เบื้องหลังการปรับปรุง Task Manager บน Windows 8

by nuntawat
15 October 2011 - 22:03

ไมโครซอฟท์ได้ออกมาเล่าเบื้องหลังการปรับปรุง Task Manager บน Windows 8 ซึ่งก็เป็นหนึ่งในการปรับปรุงที่สำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่ง

Task Manager เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ตัวหนึ่งที่มากับระบบปฏิบัติการ Task Manager ปรากฏโฉมใน Windows 3.x เป็นครั้งแรก โดยแต่เดิมนั่นมีวตถุประสงค์เพื่อใช้สลับหรือปิด (end task) โปรแกรมที่เปิดอยู่ได้ และนับตั้งแต่นั่นเรื่อยมา Task Manager ก็ได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเติมฟังก์ชันเรื่อยมาจนถึง Windows รุ่นปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่แทบไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือหน้าตาของ Task Manager นั่นเอง

ไมโครซอฟท์ก็ต้องการปรับปรุง Task Manager เช่นกัน เลยได้สำรวจผู้ใช้งานว่าใช้ทำอะไรบ้าง ไมโครซอฟท์จะได้ปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องต่อไป

ผู้คนใช้ Task Manager อย่างไรบ้าง

  • ผู้ใช้เรียกดูแท็บ Applications และ Processes มากที่สุด โดยแท็บ Applications นั่นผู้ใช้เรียกเพื่อปิดโปรแกรม (end task) มากที่สุดและแท็บ Processes ผู้ใช้ก็เรียกเพื่อปิดโปรเซส (end process) มากที่สุด (ไม่ต้องสำรวจก็น่าจะรู้นะ! :X)
  • แท็บ Processes ผู้ใช้เลือกจัดเรียงข้อมูลตามคอลัมน์ CPU Usage, Private Working Set, ImageName มากที่สุด

เป้าหมายของ Task Manager แบบใหม่

  1. ปรับแต่ง Task Manager ให้รองรับกับสถานการณ์ที่ผู้ใช้ต้องการเรียกใช้ (ต้นฉบับเรียก scenario) มากที่สุด
  2. ใช้การออกแบบการนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศที่ดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียกใช้ตามแต่ละสถานการณ์
  3. ไม่ตัดฟังก์ชันใดทิ้งเลย

ไมโครซอฟท์จึงได้ออกแบบ Task Manager ใหม่ ให้สามารถขยาย/ย่อรายละเอียด (More/Fewer details) ได้ แบบเดียวกับหน้าต่างที่ใช้กับการคัดลอกไฟล์ (บทความเก่า)

รูปที่ 1 เมื่อผู้ใช้เรียก Task Manager ขึ้นมาจะอยู่ในมุมมองดีฟอล์ต และเมื่อผู้ใช้กดปุ่มขยายดูรายละเอียด Task Manager จะปรากฏดังรูปที่ 2

รูปที่ 2 Task Manager ในมุมมองดูรายละเอียด และเมื่อผู้ใช้กดปุ่มย่อ Task Manager จะปรากฏดังรูปที่ 1

สถานการณ์ที่ 1: การหยุดการทำงานของโปรเซสที่ค้างอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • ไมโครซอฟท์ได้ออกแบบมุมมองดีฟอล์ตเพื่อการปิดโปรแกรมที่ค้างอยู่ (not responding) โดยเฉพาะ
  • มุมมองดีฟอล์ตจะแสดงเฉพาะโปรแกรมเท่านั้น ไม่ได้แสดงจำนวนโปรเซสหรือจำนวนหน้าต่างของโปรแกรมที่ค้างอยู่
  • เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม End Task แล้วโปรแกรมที่ผู้ใช้เลือกจะถูกปิดทันที ไม่มีการถามให้ยืนยันว่าจะให้ปิดหรือไม่ และไม่เตือนให้ผู้ใช้บันทึกข้อมูลก่อนปิดโปรแกรม

สถานการณ์ที่ 2: การวิเคราะห์ปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง

  • ในแท็บ Processes

    • จัดกลุ่มโปรแกรมและ/หรือโปรเซสเป็นกลุ่มตามชนิดของมัน อาทิ Applications, Background Processes, Windows Processes เป็นต้น โดยโปรเซสที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง (background process) จะแสดงเป็นชื่อของโปรเซสไม่ใช่ชื่อไฟล์ของโปรเซส (อาทิ แสดง "Print driver host for applications" แทนที่จะเป็น "splwow64.exe")
    • จัดกลุ่มหน้าต่างของโปรแกรมให้อยู่ในหมวดโปรแกรมนั่น (อาทิ เราเปิดหน้าต่างเขียนอีเมลของ Microsoft Outlook 5 หน้าต่าง หน้าต่างทั้งหมดจะถูกรวมกลุ่มเข้ากับโปรแกรม Microsoft Outlook)
    • แสดงค่าเปอร์เซ็นต์ของการใช้ซีพียู, การใช้เมมโมรี่, การอ่าน/เขียนข้อมูลกับดิสก์ และ เน็ตเวิร์คแบนวิดธ์ บนสีพื้นหลังแตกต่างกัน โดยสีพื้นหลังจะเป็นสีเข้มเมื่อโปรแกรมและ/หรือโปรเซสใช้ทรัพยากรเครื่องมากผิดปกติ
    • แสดงชื่อที่แท้จริงของโปรเซสประเภท Service Host (เสียที!) ไม่ต้องมานั่งงงว่า "svchost.exe" คืออะไรอีกต่อไป
  • เมื่อทรัพยากรประเภทใดก็ตาม (ซีพียู, เมมโมรี่, ดิสก์ และ เน็ตเวิร์คแบนวิดธ์) มีการใช้งาสูงผิดปกติ หัวของคอลัมน์ดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้ม เพื่อให้สะดุดตาและให้ผู้ใช้สังเกต resource ที่กินทรัพยากรนั่นผิดปกติ

รูปที่ 3 การจัดกลุ่มโปรแกรมและหน้าต่างของแต่ละโปรแกรมให้เป็นหมวดหมู่

รูปที่ 4 การแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าทรัพยากรบางตัวมีการใช้งานผิดปกติ

รายละเอียดทั้งหมดติดตามได้ที่ที่มาของบทความครับ

ที่มา: Building Windows 8

Blognone Jobs Premium