แนวโน้มอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ก็คือกิจการรมเพื่อสังคม หรือที่ทุกวันนี้เราเรียกกันติดปากว่ากิจกรรม CSR ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ระดมกำลังตามสายงานที่ตัวเองถนัด มาช่วยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในด้านต่างๆ
หนึ่งในหน่วยงานที่ออกมาทำกิจกรรม CSR ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงที่ผ่านมาคือบริษัท โอสถสภา จำกัด ซึ่งคนไทยคุ้นเคยดีในฐานะบริษัทผลิตยาและเครื่องดื่ม (ผมก็เพิ่งรู้ว่าโอเล่นี่ของโอสถสภาเหมือนกัน)
โครงการ CSR ของโอสถสภามีชื่อว่า "โอสถสภาร่วมใจช่วยผู้ประสบภัย เพื่อชีวิตที่ดี...ยิ่งกว่า" โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟู้และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา ในเขตอุทกภัย 6 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และนครสวรรค์
โครงการนี้โอสถสภาจับมือกับหน่วยงานภาครัฐอีก 3 ราย คือ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และกองทัพบก โดยโอสถสภาเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายประมาณ 50 ล้านบาท และนำพนักงานที่มีจิตอาสาร่วมบำเพ็ญประโยชน์ด้วย
การดำเนินงานใช้วิธีแยกงานกันตามถนัด เช่น กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่สำรวจบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย กองทัพบกนำกำลังพลที่มีความชำนาญลงพื้นที่ซ่อมบ้านเรือน และนักเรียนอาชีวะจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ช่วยซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบประปา
โครงการนี้ได้ลงพื้นที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2554 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 157 ชุมชน รวมแล้ว 900 หลังคาเรือน และบูรณะซ่อมแซมโรงเรียนบางปะหันอีกหนึ่งแห่ง โดยนอกจาก 4 หน่วยงานข้างต้นแล้ว ยังมีศิลปิน ดารานักร้อง และนักกีฬาทีมชาติจากหลายสมาคม ร่วมทำกิจกรรมด้วย