บริษัทวิจัย Distimo ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการขายแอพบนมือถือโดยเฉพาะ ออกรายงานประจำปี 2011 รวบรวมสถิติในภาพรวมของการขายแอพบนมือถือตลอดทั้งปี (นับจาก ม.ค.-พ.ย.)
รายงานฉบับเต็มต้องซื้อ แต่รายงานฉบับย่อที่แจกให้ดาวน์โหลดฟรี (Distimo Publication) ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่น้อย นักพัฒนาแอพมือถือในบ้านเราสมควรดาวน์โหลดมาอ่านกันครับ
สถิติของ Distimo รวบรวมจากร้านขายแอพ 7 รายใหญ่ ได้แก่ App Store for iPhone, App Store for iPad, Amazon Appstore, BlackBerry App World, Android Market, Ovi Store และ Windows Phone 7 Marketplace โดยเน้นไปที่ตลาดแอพในสหรัฐเป็นหลัก
จำนวนแอพของร้านค้าแต่ละแห่งก็ตามความคาดหมาย โดย App Store for iPhone ยังนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนอันดับสองเป็นของ Android Market ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และอันดัมสาม iPad ที่ทิ้งอันดับต่อๆ มาอย่างมีนัยยะสำคัญ
อัตราการเติบโตของแอพในปี 2011 ถือว่าน่าสนใจ เพราะทุกร้าน (ยกเว้น App Store for iPhone) เติบโตขึ้นเท่าตัวในเรื่องจำนวนแอพ และนับรวมแอพจากทุกร้าน (ซึ่งอาจจะซ้ำกัน) ก็มีจำนวนเกิน 1 ล้านแอพแล้ว
ร้านขายแอพที่เติบโตเร็วที่สุดคือ Windows Phone 7 Marketplace ที่โต 400%
แอพฟรี
ถ้าพิจารณาเฉพาะแอพที่แจกฟรี สถานการณ์จะต่างออกไป เพราะ Android Market แซงหน้า App Store for iPhone ในช่วงกลางปีนี้ และ Windows Phone 7 Marketplace ก็แซง BlackBerry App World ในช่วงกลางปีเหมือนกัน
เกม
เกมยังเป็นแอพกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยร้านขายแอพที่มีเกมเยอะสุดยังเป็น iPhone, Android, iPad ตามลำดับ
ส่วนร้านที่เล็กกว่านั้นก็มีสัดส่วนตามกราฟ นั่นคือ Windows Phone 7 Marketplace ตามมาเป็นอันดับสี่ (เป็นผลมาจาก Xbox สินะ) อีกรายที่น่าสนใจคือ Amazon Appstore ที่มาแรง แถมช่วงหลังยังได้เกมแบบ exclusive บน Android หลายเกม และน่าจะมาแรงต่อไปในปีหน้า
รูปแบบการทำรายได้ของแอพมือถือ เริ่มเปลี่ยนจากการขายแอพขาด มาเป็นการขายฟีเจอร์-เนื้อหาภายในแอพ (in-app purchase หรือ freemium) แทนแล้ว
Distimo นำแอพยอดนิยม 200 ตัวแรกของ App Store for iPhone มาดูว่าแอพส่วนใหญ่หารายได้ด้วยวิธีไหน ก็พบว่า in-app purchase ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอยู่จุดสูงสุดที่ 53% เมื่อเดือนกันยายน
ส่วนแนวโน้มบน Android Market ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก เพราะในแอพ 200 ตัวแรกของ Android Market มีแอพถึง 65% ที่หาเงินด้วยวิธีนี้
มาดูรายได้เป็นตัวเงินกันบ้าง Distimo นำแอพที่ทำรายได้สูงสุด (highest grossing) ทั้งแบบขายแอพขาดและแบบ in-app purchase ของร้านค้าสามรายใหญ่มาเทียบกัน พบว่า App Store for iPhone ยังทำรายได้สูงสุด ตามด้วย App Store for iPad และ Android Market
ถ้าเทียบสัดส่วนกันแล้ว
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือยอดดาวน์โหลดในแต่ละเดือน ซึ่งกรณีของ iPhone/iPad เห็นได้ชัดเจนว่า ก่อนที่แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone/iPad รุ่นใหม่ ยอดดาวน์โหลด (ทั้งแอพฟรีและแอพขาย) จะตกลงต่ำสุด แต่จะพุ่งขึ้นทันทีหลังผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่วางขายแล้ว
ยอดดาวน์โหลดแอพจากประเทศจีนถือว่าเติบโตรวดเร็วมาก ถ้าเทียบกับยอดดาวน์โหลดในสหรัฐ ตัวเลขของจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว (สำหรับ iPhone สัดส่วนเดือนมกราคมคือ สหรัฐ:จีน 82:18 แต่ในเดือนพฤศจิกายน สัดส่วนเปลี่ยนเป็น 70:30)
อย่างไรก็ตาม รายได้จากประเทศจีนยังเติบโตไม่เยอะตามยอดดาวน์โหลด ซึ่งสถานการณ์จะเปลี่ยนไปถ้าหากผู้บริโภคชาวจีนสามารถซื้อแอพเป็นเงินหยวนได้
สุดท้าย Distimo จัดอันดับแอพยอดนิยมโดยวัดจากยอดการดาวน์โหลด (ทั้งรุ่นฟรีและรุ่นขาย) แชมป์เป็นของ Angry Birds ตามคาด ที่เหลือตามมาด้วย Facebook และ Skype
ที่มา - Distimo