คอมพิวเตอร์ได้เป็นสิ่งที่เราต้องอยู่กับมันไปแล้วในสังคมปัจจุบัน ก่อนที่เรามาถึงจุดนี้เราก็ได้ผ่านฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์หลาย ๆ ตัวกันมาแล้ว แม้ว่ามันอาจจะน่าประหลาดใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้แล้ว ที่จริงเราก็มีอะไรที่ล้มเหลวได้อย่างน่าเหลือเชื่อเช่นกัน
ล้มเหลวอันดับที่ 1: The Xerox Alto
ถูกพัฒนาขี้นเมื่อปี 1972 เครื่องนี้มีทุก ๆ อย่างที่เราต้องการ เป็นเครื่องเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน สามารถทำอะไรได้หลายอย่างอย่างน่าเหลือเชื่อในสมัยนั้น มันมีทั้งเมาส์ คีย์บอร์ด สามารถแสดงผล Bitmap ได้ รวมไปถึง drop-down menu มี Word processor และสามารถรับและส่งอีเมลล์ได้อีกด้วย แต่บังเอิญว่าเครื่องนี้กลับไม่ได้ออกสู่ตลาดเพราะว่า Xerox มัวแต่สู้คดีเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของเครื่องถ่ายเอกสารซะนั่น Apple เลยฉวยโอกาสออกเครื่อง Lisa และ Macintosh เมื่อปี 1984 ทันใด สุดยอดแห่งเทคโนโลยีชิ้นนี้จึงได้แต่อยู่ในแลปของ Xerox และไม่ได้ออกสู่สายตาคนในโลก!!!
ล้มเหลวอันดับที่ 2: NeXT Computer
ตอนนั้นเป็นสุดยอดแห่งไอเดียเลยก็ว่าได้ เมื่อ Steve Jobs ของ Apple ได้หนีมาเปิดบริษัทใหม่ในปี 1985 ชื่อ NeXT โดยเรื่อง NeXT Computer นี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ UNIX ที่ถูกที่สุดเลยก็ว่าได้ มันใช้ชิพ Motorola 33-MHz 68030 processor และอยู่ในกล่องสีดำนี้ แน่นอนมันต้องเป็นคอมพิวเตอร์ที่สุดยอด แต่ว่าด้วยราคา $6000 ต่อชิ้นและไม่มีซอฟท์แวร์ใด ๆ ติดมากับเครื่องทำให้มันเป็นแค่ก้อนราคา $6000 เท่านั้น และมันได้ถูกผลิตออกมาแค่ 50,000 เครื่องเท่านั้น โดยที่ NeXT ได้เสียเงินไปกับการพัฒนามันไปมากกว่า $250 ล้าน เลยกลายเป็นหายนะชั ๆ แต่ว่ายังงัยก็ตามนี่คือคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ Tim Berners-Lee กลายเป็นพระเจ้าผู้สร้าง World Wide Web ในภายหลัง และทำให้ทุก ๆ วันนี้เรามา Mac OS X ใช้กัน
ล้มเหลวอันดับที่ 3: IBC PCjr
IBM ได้พยายามากที่จะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาถูกเหมาะสมกับการใช้ในห้องเรียน แต่ปรากฏว่าเขาได้ผลิตเครื่องที่กลับไม่สามารถรันซอฟท์แวร์อะไรได้และคีย์บอร์ดอันเล็กกระจิ๋วเดียวออกมา โดยที่ราคานั้นก็ดันต่ำกว่า IBM-PC นิดเดียวเท่านั้น ทำให้ไม่มีใครซื้อมันเลย แต่สิ่งสุดยอดเล็ก ๆ ของมันก็คือคีย์บอร์ดที่สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ด้วยอินฟราเรด นี่อาจจะทำให้ผู้ใช้สนุกกับมันในห้องเรียนได้โดยการแอบเอาคีย์บอร์ดไปใกล้ ๆ เครื่องอื่น ๆ แล้วพิมพ์เล่นซะ
ล้มเหลวอันดับที่ 4: Apple Newton
แม้ว่ามันเพิ่งจะถูกผลิตออกมาจนถึงแค่ 6 ปีที่แล้วนี่เอง มันไม่เคยประสบความสำเร็จเท่าที่ Apple หวังไว้เลย เหตุผล? ราคาสูงลิ่วและขนาดอันยักษ์ใหญ่ โดยตัวเครื่องนั้นมีระบบ handwriting recognition ที่แย่ แม้ว่าสินค้าตระกูล Newton จะแย่ขนาดนี้ แต่ว่าสิ่งที่ได้ถูกพัฒนามากับมันจนถึงตอนนี้คือสิ่งที่เราใช้กันทุกวันนี้ Handwriting Recognition บน PDA ทุกเครื่อง (Palm) และ iPod กับ OS X นั่นเอง
ล้มเหลวอันดับที่ 5: Apple 3
เมื่อถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1980 เครื่อง Apple 3 ได้กลายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ห้วยแตกที่สุดตั้งแต่โลกนี้เคยมีมาและแพงที่สุดด้วย มันถูกดีไซน์มาเพื่อตลาดธุรกิจแต่ราคามันถึงกับ $7,800 และตลาดธุรกิจก็ไม้อาจจะรับไหว และปัญหาอีกอย่างคือความคิดที่อยากทำให้มันเล็กมาก ๆ จนเกิดปัญหาเรื่องความร้อนทำให้ตัวชิพเริ่มที่จะกระเด็นออกมาจากตัวบอร์ด! (แถมยังไม่มีพัดลมอีกต่างหาก) โดยวิธีแก้ไขปัญหานี้ Apple tech support อาจจะบอกลูกค้าว่า "ให้ยกเรื่องออกสูงจากโต๊ะประมาณ 10 เซนติเมตรและจากนั้นปล่อยมันลงไป" เพื่อที่จะให้ชิพที่หลุดออกมากลับลงไปในรูของมันเหมือนเดิม
ล้มเหลวอันดับที่ 6: Apple Lisa
ราคาเท่าไหร่หรือ? $10,000!!! ประกาศขายเมื่อปี 1983 โดยนี่ล่ะคือหายนะของ Apple ของจริง นาน ๆ ขายได้ที และผลิตออกมากี่ตั้ง 100,000 เครื่อง แต่ตัวเครื่องนั้นมีพลังพอใช้ได้ และผู้ใช้ Apple ก็อยากจะใช้ Macintosh มากกว่าเจ้าตัวนี้ ราคาสำหรับการพัฒนาเครื่องนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผย
ล้มเหลวอันดับที่ 7: Microsoft Windows ME
Microsoft Windows Millennium Edition เป็นรุ่นแรกที่มีนะบบ Universal Plug and Play จาก Microsoft แต่ว่าตัวระบบปฏิบัติการกลับไม่ค่อย compatible กับฮาร์ดแวร์เท่าไหร่เลย แย่กว่า Window 98 เสียเองซะอีก และมันก็ยากมากที่จะ re-install มันอีกครั้ง เพราะว่าที่จริงแล้วเจ้าตัวนี้มันแย่ขนาดที่จะต้อง install มันเกือบทุกอาทิตย์ สำหรับบางคน Windows ME อาจจะ stable กว่า Windows 98 หรือ 98SE และความไม่ stable ของมันนี่เกิดจากการที่ใช้ driver อย่างผิด ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ใช้เริ่มต้นบางคนที่ไม่ชอบนั้นอาจจะเข้าใจแล้วว่า Windows ME ย่อมาจาก "Microsoft Experiment (การทดลองของ Microsoft)", หรือ "Moron Edition (เวอร์ชั่นไอ้โง่)", "Mistake Edition (เวอร์ชั่นผิดพลาด)", และ "Memory Eater"
ล้มเหลวอันดับที่ 8: Microsoft Bob
ปี 1995 เมื่อ Microsoft ได้ออก Software Package ที่สามารถจะใช้แทน Windows Desktop โดยได้บอกว่าเหมาะสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เริ่มต้น โดยหน้าตาของมันประกอบไปด้วยหน้ายิ้มใหญ่ ๆ สีเหลืองกับแว่นตาและห้องต่าง ๆ .... หายนะที่สมบูรณ์แบบ!!! มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอที่จะเอามาขาย? มันไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ และมันก็ราคาแพงเกินไปด้วย!!! โดยมันได้ถูกยกเลิกเมื่อหลังจากนั้นไม่นาน Microsoft รู้ตัวและผลิต Windows 95 ออกมา
ล้มเหลวอันดับที่ 9: IBM OS/2
เมื่อประมาณปี 1990 หลังจากที่ IBM รู้สึกประมาณว่า Microsoft ดันมากลายเป็นระบบหลักบนเครื่องของข้า! ไม่ได้ ๆ ต้องปลิต operating system ของตัวเองมาสู้ โดยผลิต OS/2 กับ PowerPC chip ออกมาด้วยกัน IBM ได้พยายามหลายครั้งที่จะดัน OS/2 กับ OS/2 Warp มาชนกับ Windows และหลังจากนั้นไม่นาน IBM ก็ได้พ่ายแพ้ให้กับ Windows 95 และ 98
ล้มเหลวอันดับที่ 10: CP/M ของ Gary Kildall
เมื่อปี 1980 IBM ในที่สุดก็รู้ตัวว่าเขาต้องผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อผู้ใช้ระบบบ้านและส่วนบุคคลให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ว่าเมื่อถึงเวลาที่จะมาทำระบบปฏิบัติการของตัวเองนั้นเขาก็ไม่รีรอ เขาอยากได้ระบบอะไรก็ได้ที่สามารถจะซื้อมาเป็นของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด (ประหยัดเวลาดี) โดยเมื่อตอนนั้นเกือบได้ตัดสินใจซื้อ CP/M Operating System ของนาย Gary Kildall โดยที่ตอนนั้นนาย Gary Kildall ได้ลาออกจากงานไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของตัวเอง ไม่ดีหรอก มาเอาของ Microsoft ดีกว่า แต่ตอนนั้นเอง Microsoft ตัดสินใจที่จะขาย license ให้ตัวละ $50 ต่อเครื่อง
Microsoft เองก็ยังไม่มีระบบปฏิบัติการของตัวเอง และก็ไม่มีสิทธิที่จะขาย CP/M ที่ไม่ใช่ของตัวเองด้วย ที่จริงแล้ว Gary Kildall เองก็ยังไม่ได้ทำ CP/M ให้สามารถทำงานได้บนคอมพิวเตอร์ 16-bit ที่ IBM จะผลิตได้ Microsoft เลยทำงานกันกับ Gary Kildall เองซะงั้น ไป ๆ มา ๆ Gary Kildall กลับตาย! ทำให้ทุกคนล้มเหลวกันไปหมด!!!
ที่มา - Miguel Carrasco