เมื่อเดือนที่แล้ว ผมมีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ EMC ที่มาแถลงข่าวเรื่องผลประกอบการปี 2011 และทิศทางการทำธุรกิจของ EMC ในประเทศไทยปี 2012 ซึ่งก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพตลาดไอทีองค์กรในประเทศไทยมาพอสมควร เลยสรุปเนื้อหามาบางส่วนครับ
(จริงๆ สัมภาษณ์ตั้งนานแล้วแต่เพิ่งมีเวลาเรียบเรียง)
EMC เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่คนไอทีฝั่งองค์กรน่าจะเคยได้ยินหรือเคยสัมผัสกันมาบ้าง เพียงแต่ถ้าถามว่า EMC ทำธุรกิจอะไรบ้าง คนตอบได้อาจมีไม่เยอะนัก
EMC ถือเป็นบริษัทโซลูชันไอทีองค์กรขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง (พนักงานทั่วโลก 50,000 คน) และมีผลิตภัณฑ์ในเครือเป็นจำนวนมาก เพียงแต่นโยบายการออกผลิตภัณฑ์ของ EMC จะใช้แบรนด์ลูกนำหน้า ทำให้หลายครั้งเราอาจรู้จักตัวผลิตภัณฑ์ แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นของ EMC เนื่องจากบริษัทไม่ได้เน้นแบรนด์ของตัวเองมาก
ตัวผลิตภัณฑ์ที่แปะแบรนด์ EMC เองมีชื่อในเรื่องสตอเรจเป็นหลัก ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ ก็มีหลากหลาย ทั้ง RSA (ความปลอดภัย) Documentum (จัดการเอกสาร) Iomega (สตอเรจสำหรับองค์กรขนาดเล็ก ซื้อมาปี 2008) Greenplum (ฐานข้อมูล) และที่ดังหน่อยคือ VMware (EMC ถือหุ้นใหญ่ ที่เหลือขายให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์) ซึ่ง VMware เองก็มีบริษัทลูกในเครือของตัวเองอีกจำนวนหนึ่ง เช่น SpringSource, Mozy และ Zimbra
รายชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในเครือดูได้จาก EMC Products เห็นความยาวแล้วอาจจะตะลึง
คุณนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ EMC (ภาพจาก press photo)
เนื่องจาก EMC เป็นบริษัทข้ามชาติ ดังนั้นจะไม่เผยข้อมูลของผลประกอบการรายประเทศ แต่จะเป็นยอดรวมของสำนักงานใหญ่
ผลประกอบการโดยรวมของ EMC ในปี 2011 อยู่ที่ 18 พันล้านดอลลาร์ โตขึ้น 18% จากปี 2010 โดยมีกำไร 2.5 พันล้านดอลลาร์หรือเพิ่มขึ้น 30% (ตัวเลขกำไรขึ้นกับวิธีลงบัญชีที่แตกต่างกัน) จุดที่น่าสนใจคือไตรมาสที่สี่ของปี 2011 ซึ่ง EMC มีผลประกอบการรายไตรมาสดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยเฉพาะรายได้จากกลุ่ม VMware ที่โตถึง 27% ส่วนธุรกิจสตอเรจที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทโต 13% ตอนนี้เป็นผู้เล่นอันดับสอง มีส่วนแบ่งตลาดรวม 19.57% ของตลาดโลก
ภาพรวมของการทำธุรกิจในปี 2011 พบว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ตลาดไอทีองค์กรในยุโรปและญี่ปุ่นโตช้าลง แต่ตลาดที่โตมากคือเอเชียแปซิฟิก (โต 10.9%) และละตินอเมริกา (16.3%) ส่วนปี 2012 ก็ยังคาดว่าตลาดเอเชียแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่เติบโตสูงสุดคือประมาณ 7.3% (ตัวเลขทั้งหมดจาก Gartner)
ส่วนทิศทางของตลาดไอทีองค์กร จากงานวิจัยของ Pacific Crest ระบุว่าตลาดไอทีองค์กรสนใจ network security (firewall/UTM) มากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย virtualization, storage (SAN), private cloud และ data security ตามลำดับ
สำหรับตลาดไอทีประเทศไทยปี 2012 ทาง EMC มองว่าตลาดกำลังปรับเปลี่ยนไปสู่เทคโนโลยีใหม่อย่าง virtualization, cloud computing และ big data โดยมีประเด็นที่น่าจับตาดังนี้
ปัจจุบันธุรกิจของ EMC ในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์หลายตัวมาก เพราะบริษัทแม่ซื้อกิจการตลอดเวลา (ซื้อเยอะจริงแต่เป็นการซื้อที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักทั้งหมด) โดย EMC ประเทศไทยแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
Storage
ธุรกิจหลักของบริษัท แบ่งผลิตภัณฑ์เป็นหลายกลุ่มตามเซกเมนต์ของตลาด เช่น VMax (องค์กรขนาดใหญ่) VNX (องค์กรขนาดกลาง) และล่าสุดเพิ่งมี VNXe (องค์กรขนาดเล็ก) นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สตอเรจแบบแฟลชที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดองค์กร
Hybrid Cloud
EMC มองตลาดกลุ่มเมฆที่กำลังมาแรง ว่าผลิตภัณฑ์ในตลาดแบ่งออกเป็น 3 ชนิดกว้างๆ คือ
สำหรับตลาด hybrid cloud คือการขยายระบบไอทีองค์กรให้กลายเป็น private cloud ขององค์กร และเปิดให้เชื่อมกับ public cloud ได้ถ้าจำเป็นต้องใช้ ซึ่ง EMC ต้องการจับตลาดเหล่านี้ และปัจจุบันบริษัทก็มีฐานที่มั่นในด้าน virtualization ที่เปรียบได้เป็นลูกครึ่งของระบบไอทีภายในกับ private cloud อยู่แล้ว
Big Data
ตลาด Big Data กำลังมาแรงมากๆ ในรอบปีหลังๆ โดยแนวคิดของ Big Data จะเปลี่ยนวิธีคิดเชิงธุรกิจขององค์กร มากกว่าการเปลี่ยนระบบไอทีขององค์กร เพราะจะบีบให้องค์กรต้องคิดว่าพอสามารถประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมหาศาลได้แล้ว จะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างไรกันแน่ โดยที่ระบบไอทีเป็นส่วนเสริมเท่านั้น
ในส่วนของ EMC เองจะมีผลิตภัณฑ์ไว้รออยู่แล้ว ฝั่งฮาร์ดแวร์จะมีบริษัท Isilon ที่ทำระบบสตอเรจขนาดใหญ่มากๆ สำหรับองค์กร และในระดับการประมวลผลและวิเคราะห์ก็มี Greenplum ที่เป็นผู้นำด้าน datawarehouse engine อยู่แล้วเช่นกัน