แอปเปิลกับตัวเลขไตรมาสล่าสุดที่ไม่มีสตีฟ จ็อบส์ - iPhone, iPad, Mac ทำสถิติยอดขายสูงสุดใหม่

by arjin
25 January 2012 - 00:13

แอปเปิลรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 สิ้นสุดเดือนธันวาคมตามปฏิทินการเงินบริษัท มีรายได้รวม 4.633 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 73% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเป็นกำไรสุทธิ 1.306 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 131% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 44.7% ปัจจุบันรายได้ของแอปเปิลจากตลาดในต่างประเทศคิดเป็น 58% ของรายได้รวมทั้งหมด

สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์ในไตรมาสนี้ iPhone ขายได้ 37.04 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 128%, iPad ขายได้ 15.43 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 111%, Macs 5.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 26% ส่วน iPod อยู่ที่ 15.4 ล้านเครื่อง ลดลง 21%

ซีอีโอทิม คุกกล่าวในเอกสารแถลงผลประกอบการว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นกับผลงานอันเยี่ยมยอดนี้ และสถิติยอดขายใหม่ทั้ง iPhone, iPad และ Mac แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสินค้ากลุ่มแอปเปิล นอกจากนี้เรายังมีผลิตภัณฑ์ใหม่รออยู่อีกในอนาคต"

และเช่นเคยครับ เนื้อหาเพิ่มเติมจากช่วงการแถลงผลประกอบการและตอบคำถามกับนักลงทุนโดยซีอีโอ ทิม คุก และซีเอฟโอ Peter Oppenheimer

* Oppenheimer บอกว่าตัวเลขยอดขายไตรมาสที่ผ่านมาจะสูงกว่าปกติเพราะมี 14 สัปดาห์
* เงินสดยังคงท่วมท้น เพิ่มขึ้นมาเป็น 9.76 หมื่นล้านดอลลาร์ (ไตรมาสที่แล้ว 8.1 หมื่นล้าน)
* Oppenheimer ยังปฏิเสธแผนการจ่ายเงินปันผล บอกว่าทุกอย่างยังอยู่ในการพิจารณาอยู่
* iPod Touch ยังรักษาส่วนแบ่งยอดขายเกินครึ่งของ iPod ที่ขายได้ทั้งหมด
* Mac ยังเติบโตดี โดยเฉพาะ MacBook Pro กับ MacBook Air
* กว่าครึ่งของผู้ซื้อ Mac ไม่เคยใช้ Mac มาก่อน
* iTunes Store มีรายได้ 1.7 พันล้านดอลลาร์ มีเพลงให้เลือก 20 ล้านเพลง เฉพาะวันคริสต์มาสวันเดียวมียอดขายถึง 120 ล้านดอลลาร์
* iPhone 4S ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้ว 90 ประเทศ
* คุกบอกว่าการเดิมพันด้วยการสั่งชิ้นส่วนมหาศาลตุนไว้เพื่อผลิต iPhone นั้นเป็นการเดิมพันที่ได้ผล เพราะสุดท้ายความต้องการ iPhone ก็มีมหาศาลเหนือความคาดหมายจริงๆ
* ตัวเลขราคาขายเฉลี่ยของ iPhone เพิ่มขึ้นเป็น 660 ดอลลาร์ เป็นผลจาก iPhone 4S รุ่น 64GB
* Oppenheimer เผยชื่อบริษัทที่ใช้ iPhone ในองค์กรอย่างจริงจังแล้วอย่าง Royal Dutch Shell, Credit Suisse, Kimberly Clark, Nike และ Facebook
* มี iPad มากกว่า 1.5 ล้านเครื่องที่ใช้ในโรงเรียน
* iBooks Author มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 6 แสนครั้งแล้ว
* คุกเชื่อว่าตลาดแท็บเล็ตจะใหญ่กว่าตลาดพีซีในเร็วๆ นี้
* คุกกล่าวว่า iPad มีแอพแล้วว่า 7 หมื่นแอพ ส่วนบรรดาคู่แข่งยังมีแอพอยู่แค่หลักร้อยเท่านั้น ลูกค้าต้องการความหลากหลายมากกว่าแท็บเล็ตที่จำกัดการใช้งาน แถมเน้นให้ใช้เป็น e-reader (พูดถึง Kindle Fire)
* คุกกล่าวว่าปีที่ผ่านมาคงพิสูจนได้แล้วว่ามันเป็นปีของ iPad จริงๆ
* ตัวเลขรวมของอุปกรณ์ iOS ขายได้ 62 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา
* นักพัฒนามีรายได้รวมแล้วกว่า 4 พันล้านดอลลาร์จาก App Store
* ภาพรวมของอุปทานชิ้นส่วนยังเป็นปกติดี ยกเว้นฮาร์ดดิสก์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในไทย โดยแอปเปิลเลือกที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้มีของ
* ปัญหาฮาร์ดดิสก์ขาดตลาดยังไม่ส่งผลกับ Mac ในไตรมาสที่ผ่านมา แต่จะส่งผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้แน่
* Apple TV ขายได้ 1.4 ล้านเครื่องแล้ว คุกบอกว่าแอปเปิลยังมองมันเป็นงานอดิเรกอยู่ แต่จะไม่มีทางทิ้งมันแน่นอน เพราะยังสามารถต่อยอดทำอะไรได้มาก
* คุกบอกว่ากระแสตอบรับ iCloud ดีมากๆ สำหรับแอปเปิลแล้วนี่ไม่ใช่สินค้า แต่มันคือกลยุทธ์สำหรับสิบปีข้างหน้า
* บริษัท Anobit ที่เพิ่งซื้อมา จะเข้ามารวมอยู่กับทีมฮาร์ดแวร์ของ Bob Mansfield
* บราซิลคือตลาดเติบโตใหม่ที่แอปเปิลคาดหวังไว้ตอนนี้ต่อจากจีน
* ส่วนประเทศอินเดียนั้นยอดขายเติบโตถึง 3 เท่า แต่เมื่อเทียบกับรายได้แล้วยังน้อยมากๆ
* คุกบอกว่าจากข้อมูลที่เขามีแรงส่งให้คนที่มี iPad ไปซื้อ Mac นั้นยังไม่แรงเท่ากับที่ทำให้คนผละออกจากพีซีที่ใช้ Windows
* iPhone จะเป็นตัวเร่งที่ดีให้คนซื้อสินค้าตระกูลแอปเปิลมากขึ้น ซึ่งแอปเปิลเรียนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ iPod แล้ว
* คุกบอกว่าตัวเลขยอดขาย Android นั้นไม่ชัดเจนจึงบอกยากว่าใครเหนือกว่าใคร และไม่อยากให้มองเรื่องนี้เหมือนการต่อสู้ของ Mac กับ Windows เปรียบเหมือนสนามแข่งม้าที่ไม่ได้มีม้าแค่สองตัว แต่มีม้าหลายตัวก็พยายามช่วงชิงโอกาสเอาชนะ แอปเปิลก็เป็นม้าตัวหนึ่งที่เลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องสนใจว่าในสนามจะมีม้าอยู่กี่ตัว เพราะเป้าหมายคือขอให้เป็นที่หนึ่งเท่านั้น
* คุกปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่อง iPhone บนเครือข่าย 4G และเรื่องหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น

แอปเปิลประเมินยอดขายในไตรมาสปัจจุบันที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์แบบอนุรักษ์นิยมเช่นเคย โดยให้เหตุผลว่าเพราะไตรมาสที่ผ่านมาคำนวณ 14 สัปดาห์ แต่ไตรมาสนี้จะกลับมาเป็น 13 สัปดาห์ อีกทั้งไตรมาสที่ผ่านมาก็มี iPhone 4S ที่สร้างยอดขายได้รุนแรง สุดท้ายตัวเลขจะออกมาเป็นอย่างไรก็คงได้ทราบกันในอีกสามเดือนครับ

ที่มา: แอปเปิล, The Verge, Barron's และ Business Insider

Blognone Jobs Premium