Eduardo Saverin คือผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook อีกคนหนึ่ง ที่ภายหลังมีปัญหาขัดแย้งกับ Mark Zuckerberg จนต้องลาออกจากบริษัทไป (แต่ยังมีหุ้นเหลืออยู่ในบริษัท) และประเด็นนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Social Network เมื่อปี 2010
ปัจจุบัน Saverin ประกอบอาชีพเป็นนักลงทุนในบริษัทหน้าใหม่ด้านไอทีที่ประเทศสิงคโปร์ เขาเพิ่งเป็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้เมื่อประกาศสละสัญชาติสหรัฐและหันไปถือสัญชาติสิงคโปร์แทน (เขาเกิดในบราซิล แต่ภายหลังครอบครัวย้ายมาอยู่สหรัฐ)
ตัวของ Saverin ไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ขัดแย้งกับ Mark Zuckerberg มาก่อน แต่หลังจาก Facebook ขายหุ้น IPO แล้ว เขาก็ยอมให้สัมภาษณ์กับนิตยสารข่าว Veja ของบราซิลแล้ว
เรื่องที่ Saverin พูดถึงในบทสัมภาษณ์มีหลายประเด็น เช่น ชีวิตในวัยเด็กของเขา การลงทุนในสิงคโปร์ การสละสัญชาติ ฯลฯ แต่ประเด็นสำคัญของการสัมภาษณ์อยู่ที่ความขัดแย้งของเขากับ Zuckerberg ซึ่งเขาตอบว่าไม่เคยมีความรู้สึกแย่ๆ ระหว่างกันและกัน (there are no hard feelings between us) ประโยคเต็มๆ มีดังนี้ครับ
“I have only good things to say about Mark, there are no hard feelings between us. His focus on the company since its very first day is anything short of admirable. He was a visionary, he always knew that the only way for Facebook to grow was to maintain its central idea, that of people truly presenting themselves as they are, without nicknames or pseudonyms. That’s Facebook’s biggest strength, what allowed us to transform it into an instrument of protest, like what happened in Egypt, but also in an instrument of business, not to mention a way of naturally connecting with friends.”
นอกจากนี้เขายังพูดถึงภาพยนตร์ The Social Network ที่มีคาแรกเตอร์ของตัวเขาในเรื่องว่า "เป็นการแต่งเรื่องแบบฮอลลีวู้ด" เพราะในชีวิตจริงเขาไม่เคยโยนโน้ตบุ๊กแบบในหนัง
“That’s Hollywood fantasy, not a documentary. Facebook wasn’t built out of a Harvard dorm window. And I would never throw a laptop at someone, like it appears in the movie. Not even at Mark.”
ที่เหลืออ่านกันเองตามลิงก์
ที่มา - Forbes