จากที่ OPPO ได้เผยภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ว่าที่รุ่นบางที่สุดในโลก 6.65 มม. ไปแล้ว (ดูข่าวเก่า) ทาง OPPO ประเทศไทยได้พาไปจับตัวเครื่องจริง ถึงสำนักงานใหญ่ในเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง เกริ่นมาพอเป็นพิธีแล้วก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เพราะงานนี้ไม่ได้มีแค่รุ่นเดียว
รุ่นแรกที่พูดถึงคงหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟนบางสุดในโลก ที่จะทำตลาดเมืองจีนในชื่อ OPPO Finder (ส่วนนอกจีนยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไร) จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ความบาง 6.65 มม. เกือบทั้งเครื่อง มีส่วนของกล้องยื่นออกมาเล็กน้อยเท่านั้น วัสดุทั้งหมดเป็นโลหะ และขอบเป็นอลูมิเนียม ส่วนสเปคมีดังนี้ครับ
หน้าตาตัวเครื่องเป็นแบบนี้ครับ ด้านหน้าเรียบๆ มีแผงปุ่ม capacitive ด้านล่าง 3 ปุ่มมาตรฐาน (menu, home, back) ด้านบนมีแผงเซนเซอร์ และกล้องหน้า
หน้าจอนั้น OPPO ระบุว่าเป็น AMOLED เฉยๆ แต่จากการจับตัวเครื่องจริงทำให้รู้ว่าเป็นจอ AMOLED แบบ RGB เทียบดูแล้วใกล้เคียงหน้าจอ Super AMOLED Plus ของ Galaxy S II ครับ
ขนาดหน้าจอบวกกับความบางแบบนี้ ประสบปัญหาเดียวกับ RAZR คือค่อนข้างถือยากพอสมควร เพราะตัวเครื่องไม่โค้งรับกับอุ้งมือ
ด้านหลังของตัวเครื่องมีลำโพงอยู่ด้านล่าง เสียงดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปพอสมควรครับ ด้านบนเป็นกล้อง 8 ล้านพิกเซล และแฟลช LED คู่ ฝาหลังนี่เป็นโลหะทั้งแผ่นนะครับ และแกะไม่ได้
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียงอย่างเดียว จะเห็นว่าขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียมลากครอบทั้งเครื่องครับ
วนมาด้านขวาจะมีช่องสำหรับใส่ micro SIM ด้านบน ส่วนด้านล่างมีจุดเชื่อมต่อกับด็อกกิ้งครับ
ก้านสำหรับยึดฝาปิดช่องเสียบซิมเป็นพลาสติก ปิดได้สนิทเรียบร้อยดี แต่ต้องทดสอบดูอีกทีว่าคงทนแค่ไหนครับ
ด้านบนของเครื่องมีปุ่ม power และช่อง micro USB
เครื่องทดสอบที่ได้ลองอัพเป็นแอนดรอยด์ ICS 4.0.3 ไปแล้วนะครับ (เป็นเฟิร์มแวร์มีภาษาไทยด้วย) แต่ตัวขายยังไม่แน่นอนว่าจะเป็น ICS มาเลยรึเปล่าครับ
เปรียบเทียบความบางกับ Galaxy S II (8.5 มม.) จะเห็นได้ว่าบางกว่าอย่างชัดเจน
นอกจากซอฟต์แวร์ที่เหมือนกับ Find 3 แบบเป๊ะๆ แล้ว Finder จะมีซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง Find your phone สำหรับตามหามือถือเวลาทำหาย และ Private Zone สำหรับจำกัดให้คนอื่นใช้งานเครื่องได้บางส่วน (เหมือน Guest ในวินโดวส์) ปิดท้ายกันด้วยโฆษณาที่เน้นความบางจาก OPPO เลยครับ
นอกจาก Finder แล้วยังมีอีกสองรุ่นที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยพร้อมๆ กัน อย่างน้องเล็กสุดของซีรีส์ Find Guitar สมาร์ทโฟนสองซิมที่มาพร้อมกับระบบเสียง Dirac HD สเปคเด่นๆ มีดังนี้ครับ
วัสดุของ Find Guitar จะเป็นพลาสติกสีขาวมุกทั้งเครื่อง ด้านหน้ามีแผงปุ่ม capacitive เหมือนรุ่นอื่นๆ ครับ
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีพอร์ต micro USB ด้านบน ด้านล่างช่องใส่ที่ห้อยมือถือ (มีข้อความว่า Designed by OPPO ด้วย)
ด้านขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียง ตัวปุ่มเป็นพลาสติกเคลือบเมทัลลิคครับ
ฝาหลังจะครอบด้านหลังทั้งชิ้น ด้านล่างเป็นลำโพง ด้านบนเป็นกล้องและแฟลชครับ ลองขูดขีดแล้วเป็นรอยง่ายพอสมควร
ปิดท้ายด้วยด้านในตัวเครื่อง รองรับสองซิม และใส่เมมโมรี่ micro SD ได้ตามมาตรฐาน (ที่ใส่อยู่เหนือแบตเตอรี่)
รุ่นสุดท้ายที่ OPPO เอามาโชว์ในครั้งนี้คือ Find Gemini ที่เป็นสมาร์ทโฟนสองซิมเหมือนกับ Find Guitar แต่ได้หน้าตา และสเปคที่เหนือกว่า รวมถึงเน้นไปที่ลูกเล่นกล้อง การปรับแต่งอินเทอร์เฟซที่มีให้เลือกมากถึง 4,000 แบบ และการอินทิเกรท Facebook Message และ Album เข้ามากับตัวเครื่องเลย
ตัวเครื่องวัสดุเป็นพลาสติกมันทั้งเครื่อง และมีแถบโครเมียมรอบเครื่อง เทียบกันแล้วดูดีกว่า Find Guitar พอสมควร สเปคมีดังนี้ครับ
ตัวเครื่องด้านหน้า เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ครับ ด้านล่างมีแผงปุ่ม capacitive วางตำแหน่งเหมือนกันเด๊ะ
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีปุ่ม power อยู่เดี่ยวๆ
ด้านขวามีปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านบนมีแค่พอร์ต 3.5 มม. อย่างเดียวครับ
ฝาหลังมีกล้องและแฟลช ด้านล่างเป็นลำโพงเหมือนรุ่นอื่นๆ
ด้านในมีช่องใส่ซิมสองช่อง และที่ใส่เมมโมรี่ micro SD ตำแหน่งเดียวกับ Find Guitar ครับ
สำหรับทั้งสามรุ่นนี้ Find Guitar จะเริ่มขายในประเทศไทยก่อนรุ่นอื่น โดยวางขายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ราคา 6,990 บาท ส่วนอีกสองรุ่นอย่าง Finder และ Find Gemini จะตามมาในภายหลัง ราคายังไม่เคาะทั้งคู่ครับ
ในปีนี้ OPPO บอกว่าจะมีสมาร์ทโฟนเปิดตัวทั้งหมด 6 รุ่น ตอนนี้เผยโฉมออกมาแล้ว 4 รุ่น (Find 3, Finder, Find Guitar, Find Gemini) และที่แน่ๆ คือหนึ่งในสองรุ่นที่เหลือ มีรุ่นนึงเป็นจอความละเอียดสูงระดับ HD มาเล่นตลาดบนด้วยแน่นอนครับ
ใครสนใจรายละเอียดอื่นๆ ถามในช่องความเห็นกันได้ครับ จะตอบเท่าที่พอรู้ครับ