บริการด้านเพลงถือเป็นจิ๊กซอที่ขาดหายไปของกูเกิลมาโดยตลอด ในขณะที่คู่แข่งต่างมีบริการด้านนี้กันพร้อมสรรพ เริ่มตั้งแต่ แอปเปิลมีฐานอันเข้มแข็งบน iTunes, ไมโครซอฟท์มีแพลตฟอร์ม Zune ของตัวเอง และปิดท้ายด้วย MP3 Store/Cloud Player ของ Amazon
เมื่อการแข่งขันยิ่งรุนแรง กูเกิลก็ต้องสร้างบริการเพลงออนไลน์ของตัวเองขึ้นมาสู้ และช่วงเดือน พ.ค. ในงาน Google I/O 2011 เราก็เห็นจิ๊กซอชิ้นแรก Google Music Beta ที่ผู้ใช้สามารถอัพโหลดเพลงของตัวเองขึ้นไปเก็บไว้บนกลุ่มเมฆของกูเกิล จากนั้นฟังบนอุปกรณ์ไหนก็ได้แบบสตรีมมิ่ง
แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือ "ร้านขายเพลง" ที่เทียบเท่า iTunes Store หรือ Amazon MP3 Store ซึ่งเมื่อคืนนี้กูเกิลก็เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้ชื่อรวมๆ ว่า Google Music (ไม่มี Beta แล้ว)
แกนกลางหลักของ Google Music คือการสร้างไลบรารีหรือคลังเก็บเพลงของเราบนกลุ่มเมฆของกูเกิล แล้วฟังจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์พกพาหรือหน้าเว็บ เพลงจะถูกดาวน์โหลดมาบนเครื่องแบบสตรีมมิ่ง หรือจะเซฟบางเพลงเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ก็ได้
Google Music Beta เปิดให้ผู้ใช้เป็นฝ่ายอัพโหลดเพลงขึ้นไปเก็บไว้บนกลุ่มเมฆเอง (จำกัด 20,000 เพลง) แต่ในรุ่นจริง กูเกิลก็เปิดให้ซื้อเพลงจากร้าน Google Music ได้แบบเดียวกับ iTunes Store/Amazon MP3 โดยอินเทอร์เฟซหน้าร้านจะใช้ระบบของ Android Market (เปลี่ยนเป็นซื้อเพลงแทนซื้อแอพ) ทั้งผ่านหน้าเว็บหรือผ่านแอพของ Market ก็ได้
เพลงจะขายราคา 0.99-1.29 ดอลลาร์ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ไฟล์ที่ได้จะเป็น MP3 คุณภาพ 320 kbps ตอนนี้กูเกิลทำข้อตกลงกับ 3 ค่ายเพลงใหญ่คือ Universal Music Group, Sony Music Entertainment, EMI (ขาด Warner Music) และค่ายเล็ก/ค่ายอินดี้อื่นๆ อีกมาก สรุปว่าตอนนี้มีเพลงให้เลือกซื้อ 1.4 ล้านเพลง
ในช่วงเปิดตัว กูเกิลทำข้อตกลงกับศิลปินดังๆ บางรายอย่าง The Rolling Stones, Coldplay, Shakira ให้นำบางเพลงมาขายเฉพาะบน Google Music เป็นการเรียกลูกค้า
ฟีเจอร์เสริมอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือระบบแนะนำเพลงใหม่ โดยอิงจากประวัติเพลงที่เราฟังในปัจจุบัน อันนี้จะคล้ายๆ กับ Last.fm หรือ Genius Mixes ของ iTunes
ทั้งหมดที่ว่ามาข้างบนเป็นสิ่งที่ร้านขายเพลงของคู่แข่งทำได้กันหมดแล้ว การเปิดตัว Google Music ครั้งนี้จึงเป็นการตีเสมอคู่แข่งว่าฉันก็ทำได้เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เด่นที่ไม่เหมือนใครของ Google Music คือการแชร์เพลงให้เพื่อนฟังผ่าน Google+ ซึ่งเพื่อนของเราสามารถฟังได้ทั้งเพลง เพียงแต่จะจำกัดให้ฟังได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
แชร์อย่างไรก็ดูจากวิดีโอกันเองครับ
สุดท้ายก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้อ่านชาวไทยทุกท่านอีกครั้ง เพราะบริการนี้ยังเปิดเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น ระหว่างนี้ก็ลองดู เดโมของ Google Music กันไปพลางๆ ครับ (เว็บไซต์หลายแห่งมีรีวิวการใช้งานแล้ว)
ที่มา - Official Google Blog