ออราเคิลประกาศสินค้าใหม่คือ Oracle Database Appliance ซึ่งจริงๆ ก็คือเซิร์ฟเวอร์ SunFire ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ของออราเคิลมาในตัวแบบเต็มพิกัด
ส่วนฮาร์ดแวร์นั้น เครื่องขนาด 4U ถูกแบ่งออกเป็นสองเครื่องอยู่ภายในเพื่อทำ fail over ระหว่างกัน แต่ละเครื่องมาพร้อมกับ Xeon X5675 2 ตัว 12 คอร์ (รวมสองเครื่อง 24 คอร์), แรมเครื่องละ 96GB, ฮาร์ดดิสก์ขนาด 12TB ทำสำรอง 3 ชุดในตัวทำให้เหลือพื้นที่ใช้งาน 4TB , และ SSD ขนาด 73GB
ด้านซอฟต์แวร์นั้นระบบปฎิบัติการเป็น Oracle Linux, Oracle Enterprise Manager, Oracle Automatic Storage Management, Oracle Real Application Clusters, และที่สำคัญที่สุดคือ Oracle Database Enterprise Edition 11g
การคอนฟิกสามารถคอนฟิกได้ทั้งแบบ active-active (สองเครื่องช่วยกันทำงาน) หรือ active-passive (เครื่องหนึ่งทำหน้าที่สำรอง รอเครื่องหลักมีปัญหา) ส่วนราคานั้นออราเคิลคิดเป็น "ค่าไลเซนส์" ตามจำนวนคอร์ที่เปิดใช้าน โดยแม้เครื่องจะติดตั้งซีพียูมาให้ 24 คอร์ แต่ลูกค้าต้องจ่ายตามจำนวนคอร์ที่ต้องการใช้งานเอง ต่ำที่สุดคือ 2 คอร์
การแสดงท่าที่อยากขายเครื่องพ่วงซอฟต์แวร์เช่นนี้อาจจะทำให้ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายอื่นๆ ต้องทำการบ้านกันหนักขึ้นว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทางฝั่งไอบีเอ็มนั้นยังมี DB2 เป็นซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลระดับองค์กรของตัวเองอยู่ แต่ทางฝั่งเดลล์, เอชพี, หรือผู้ผลิตอื่นๆ นั้นยังไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นมิตรกับออราเคิลเพื่อขายโซลูชั่นให้กับลูกค้าต่อไป
งานนี้เรื่องที่น่าเจ็บปวดสำหรับเอชพีอีกเรื่องหนึ่งคือคนขึ้นเวทีประกาศข่าวนี้ก็คือ Mark Hurd อดีตซีอีโอของเอชพีเอง
ที่มา - ArsTechnica, Oracle