เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว หนึ่งในแท็บเล็ต Android ตัวแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราคือ Acer Iconia A500 (รีวิว) ซึ่งก็เป็นอุปกรณ์ตัวแรกๆ ในขณะนั้นที่ใช้ชิป NVIDIA Tegra 2 ซึ่งแรงที่สุดในตอนนั้น
เวลาผ่านมาประมาณ 1 ปี โลกของแท็บเล็ตเปลี่ยนแปลงไปมาก Tegra 2 ไม่ใช่ชิปที่แรงที่สุดอีกต่อไปแล้ว และเราก็เห็นแท็บเล็ตที่ชิปตัวต่ออย่าง Tegra 3 ออกมาทำตลาดกันบ้างแล้ว (เช่น ASUS Transformer Prime หรือ Acer เองก็มี Iconia A510)
แต่ Tegra 2 ก็ยังไม่ล้มหายตายจากเราไป เพราะ Acer นำมันกลับมาผลิตเป็นแท็บเล็ตอีกครั้งในร่างใหม่ชื่อ Iconia Tab A200 ที่ราคาถูกลงมามาก (ราคาเต็มของไทยอยู่ที่ 12,900 บาทแบบของแถมเพียบ)
รอบนี้ Acer ประเทศไทยส่งของมาให้ผมลองเล่นดู ก็ขอเขียนถึงสักนิดหน่อยเป็นมินิรีวิวนะครับ
เราสามารถสรุปง่ายๆ ว่า A200 ในปีนี้คือ A500 กลับชาติมาเกิดใหม่ในบอดี้ใหม่ เพราะสเปกข้างในเหมือนกันเกือบหมด
จุดที่ต่างออกไปคือ
ดังนั้นสรุปว่าโดยรวมแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่นอกจาก ICS (ซึ่ง A500 จะได้ทีหลัง) และมีการลดสเปกของ A200 ลงในบางจุดเพื่อกดราคา ผมคิดว่าการตัดกล้องออกไปก็ไม่น่าจะกระทบอะไรมาก เพราะแท็บเล็ตรุ่น Wi-Fi ไม่ค่อยจะถูกพกพาออกไปไหนและใช้ถ่ายรูปสักเท่าไรอยู่แล้ว ส่วน Micro HDMI ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ใช้กันบ่อยมากนักอีกเช่นกัน
เนื่องจากผมมี A500 อยู่แล้ว ก็ขอรีวิวเทียบกันเลยนะครับจะได้เห็นภาพชัดเจน ขนาดโดยรวมของ A200 จะไม่ต่างอะไรจาก A500 มากนัก
ความหนาก็ใกล้เคียงกัน วางเทียบกันแล้วไม่เห็นความแตกต่าง
ขนาดในด้านยาวเท่ากันเป๊ะ ส่วนขนาดในด้านกว้าง A200 จะสั้นกว่า A500 เล็กน้อย ดังภาพ
โดยรวมแล้วแทบไม่มีอะไรแตกต่างในด้านขนาด ส่วนเรื่องน้ำหนัก ถึงแม้ตัวเลขจากสเปกจะลดลงจาก A500 นิดเดียว แต่ในการใช้งานจริงพบว่ามันเบากว่าแบบรู้สึกได้
เรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อ ดูกันทีละข้าง เริ่มจากด้านขวาของเครื่อง พอร์ตต่างๆ จะถูกตัดออกไปหมด เหลือพอร์ตเสียบสายไฟเพียงพอร์ตเดียว (ต้องชาร์จผ่านอแดปเตอร์ของ Acer เท่านั้น ชาร์จผ่าน USB ไม่ได้นะครับ เป็นข้อเสียมาตั้งแต่ A500)
ขอบด้านบน มุมด้านซ้ายมือจะเป็นปุ่มล็อคเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
พอร์ตที่เหลือต่างๆ ทั้งหมดจะมาอัดกันในฝั่งซ้ายมือของเครื่อง จากซ้ายสุด ปุ่มเปิดเครื่อง, ช่องเสียบหูฟัง, Micro USB, USB, หน้าต่าง
แงะออกมาแล้วจะพบช่องเสียบ Micro SD และปุ่มรีเซ็ต รุ่นที่ทำตลาดไม่มีแบบเสียบซิมได้นะครับ มีแต่ Wi-Fi เท่านั้น (บานพับเปิดยากเล็กน้อยต้องแงะดีๆ)
ด้านล่างของตัวเครื่อง ของเดิม A500 มีพอร์ตสำหรับ docking แต่พอเป็น A200 ก็ถูกตัดออกไปเรียบร้อย
กล้องหน้าถูกย้ายตำแหน่งมาอยู่ตรงกลางของขอบบน ในขณะที่ของเก่าจะอยู่มุมบนซ้ายมือของเครื่อง
ด้านหลัง จะเห็นว่ากล้องหลังถูกเอาออกไป ส่วนลำโพงถูกวางไว้ตำแหน่งเดิม (ผมพบว่าลำโพงของ A200 เสียงเบามาก ในขณะที่ A500 เสียงดังกระหึ่มมาก)
วัสดุด้านหลังของ A200 จะเปลี่ยนมาใช้พลาสติกที่มีผิวขรุขระ จับได้ติดมือมากขึ้น ในขณะที่ A500 ของเก่าเป็นสีโลหะ (brushed metal) จะลื่นกว่า ไม่ติดมือเท่ากับ A200 (ถือเป็นพัฒนาการ)
Full-size USB เสียบเมาส์ได้นะครับ และ ICS ก็รองรับ แต่ยังไม่ค่อยมีประโยชน์กับการใช้งานเท่าไร ตอนเล่นเว็บอาจคลิกลิงก์ได้แม่นยำขึ้น แต่ก็ยังไม่รองรับ scroll wheel ในการเลื่อนหน้าจออยู่ดี
ข้อดีอีกประการหนึ่งของ A200 คือมันมาพร้อมกับ ICS ที่สมบูรณ์กว่า Honeycomb มาก ถึงแม้ว่าโหมดแท็บเล็ตของ ICS จะแทบไม่ต่างจาก Honeycomb เลยก็ตาม (เวอร์ชันที่ได้มาคือ 4.0.3)
ถ้าดูจากภาพข้างบน จะเห็นวงกลมสีเหลืองๆ อยู่บนแถบคำสั่งของ ICS มันคือปุ่มพิเศษที่ Acer เพิ่มเข้ามาให้ (เรียกว่า Acer Ring) กดแล้วจะพบกับ "วงแหวนมหัศจรรย์" โผล่ขึ้นมาดังภาพข้างล่าง
มันคือ quick launch ของ Acer ที่ช่วยให้เข้าถึงแอพและ bookmark ได้ง่ายขึ้น พร้อมปุ่มปรับระดับเสียงบนหน้าจอให้ด้วย ถามว่ามีประโยชน์อะไรไหม คำตอบคือไม่มีเลยครับ (เมื่อไรบริษัทพวกนี้จะเข้าใจผู้บริโภคสักที)
ช็อตคัตของ Acer Ring สามารถปรับได้จากหน้า Settings ด้วยนะครับ ว่าจะเลือกแอพไหนอยู่ตรงไหนบ้าง
ฟีเจอร์อีกอันหนึ่งที่ Acer เพิ่มเข้ามาให้ใน ICS รุ่นของตัวเองคือหน้าจอปลดล็อค จะมีไอคอนของแอพขึ้นมาให้เราเลือกเพิ่มเติม ลากวงกลมเข้าแอพตัวไหนก็จะเปิดไปยังหน้าของแอพตัวนั้นให้ทันที (ICS ปกติมีแต่เข้าโหมดกล้อง)
แน่นอนว่าปรับตำแหน่งและรายชื่อแอพของหน้าจอปลดล็อคได้ในลักษณะเดียวกัน
แอพตัวอื่นๆ ที่แถมมากับ ICS เวอร์ชันของ Acer ส่วนใหญ่ก็เป็นแอพยอดนิยมที่ Acer ไปทำสัญญาเอาไว้ด้วย เช่น Docs to Go, Evernote, SoundHound, McAfee VirusScan, TegraZone, Zinio ส่วนแอพที่เป็นของ Acer เองก็มี SocialJogger, LumiRead, clear.fi, Media Server เป็นต้น ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ
มีเกมแถมมาให้หนึ่งเกมคือ HW Solitaire SE เป็นเกมไพ่ที่เข้าใจว่าเป็นเวอร์ชันพิเศษของ Acer เพราะลายหลังไพ่เป็นโลโก้ของ Acer
สำหรับคนที่ใช้แท็บเล็ต Honeycomb อยู่แล้ว การใช้งานโดยรวมคงแทบไม่มีอะไรต่าง เพียงแต่บั๊กลดลง เก็บรายละเอียดมากขึ้น การทำงานลื่นขึ้นเยอะ (บน Tegra 2 ฮาร์ดแวร์เดียวกัน เห็นได้ค่อนข้างชัด)
จุดขายของ ICS บนแท็บเล็ตที่ผมเจอโดยบังเอิญคือ Chrome for Android เวอร์ชันแท็บเล็ตนั้นดีกว่าเวอร์ชันมือถือมาก และทำงานได้ใกล้เคียงกับ Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปทีเดียว ฟีเจอร์ครบครัน ซิงก์ได้สะดวก โหลดเร็ว เพียงแต่ยังมีบั๊กอยู่บ้างตอนปิดแท็บหลายๆ อันอาจทำให้โปรแกรมค้างได้ (ต้อง kill เท่านั้น) และยังเปิด Flash ไม่ได้ ถ้าพัฒนาต่ออีกสักหน่อยน่าจะเป็นจุดขายของแท็บเล็ต ICS ได้เลย
Acer Iconia A200 คือเหล้าเก่าในขวดใหม่ นำ A500 มาปรับปรุงใหม่ในหลายจุด ขนาดเล็กลงเล็กน้อย เบากว่าเดิม จับได้ถนัดมือขึ้น ถึงแม้จะตัดฮาร์ดแวร์บางส่วนออกไปแต่ก็ไม่กระทบการใช้งานทั่วไปมากนัก
จุดขายของ A200 ในขณะนี้คงเป็นว่ามันเป็นแท็บเล็ต ICS ตัวแรกๆ ในเมืองไทย (ตัวแรกนี่เข้าใจว่าเป็น Transformer Prime นะครับ) แถมราคาค่อนข้างถูกจับต้องได้
ถ้าใครสนใจแท็บเล็ตแอนดรอยด์ขนาด 10" และเน้นราคามากกว่าสเปก + อยากได้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด A200 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
ในกล่องมาพร้อมกับสาย Micro USB to USB และอแดปเตอร์เฉพาะของ Acer เอง (ใช้ร่วมกับ A500 ได้)