การ์ตเนอร์ระบุ ตลาดพีซีถึงช่วงขาลงแล้ว

by lew
12 January 2012 - 01:33

การบุกตลาดของแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือที่เริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งคำถามว่าพีซีเติมๆ นั้นจะถูกกินตลาดไปบ้างหรือไม่ และตัวเลขสำรวจตลาดไตรมาสที่ 4 ของปี 2011 ก็ออกมาแล้วว่าตลาดพีซีนั้นกำลังหดตัวลงไป 5.9% ในสหรัฐฯ และ 1.4% ในตลาดโลก

คนที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุดจากความเปลี่ยนแปลงของตลาดคือ HP ที่ครองตลาดพีซีอันดับหนึ่งของโลก โดยยอดขายของ HP นั้นอยู่ที่ 14.7 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี 2011 ขณะที่ปี 2010 นั้นมียอดขายถึง 17.5 ล้านเครื่อง ส่วนบริษัทที่ยอดขายยังดีมากคือ Lenovo ที่เติบโต 23% มาเป็น 12.9 ล้านเครื่องในปี 2011 จากเดิม 10.5 ล้านเครื่อง Apple เติบโตขึ้นเป็น 2.1 ล้านเครื่องจาก 1.7 ล้านเครื่อง และ Asus เติบโตขึ้นเป็น 6.2 ล้านเครื่องจากเดิม 5.2 ล้านเครื่อง

ความเปลี่ยนแปลงของตลาดเช่นนี้กำลังแสดงให้เห็นว่าตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเปลี่ยนไป กระทบพันธมิตรรายใหญ่ของตลาดพีซีนั่นคือ อินเทลและไมโครซอฟท์ที่ผลประกอบการส่วนมากผูกกับยอดขายพีซีโดยตรง โดยหากแนวโน้มนี้ยังคงต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไป (ซึ่งน่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะคนหันไปใช้แท็บเล็ตแทนพีซีมากขึ้นเรื่อยๆ) สองบริษัทนี้จะต้องต่อสู้กับคู่แข่งคือ ARM, iOS และ Android อย่างหนัก และไม่สามารถคงสถานะที่ทำกำไรสูงๆ ได้อีกต่อไป

อาจจะต้องรอดูว่า Ultrabook ที่อินเทลหวังไว้นักหนาว่าจะกลับมากอบกู้สถานะการณ์ได้หรือไม่ แต่ความเห็นของผมคือตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วจากการที่อินเทลปรับตัวช้าเกินไป ผู้คนเริ่มชินกับการทำงานบน Android หรือ iOS กันมากขึ้นโดยสนใจวินโดวส์กันน้อยลง Ultrabook น่าจะช่วยได้เพียงชะลอความเปลี่ยนแปลงนี้เท่านั้น

ที่มา - TechCrunch

Blognone Jobs Premium