ช่วงเดือนที่ช่วงเดือนที่ผ่านมา โทรศัพท์รุ่นใหญ่ๆ เปิดตัวกันหลายรุ่น ที่เราเห็นข่าวกันมากๆ คงเป็น iPhone 4S กับ Galaxy Nexus แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา HTC ก็เปิดตัวรุ่นสูงอีกตัวหนึ่งมาด้วยคือ HTC Sensation XL ที่มาพร้อมกับหูฟัง Beats ผมเองไม่ได้จับโทรศัพท์ HTC มานานพอสมควร พอได้รับการติดต่อจากทางตัวแทนว่ามีเครื่องให้ยืมจึงขอมาลองเล่น และผลที่ได้คือบททดสอบสั้นๆ นี้
เนื่องจากปรกติผมเป็นคนใช้โทรศัพท์รุ่นเล็ก Sensation XL จึงให้ความรู้สึกว่า "หนัก" กว่าปรกติมาก แต่สำหรับรุ่นใหญ่ๆ น้ำหนัก 162 กรัม เทียบกับ Google Nexus ที่หนัก 145 กรัมก็ถือว่าหนักกว่าพอสมควร แต่ทั้งสองรุ่นก็หนักเกินไปสำหรับผมที่จะใส่กระเป๋าเสื้อทั้งคู่ (เครื่องหลักที่ผมใช้หนัก 105 กรัม)
หน้าจอขนาด 4.7" ถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ ขนาดนี้ใช้ถือว่า "เต็มตา" ดี หน้าจอ S-LCD อาจจะให้สีไม่สดเกินจริงนัก แต่หลายๆ คนรอบตัวผมก็บอกตรงกันว่าเป็นโทรศัพท์ที่จอภาพสวยงาม และให้สีที่ค่อนข้างตรงกับความเป็นจริง
ตัวถังภายนอกอยู่ในระดับน่าประทับใจ จับแล้วแน่น ไม่มีตรงไหนยุบยวบยาบให้เห็น อาจจะเป็นสิ่งที่แลกมาด้วยน้ำหนัก แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนเน้นโทรศัพท์เบาที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ความแน่นในการจับถือก็น่าจะทำให้มันน่าสนใจขึ้นมาก
ซีพียู Qualcomm MSM8255 ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 1.5 GHz ตอบสนองการใช้งานได้ค่อนข้างดี มีจังหวะกระตุกบ้างนานๆ ครั้งแต่โดยทั่วไปถือว่าการใช้งานลื่นดี
ถัดจากเรื่องฮาร์ดแวร์ ก็เป็นเรื่อง HTC Sense ที่สร้างชื่อให้กับ HTC ในสมัยที่ระบบ UI ของแอนดรอยด์ยังแย่เกินใช้งานปรกติ วันนี้ UI ของแอนดรอยด์ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนของ Sense ก็พยายามจะหนีออกไปด้วยการเพิ่มบริการ HTC Sense ให้สามารถเข้ามารีโมทควบคุมเครื่องได้ ถ้าต้องการ
แต่ในแง่การใช้งานทั่วไปแล้ว Sense กลับไม่สามารถหนีหน้าจอปรกติไปได้ดีนัก หน้าจอล็อก ที่สามารถเข้าถึงงานที่ใช้บ่อยเช่น โทรศัพท์, อีเมล, และกล้องถ่ายรูป กลับใช้งานลำบากขึ้นเมื่อตั้งระบบล็อกหน้าจอซึ่งผมใช้งานตลอดเวลา คงน่าสนใจกว่านี้หากผมสามารถกดถ่ายรูปได้เลยโดยไม่ต้องปลดรหัสอีกในกรณีต้องการรีบใช้งาน
หน้าจอมาตรฐานนั้น สร้างความคุ้นเคยให้กับคนใช้งาน Sense เป็นอย่างดี ต้องชม HTC ว่าคิดได้แต่แรกๆ ว่าต้องเอาปุ่ม "โทรศัพท์" มาไว้ที่เดียวเสมอ คือด้านล่างหน้าจอ แต่เรื่องที่รู้สึกรำคาญใจคือปุ่ม Personalize ที่ใช้งานน้อยมาก กลับมาครองพื้นที่บนหน้าจอตลอดเวลาทั้งที่ควรเอาไปซ่อนได้
เมนูเร่งด่วนของ Sense รุ่นใหม่นั้นมีเรื่องน่ารำคาญเล็กน้อยคือต้องลากหน้าจอ Notification ลงมาแล้วเลือกแท็บ Quick Settings แทนที่จะวางไว้ด้านบนหน้าจอเลย แต่กลับเอาส่วนเลือกโปรแกรมที่ใช้งานน้อยกว่ามาวางไว้แทน เรื่องที่สร้างความหงุดหงิดอีกอย่างหนึ่งคือไม่มีปุ่มเลือกล็อกการหมุนหน้าจอให้ในส่วนเมนูเร่งด่วนนี้ ทำให้ต้องเข้าหน้า Settings เอง ทั้งที่เป็นฟีเจอร์ที่ผมใช้งานบ่อย โดยเฉพาะตอนอ่านหนังสือ
หูฟังที่แถมมาเป็นรุ่นเฉพาะแต่ก็คล้ายๆ กับรุ่น ibeats มันให้เสียงที่ค่อนข้างหนักไปทางเสียงเบสพอสมควร ถ้าใครชอบเบสเยอะๆ ก็คงชอบเสียงของตัวนี้กัน เช่นเดียวกับการเลือกซื้อหูฟังทั่วไป ที่ต้องขึ้นกับรสนิยมส่วนตัวค่อนข้างมาก ถ้าใครคิดว่าจะซื้อ Sensation XL ด้วยเรื่องเสียง แนะนำให้พกเพลงที่ชอบไปฟังด้วยเลย แต่สำหรับตัวผมเองที่ชอบหูฟังเสียงเรียบ (flat) คิดว่าเสียงเบสมันมากไปสักหน่อย
กลายเป็นเรื่องปรกติไปแล้วที่โทรศัพท์ยุคใหม่ๆ รุ่นสูงๆ จะโชว์ความสามารถเรื่องกล้องกัน ส่วนตัวผมค่อนข้างพอใจกับคุณภาพภาพที่ได้จาก HTC Sensation XL ค่อนข้างมาก การโฟกัสยังช้าและใช้เวลานานไปสักหน่อยในบางครั้ง แต่เมื่อโฟกัสได้ภาพที่ออกมาก็อยู่ในระดับใช้งานได้ดี
หลังจากได้จับและใช้งานมันอยู่หนึ่งสัปดาห์เต็ม ความประทับใจจาก Sensation XL คงเป็นเรื่องของความแน่นของตัวเครื่องตั้งแต่ได้จับครั้งแรกมันทำให้เครื่องดูสมราคากว่าสองหมื่นบาทของมันได้อย่างดี ฮาร์ดแวร์ภายทั้งหมดเมื่อรวมๆ กับหูฟัง Beats แล้วก็ทำให้ราคารวมไม่ได้แพงกว่าเครื่องระดับเดียวกันนัก แต่ในส่วนของซอฟต์แวร์อาจจะต้องเป็นการบ้านให้กับ HTC ว่า Sense ที่เคยเป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้ในการใช้งานแอนดรอยด์ ในวันนี้มันยังเป็นสิ่งที่สร้างความได้เปรียบให้กับ HTC หรือไม่ หาก HTC กลับมาสร้างความได้เปรียบให้กับ Sense ได้มากกว่านี้ Sensation XL ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดมากกว่านี้