เมื่อปี ค.ศ. 2008 ไอบีเอ็มเซ็นสัญญากับหน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (หรือ DARPA) ว่าจะพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังเพตาฟลอปชื่อ Blue Water ให้เร็วกว่า Roadrunner ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในสมัยนั้น (ข่าวเก่า) โดยไอบีเอ็มได้พัฒนา Blue Water มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเดือนสิงหาคมปีนี้ ไอบีเอ็มได้ยุติสัญญาที่จะพัฒนา Blue Water ต่อไป สาเหตุเพราะไอบีเอ็มไม่ได้กำไรจากโครงการนี้ ในแหล่งข่าวกล่าวว่าเป็นการถอนตัวที่น่าอัปยศอดสูของไอบีเอ็มกันเลยทีเดียว
หลังการถอนตัวของไอบีเอ็ม หน่วยงาน National Center for Supercomputing Applications (NCSA) และ National Science Foundation (NSF) ได้ค้นหาบริษัทเจ้าใหม่ที่จะมารับช่วงต่อ และในที่สุดก็ได้บทสรุปว่า บริษัทเครย์จะได้รับงบประมาณจาก NSF จำนวน 188 ล้านเหรียญเพื่อพัฒนา Blue Water ให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ Blue Water ชุดใหม่จะใช้ระบบการประมวลผลลูกผสม Cray XE6 และ Cray XK6 ที่ติดตั้งซีพียูจาก AMD และจีพียูจาก NVIDIA (Blue Water ชุดเดิมของไอบีเอ็มใช้โปรเซสเซอร์ POWER7) โดยเครย์มีนัดส่งมอบ Blue Water ที่มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 11.5 เพตาฟลอปให้กับมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ในปีหน้า และ Blue Water จะถูกนำไปใช้ในงานทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เช่น การพยากรณ์อากาศ โลกศาสตร์ วิทยาศาสตร์แห่งชีวิต และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เป็นต้น
บริษัทเครย์ประเมินว่า Blue Water ชุดใหม่จะประกอบด้วยซีพียูกว่า 49,000 หน่วย และจีพียูกว่า 3,000 หน่วย โดยเครย์จะเลือกใช้ซีพียูตระกูล Interlagos หรือ AMD Opteron 6276 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ 16 คอร์ที่ให้ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2.3 กิกะเฮิรตซ์ และเลือกใช้จีพียู NVIDIA ตระกูล Kepler ซึ่งเป็นรุ่นถัดจาก Fermi นอกจากนี้ Blue Water จะติดตั้งหน่วยความจำมากกว่า 1.5 เพตาไบต์ (หรือหนึ่งล้านห้าแสนกิกะไบต์) พร้อมด้วยช่องทางลำเลียงข้อมูลเข้าออกที่ 1 เทราไบต์ต่อวินาที และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกกว่า 25 เพตาไบต์
ที่มา - HPCwire