Blognone

เบื้องหลังการเปลี่ยนจาก Start Menu มาเป็น Start Screen

authorby mk
published on6 October 2011 - 15:29

ผู้ที่ติดตามข่าว Windows 8 คงทราบกันดีว่า Start Menu ที่สืบทอดมายาวนานตั้งแต่ Windows 95 ได้กลายร่างมาเป็น Start Screen ของโหมด Metro

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการออกแบบ Start Screen นั้นลึกซึ้งกว่าที่หลายๆ คนคิด และไมโครซอฟท์ก็อธิบายแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบผ่านบล็อก Building Windows 8 (ซึ่งคนที่สนใจเรื่องการสร้างระบบปฏิบัติการ ควรติดตามอ่านกันอยู่แล้ว)

ปัญหาของ Start Menu

ไมโครซอฟท์อธิบายว่าวิธีการเรียกโปรแกรมใน Windows รุ่นก่อนๆ มีปัญหาอยู่หลายอย่าง

  • หน้าที่ของ Start Menu คือ "เรียกโปรแกรมที่ไม่ค่อยได้ใช้" เพราะอันที่ใช้บ่อยจะไปอยู่ใน Taskbar แทน
  • Start Menu ไม่ได้ออกแบบมาให้แสดงรายการโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเกิดขึ้นในสมัยที่คนยังติดตั้งโปรแกรมกันไม่เยอะ (ต้องซื้อโปรแกรมเป็นกล่อง ไม่ใช่ดาวน์โหลด) ผลคือกลุ่ม power user นิยมสร้างช็อตคัตใน Taskbar จำนวนมากๆ แทน
  • Start Menu ปรับแต่งได้น้อย พื้นที่แสดงผลน้อย แสดงผลการค้นหาได้จำกัด

นอกจากตัว Start Menu แล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ ของวินโดวส์ที่ไมโครซอฟท์นำมาพิจารณาได้แก่

  • Notification ใน System Tray ที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกร้องความสนใจจากผู้ใช้ตลอดเวลา
  • ศักยภาพของ Desktop Gagets ที่ยังดึงออกมาได้ไม่มากนัก
  • คนเริ่มใช้ "เว็บ" ในฐานะ "แอพ" หรือโปรแกรม และไม่ว่าเว็บหรือแอพก็มีหน้าที่ดึงข้อมูลใหม่ๆ มาแสดง

การออกแบบ Start Screen

หน้าจอ Start Screen จึงออกแบบมาแก้ปัญหาข้างต้น

  • ไม่ว่า "เว็บ" หรือ "แอพ" จะมีค่าเท่ากันคือเป็น Tile หนึ่งช่อง
  • System Tray จะถูกตัดทิ้งไป และการแสดงข้อมูลจะอยู่ในช่อง Tile ของแอพนั้นๆ แทน
  • Tile สามารถแสดงข้อมูลเป็นระยะ และสั่งงานแอพได้บางส่วน อันนี้นำแนวคิดมาจาก Desktop Gadget
  • แยกส่วนการค้นหาข้อมูลออกไปจาก Start โดยทำเป็นหน้าจอแยก และรันแบบเต็มจอ

สิ่งที่ไมโครซอฟท์คิดจะทำแต่สุดท้ายไม่เอา

  • โฟลเดอร์ใน Tile เพราะไม่ได้ช่วยจัดของแต่เอาไว้ซ่อนของ (ทำให้หาไม่เจอ) และเลือกวิธีการจัดกลุ่มแล้วซูมเข้า-ออกแทน
  • ไมโครซอฟท์พิจารณาว่าหน้าจอ Start Screen ควรจะเปิดแบบเต็มจอหรือบางส่วนของจอดี สุดท้ายเลือกแบบเต็มจอ เพราะไม่ต้องแสดงผลข้อมูลของตัวแอพที่เปิดอยู่อีก และช่วยให้แสดงจำนวนแอพได้มากขึ้น (แสดงแอพได้สูงสุดประมาณ 24 ช่องบนจอ 1336x768

ประสิทธิภาพของ Start Screen

เนื่องจากว่า Live Tiles จะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ Windows 8 ต้องเจอบ่อยมาก ไมโครซอฟท์จึงออกแบบให้มันทำงานแบบมีประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดแบตมากที่สุด

  • Tile แต่ละตัวจะไม่สามารถดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเองได้ (ป้องกันปัญหามี Tile เยอะๆ แล้วแย่งทรัพยากรกัน) แต่จะต้องขอข้อมูลผ่าน Windows Notification Service แทน ทำให้มีโพรเซสเดียวที่ทำหน้าที่ดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
  • Tile ทุกตัวจะถูกแคชเพื่อประสิทธิภาพที่ดี มันไม่ใช่แอพ แต่ทำหน้าที่เป็นเหมือนช่องทางแสดงข้อมูลของแอพเท่านั้น

การปรับแต่ง Start Screen

  • ไมโครซอฟท์เคยคิดจะเตรียมช็อตคัตของแอพไว้ใน Tile ให้อัตโนมัติ แต่ผลการทดสอบพบว่าผู้ใช้ไม่ชอบให้คิดแทน
  • ไมโครซอฟท์จะเพิ่มวิธีการจัดระเบียบ Tile ไว้ให้หลายอย่าง เช่น การจัดกลุ่ม ตั้งชื่อกลุ่ม (ไม่ตั้งก็ได้ถ้าไม่ชอบ) ซูมเข้าออกเพื่อดูภาพรวมได้

การค้นหาข้อมูล

ไมโครซอฟท์แยกส่วนของ Search ออกมาจาก Start Menu เพราะของเดิมมีเนื้อที่แสดงผลจำกัดมาก ของใหม่จะแสดงผลเต็มจอ และแยกแยะประเภทของเนื้อหาด้วยไอคอน-ข้อความที่เหมาะสมมากขึ้น เช่น อีเมลจะบอกว่ามาจากใคร วิดีโอจะบอกความยาว รูปภาพจะแสดงรูปขนาดย่อ

รายละเอียดอื่นๆ (ค่อนข้างยาว) อ่านกันต่อตามที่มาครับ

ที่มา - Building Windows 8

Blognone Jobs Premium
Loading