ข่าวใหญ่ของวงการโทรคมนาคมในปีนี้คือ AT&T บรรลุข้อตกลงซื้อ T-Mobile USA จากบริษัทแม่ Deutsch Telekom ในเยอรมนี ด้วยมูลค่า 39 พันล้านดอลลาร์
เรื่องนี้ผู้ซื้อ-ผู้ขายตกลงกันได้แล้ว แต่การซื้อกิจการยังไม่สิ้นสุดโดยง่ายเพราะเป็นดีลใหญ่ที่มีผลกระทบมาก (เพราะตลาดโทรคมนาคมสหรัฐจะมีผู้แข่งเล่นลดลงไป 1 ราย) ทำให้ต้องรออนุมัติจากองค์กรภาครัฐของสหรัฐหลายแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม (ซึ่งก็ไม่เห็นด้วย) และ FCC (กสทช. ของสหรัฐ)
หลัง FCC ตรวจสอบรายละเอียดของการซื้อกิจการมาได้สักพักหนึ่ง ก็ออกมาประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการควบกิจการครั้งนี้ เพราะประเมินแล้วว่าการควบกิจการจะทำให้สภาพการแข่งขันในตลาดลดลง และไม่สามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ได้จริงตามที่ AT&T กล่าวอ้าง
FCC ไม่มีอำนาจคัดค้านการควบกิจการครั้งนี้โดยตรง (แต่มีอำนาจอนุมัติ) แต่ประกาศว่าจะนำเรื่องเข้ากระบวนการทางศาลปกครอง (administrative hearing) ซึ่ง FCC ก็ระบุว่าจะรอให้กระบวนการทางศาลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (ที่ร้องขอศาลให้บล็อคการควบกิจการเช่นกัน) ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเสร็จสิ้นก่อน
ตอนนี้สถานะของดีล AT&T/T-Mobile ยังอยู่ในขั้น "รอการอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐ" เช่นเดิม แต่ทิศทางของความเห็นที่ออกมาไม่เป็นผลดีต่อ AT&T อย่างสิ้นเชิง
โฆษกของ AT&T ให้สัมภาษณ์ว่าผิดหวังกับท่าทีของ FCC ที่สกัดกั้นการลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังตกต่ำ และล่าสุด AT&T ดึงเรื่องที่ยื่นขออนุมัติจาก FCC กลับมาคืนแล้ว (อนาคตยังสามารถยื่นกลับมาใหม่ได้)
ถ้าดีลนี้ล้มจริง (ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกเป็นปีกว่าจะยุติ) AT&T จะต้องจ่ายค่าเสียโอกาสให้กับ Deustsch Telekom เป็นเงินถึง 3 พันล้านดอลลาร์ (จากมูลค่าการซื้อกิจการทั้งหมด 39 พันล้านดอลลาร์)