หน้าเว็บ MSDN ที่อธิบายถึงอัพเดต Windows Phone SDK ตัวใหม่ ได้เปิดเผยข้อมูลว่าฮาร์ดแวร์ที่มาพร้อมกับแรม 256 เมกะไบต์ (สเปค Windows Phone "Tango" ในชื่อ Windows Phone "Mango") จะไม่รองรับการทำงาน background agent หรือการประมวลผลแบบเบื้องหลัง ซึ่งนี่ส่งผลให้แอพฯ ที่ทำงานทุกช่วงเวลาที่กำหนด หรือ แอพฯ ที่สามารถทำงานแบบเบื้องหลังขณะที่หน้าจอแอพฯ ไมได้แอกทีฟอยู่อย่างการเล่นเพลงนั้นอาจไม่สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์ดังกล่าว (ต้นฉบับใช้ mid-tier) ได้
หลายคนได้ตั้งคำถามว่าสิ่งนี้จะก่อให้เกิด fragmentation หรือไม่ ซึ่ง Justin Angel ที่ทำงานในตำแหน่ง principal engineer ที่โนเกียได้ทวีตแสดงความคิดเห็นว่าน่าจะมองเป็นเรื่องความแตกต่างของฮาร์ดแวร์มากกว่า เช่น บางรุ่นไม่มีกล้องหน้า บางรุ่นไม่มีไจโรสโคป เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการสนับสนุนการสลับไปมาระหว่างแอพฯ (fast app switching) หรือ push notification อย่าง live tile หรือ toast message จะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์ได้ระบุวิธีการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ก่อนเรียกใช้บางฟีเจอร์ที่ฮาร์ดแวร์กลุ่ม mid-tier ไม่สนับสนุนไว้ ใครสนใจสามารถติดดูได้จากหน้าเว็บ MSDN ครับ
ที่มา: WPCentral