปที่การทำ Virtualization และการเชื่อมต่อกับบริการแบบกลุ่มเมฆมากขึ้น โดยระบบ Virtualization รุ่นใหม่จะให้บริการกับผู้ใช้, คิดค่าบริการ, และเปิดให้ผู้ใช้จัดการเครื่องของตัวเองได้โดยไม่ต้องให้แอดมินเข้ามาจัดการ

ที่น่าสนใจคือการระบุว่า Windows Server 8 จะรองรับการพัฒนาแอพลิเคชั่นแบบเดียวกับการพัฒนาเพื่อใช้ในกลุ่มเมฆ ซึ่งหมายถึง Azure ที่นักพัฒนาสามารถติดตั้งแอพลิเคชั่นลงบน Windows Server 8 ภายในองค์กรแทนที่จะไปติดตั้งที่ไมโครซอฟท์ หรือแบ่งแอพพลิเคชั่นบางส่วนติดตั้งคนละที่ก็สามารถทำได้

IIS รุ่นใหม่รองรับทั้งโอเพนซอร์สและ ASP.NET มันจะมีความสามารถในการจัดการได้ดีึขึ้น สามารถอัดแอพพลิเคชั่นให้อยู่รวมกันในเครื่องจำนวนน้อยลง

ระบบเพิ่มความน่าเชื่อถือของเซิร์ฟเวอร์นั้นยังไม่เปิดเผยทั้งหมดว่าเป็นอะไร แต่ใน TechNet นั้นพูดถึง disk pool แบบเดียวกับ ZFS ใน Solaris หมายถึงเราสามารถติดตั้งดิสก์ขนาดต่างๆ กันจำนวนมาก และเมื่อดิสก์บางลูกเสียไปก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลที่จะซื้อดิสก์ขนาดเท่าๆ กัน

ที่มา - TechNet, Windows Server 8

Visual Studio 11

เครืื่องมือพัฒนาชุดใหม่นี้ที่จริงมาพร้อมกับ Windows 8 ที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยมันจะรองรับการสร้างหน้าจอแบบ Metro ด้วย HTML5/JavaScript, C++, Visual Basic, และ C#

ฟีเจอร์การทำงานจะเพิ่มการจัดการส่วนขยาย, ระบบพัฒนาเกม, ระบบรีวิวโค้ด, การทดสอบโค้ดแบบ agile นอกจากเครื่องมือพัฒนาแล้วมันยังมาพร้อมกับ Team Foundation Service ช่วยจัดการแอพพลิเคชั่นบน Azure

.NET 4.5 จะเป็นการอัพเกรดภาษา C# และ Visual Basic ให้รองรับการทำงานแบบ asynchronous มากขึ้น, รองรับการออกแบบ state machine, และทำงานร่วมกับ HTML5/CSS3 ได้

Azure

ตัวแพลตบริการแบบกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ก็อัพเกรดใหญ่เช่นกัน โดยเพิ่มความสามารถได้แก่

  • Windows Azure Georeplication สามารถส่งสำเนาข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลที่ห่างกันนับร้อยกิโลเมตรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลได้แล้ว โดยบริการ Azure ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับบริการนี้
  • Windows Azure Marketplace จะรองรับประเทศเพิ่มเติมอีก 25 ประเทศ (ไม่ระบุว่าประเทศใดบ้าง)
  • Microsoft Translator API เปิดให้แปลภาษาแบบเดียวกับ Translation API ของกูเกิล (ซึ่งปิดบริการฟรีไปแล้วและก็กำลังเปิดใหม่เป็นบริการคิดเงินเช่นกัน)
  • Windows Azure SDK 1.5 ปรับปรุงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตัวจำลองทำงานเร็วขึ้น,รีโมทแบบเข้ารหัส, ระบบจัดการคอนฟิก ฯลฯ
  • Windows Azure Service Bus บริการ push ข้อมูลไปยังอุปกรณ์แบบเดียวกับ C2DM ที่ให้บริการสำหรับ Android แต่ Azure จะให้บริการได้กว้างกว่า ทั้งเดสก์ทอปและโทรศัพท์
  • Windows Azure Toolkit for Windows 8 ชุดเชื่อมต่อข้อมูลกับ Windows 8 แบบเดียวกับที่มีให้กับแทบทุกแพลตฟอร์มก่อนหน้านี้

เห็นชื่อแต่ละฟีเจอร์ของ Azure แล้วหมดแรงท่อง

ที่มา - Microsoft

Blognone Jobs Premium