เมื่อปีก่อน สองหัวหอกของ Samsung ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับย่อมเยาที่ประสบความสำเร็จมากคงหนีไม่พ้น Galaxy Mini และ Galaxy Cooper ที่ยึดหัวหาดเอาไว้ได้สำเร็จ
ปีนี้ Samsung เริ่มทยอยเปิดตัวรุ่นต่อของสองรุ่นที่ว่าแล้ว ตัวที่ทางเราได้มารีวิวแล้วก็คือ Galaxy Ace 2 ที่เปลี่ยนชื่อจากเดิม (Cooper) ไปใช้ชื่อเหมือนที่ขายในประเทศอื่นๆ (Ace) พร้อมทั้งปรับหน้าตาเพื่อลดข้อครหาว่าเหมือนคู่แข่ง (ที่คุณก็รู้ว่าใคร) เพิ่มสเปคเป็นดูอัลคอร์ และขยายขนาดหน้าจอเป็น 3.8 นิ้ว เริ่มวางขายแล้วช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยราคา 9,900 บาท รองรับ 3G ความถี่ 900/2100MHz และมีรุ่นรองรับ 850/2100MHz ด้วยครับ สเปคเด่นๆ มีดังนี้ครับ
เกริ่นมาพอสมควรแล้วก็เข้าช่วงรีวิวกันเลย
ฮาร์ดแวร์
หลายคนคงจำกันได้ดีว่า Galaxy Cooper นั้นหน้าตาคล้ายกับมือถือรุ่นหนึ่งอย่างกับแกะ และเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเยอะมากในช่วงเปิดตัว มาครั้งนี้ Galaxy Ace 2 ปรับมาใช้การออกแบบของ Samsung ในยุคหลังคือขอบโค้งมน และปุ่มโฮมแบบกว้างขึ้น
ด้านหน้าใช้จอภาพแบบ PLS TFT ขนาด 3.8 นิ้ว ความละเอียดก็เพิ่มขึ้นเป็น 800x480 พิกเซลด้วย โดยฟังก์ชันของจอประเภท PLS จะใกล้เคียงกับจอ IPS คือมีมุมแสดงผลกว้าง คอนทราสต์จัดจ้าน และด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าเครื่องอื่นๆ ในความละเอียดเดียวกัน ผลที่ได้คือความ"คม"มากกว่าที่รู้สึกได้ครับ
ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียง และช่องสำหรับเพิ่มเมมโมรี่แบบ micro SD และจะเห็นได้ว่ารุ่นนี้มีขอบด้านบนติดกับหน้าจอเป็นโครเมียมวนรอบทั้งเครื่องด้วย
โยกมาฝั่งขวาจะพบกับปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ตำแหน่งมาตรฐานของ Samsung
ช่วงล่างของ Galaxy Ace 2 จะเห็นได้ว่าปุ่มโฮมนั้นกว้างกว่าเดิมอย่างชัดเจน ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อยังใช้เป็น micro USB มาตรฐาน ข้างๆ กันเป็นรูไมโครโฟน
ช่วงบนของตัวเครื่องมีพอร์ตเสียบหูฟัง 3.5 มม. และช่องสำหรับเปิดฝาหลัง ที่ค่อนข้างแข็งพอสมควร แต่ปิดได้แน่นดีครับ
พลิกไปดูฝาหลังของ Galaxy Ace 2 นั้นใช้เป็นพลาสติกแข็งพิมพ์ลาย ช่วยให้เป็นรอยยาก ผสมโรงกับการออกแบบที่โค้งรับกับมือ ขนาดตัวเครื่องเท่านี้ ทำให้จับได้ถนัดมือมากครับ
ด้านบนของฝาหลังมีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และแฟลช LED เรื่องคุณภาพเอาไว้พูดทีหลังครับ ส่วนข้างๆ กันคือลำโพงที่เสียงดังกว่ามือถือทั่วไป คุณภาพเสียงจากลำโพงถือว่าดีกว่ามาตรฐานครับ
เปิดฝาหลังดูจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh ช่องเสียบซิมการ์ดขนาดปกติครับ
เปรียบเทียบ
ด้วยขนาดหน้าจอ 3.8 นิ้ว แต่เอาเข้าจริงแล้ว ตัวเครื่องของ Galaxy Ace 2 นั้นไม่ได้ใหญ่โตเลย เทียบกับรุ่นที่ขนาดใกล้เคียงกันที่สุดคงหนีไม่พ้นรุ่นนี้ครับ
Galaxy Ace 2 ไม่ใช่มือถือที่บางนัก (10.5 มม.) แต่ก็ไม่หนาจนเกินไป เทียบกับ iPhone 4 ที่บาง 9.4 มม. แล้วได้ผลเป็นแบบนี้ครับ
ส่วนของหน้าจอ PLS ที่พัฒนาโดย Samsung เองนั้นทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดไว้มากครับ เทียบกับ iPhone 4 ที่เป็น IPS แล้วรู้สึกได้ถึงคอนทราสต์ที่จัดกว่า ภาพสดกว่า แต่เนียนตายังตกเป็นรองด้วยจำนวนพิกเซลที่น้อยกว่าครับ
ไปมาๆ ผมชอบจอ PLS มากกว่า AMOLED อีกแฮะ
เทียบอีกภาพให้เห็นว่าสดกว่าจริงๆ
เวลาถือจะประมาณนี้ครับ ใช้งานมือเดียวสบายๆ
หมดเรื่องฝั่งฮาร์ดแวร์แล้ว เดี๋ยวเราไปต่อกันที่ซอฟต์แวร์ครับ
ซอฟต์แวร์
Galaxy Ace 2 มาพร้อมกับแอนดรอยด์ 2.3 Gingerbread ที่ใช้อินเทอร์เฟซ TouchWiz 4.0 ตัวเดียวกับที่เปิดตัวครั้งแรกบน Galaxy S II ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นตัวแรกที่ใช้อินเทอร์เฟซนี้
ในแง่ของฟังก์ชัน และฟีเจอร์นั้นไม่ต่างอะไรกับที่เคยเห็นใน Galaxy S II การใช้งานทั่วไปถือว่าลื่นมากสมเป็นดูอัลคอร์ หน้าตาคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
ตัว TouchWiz 4.0 ของ Galaxy Ace 2 จะพ่วงแอพ ChatOn ของ Samsung มาด้วย ฝั่งคีย์บอร์ดมี Swype มาด้วยครับ (แต่ไม่ใช่มาตรฐาน ต้องเปิดเอง)
การใช้งานทั่วไป และเบนช์มาร์ค
พอจะรู้กันแล้วว่าดูอัลคอร์ของ Galaxy Ace ถึงแม้ว่าจะลดสัญญาณนาฬิกาลงมาเหลือ 800 แต่ประสิทธิภาพโดยรวมก็ยังถือว่าดี ก่อนจับไปเบนช์มาร์คเพื่อวัดผล มาดูข้อมูลกันหน่อยว่าชิปดูอัลคอร์ตัวนี้มีอะไรบ้าง
ชิปตัวนี้ก็เป็น NovaThor U8500 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S Advance นั่นเอง แน่นอนว่าในส่วนของจีพียูเป็น ARM Mali-400 MP ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S II (แต่ลดจำนวนคอร์ลงมา) ทดสอบผ่าน GLBenchmark 2.1.4 แล้วได้ผลดังนี้ครับ (ทดสอบแต่แบบ offscreen ที่จะรันกราฟิกที่ความละเอียด 1280x720 พิกเซล โดยไม่สนความละเอียดตัวเครื่องครับ)
ตามมาด้วยแอพเบนช์มาร์คยอดฮิต Quadrant Standard 2.0 ก็สามารถทำคะแนนได้ระดับเดียวกับ Galaxy Tab ที่ใช้ Tegra 2 เลย มัลติทัชใช้ได้สูงสุด 7 จุด แต่เสถียรจริงๆ ที่ 3-4 จุดครับ
การจับสัญญาณดาวเทียม ถ้าใช้ร่วมกับ 3G จะสามารถจับสัญญาณได้เร็วมาก (ลืมฝันร้ายของ Galaxy S ไปได้เลย) ถ้าไม่เปิด 3G จะใช้เวลาประมาณ 3-5 นาทีจึงจะจับตำแหน่งได้ครับ
จุดเด่นอีกเรื่องของ Galaxy Ace 2 คือแบตเตอรี่ครับ แม้ว่าจะมีปริมาณมาตรฐานเพียง 1500 mAh แต่เอาเข้าจริงสามารถเปิด 3G เล่นได้หมดวันแบบสบายๆ สแตนบายด์สามวัน (แบบไม่ต่อ 3G) แบตเตอรี่ลดไปไม่ถึง 5% ประทับใจแบบไม่คาดคิดมาก่อน :P
กล้อง
ปิดท้ายรีวิวกันด้วยกล้องครับ กล้องของ Galaxy Ace 2 มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED จากการใช้งานจริงพบว่าความเร็วชัตเตอร์อยู่ในระดับทันใช้งาน แต่ไม่ถึงกับเร็วมาก ถ่ายรัวได้แบบรุ่นบนๆ
ความคมของภาพอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่บางเฉดสีจะจืดกว่าปกติเช่นสีเขียว สีฟ้า ฯลฯ (สีโทนเย็นทั้งหมด) ภาพทั้งหมดสามารถดูได้จากลิงก์นี้ สามารถคลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดเต็มได้ครับ
แสงทั่วไป
แสงน้อย
ภาพแบบใช้แฟลชผมลืมถ่ายมาครับ เขียนบอกแทนละกันว่าแฟลชค่อนข้างเบา เลยเลือกปิดแฟลชแล้วถือนิ่งๆ มากกว่าครับ
สรุป
Galaxy Ace 2 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มราคาในราคากลางๆ โดยเฉพาะราคาต่ำหมื่นที่สุดแล้วในช่วงนี้ คู่แข่งสำคัญหนีไม่พ้น Sony Xperia U ที่เป็นดูอัลคอร์เหมือนกัน (ชิปก็ตัวเดียวกัน) แต่มีหน้าจอ และแรมที่น้อยกว่า ถ้าหากว่าเน้นกล้องก็มี HTC One V เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ ทั้งสามรุ่นนี้ราคาเท่ากันที่ 9,900 และเริ่มวางขายหมดแล้ว
ข้อดี
ข้อเสีย
มีอะไรเพิ่มเติม ถามได้ในช่องความเห็นเหมือนเดิมครับ